WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

บิ๊กโชย บ่นงานล้น-มีแต่คนเรียกให้จับ ลั่นไม่มีถอยหลัง ยึดตามโรดแมป ยันใช้ยาแรงมากกว่านี้ไม่ได้แล้ว


พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์

 

มติชนออนไลน์ :เมื่อวันที่ 17 มีนาคม ที่กองบัญชาการกองทัพภาคที่ 1 พล.ท.กัมปนาท รุดดิษฐ์ แม่ทัพภาคที่ 1 ในฐานะผู้อำนวยการศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป (ศปป.) กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ภาค 1 ได้เป็นประธานงานสัมมนาในโครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์ของศูนย์ปรองดองสมานฉันท์เพื่อการปฏิรูป โดยมีสื่อมวลชนจำนวน 250 คนจากพื้นที่ภาคกลางเข้าร่วมงาน 

      พล.ท.กัมปนาท กล่าวว่า หัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) มีนโยบายที่เกี่ยวกับสื่อ 2 หัวข้อหลัก ได้แก่การสร้างความเข้าใจกับสื่อ เพื่อความเข้าใจที่ตรงกันและสามารถถ่ายทอดให้ประชาชนเข้าใจได้อย่างชัดเจน และการควบคุมสื่อซึ่งหัวหน้า คสช.ต้องการให้สื่อดูแลกันเอง อยู่ในกรอบจริยธรรมที่ดีงาม 

      "หัวหน้า คสช.นั้นไม่ปรารถนาที่จะใช้อำนาจกับสื่อ จึงจัดโครงการสื่อมวลชนสัมพันธ์ขึ้น เพื่อพูดคุยและเข้ามาทำความเข้าใจร่วมกัน ในการที่ คสช.จะต้องเข้ามาทำหน้าที่ควบคุมการบริหารประเทศ และขอให้สื่อช่วยกันสร้างบรรยากาศความปรองดองให้เกิดขึ้น สื่อที่ร่วมงานมาจาก 26 จังหวัดภาคกลาง ซึ่งอยู่ในพื้นที่ของกองทัพภาคที่ 1 ก็ขอให้ร่วมมือกัน หากมีปัญหาอะไรให้แจ้งเข้ามา เพื่อช่วยแก้ปัญหาไป ส่วนตัวให้เกียรติสื่อมวลชนมาตลอด หากมีข้อสงสัยใดๆ สามารถสอบถามได้ ประเทศเดินหน้ามาแล้ว ไม่มีการถอยหลัง ขอให้ช่วยกันก้าวไปข้างหน้าในช่วงที่มีการเปลี่ยนผ่านนี้" พล.ท.กัมปนาทกล่าว 

       ผู้สื่อข่าวรายงานว่า จากนั้นสื่อที่เข้าร่วมสัมมนาได้แสดงความคิดเห็นทั้งในเรื่องงานของรัฐบาลและ คสช.ในภาพใหญ่ และปัญหาข้อติดขัดเกี่ยวกับการทำหน้าที่ของตนเอง โดยเฉพาะผู้จัดรายการของสถานีวิทยุชุมชนและสถานีวิทยุในสังกัดหน่วยงานอื่นที่ถูกระงับการออกอากาศตั้งแต่หลังการรัฐประหารเป็นต้นมาหลายสถานี เพื่อรอการจัดระเบียบของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.)

    ทั้งนี้ พล.ท.กัมปนาทกล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินการจัดระเบียบอยู่เพื่อไม่ให้มีการเบียดคลื่นสัญญาณกัน และไม่ให้เสาสูงจนรบกวนคลื่นวิทยุการบิน ตอนนี้กำลังแก้ไขปัญหากันอยู่โดย กสทช. ซึ่งถือเป็นหน้าที่ที่ต้องเร่งทำเพราะเดือดร้อนกันหลายส่วน อย่างไรก็ตาม สิ่งที่เราเป็นห่วงคือ หน่วยงานใดมีหน้าที่ทำแต่ไม่ทำ มีอะไรก็เรียกให้ทหารไปจับหมด ทั้งที่ทหารก็งานล้นมือมาก 

      "ประเทศไทยมีผู้รับผิดชอบกฎหมาย แต่ไม่บังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพ เมื่อบังคับใช้ไม่ได้ ก็ใช้กำลังทำร้ายเจ้าหน้าที่อย่างในอดีต แล้วก็ปล่อยๆ กันไป ขนาดตอนนี้มีกฎอัยการศึกยังไม่กลัวกันเลย ถือว่าใช้ยาแรงสุดแล้ว ต่อไปคงใช้อะไรที่แรงไปกว่านี้ไม่ได้อีกแล้ว มีอะไรขึ้นก็เตรียมตัวตายกันอย่างเดียว" พล.ท.กัมปนาทกล่าว และว่า ในเรื่องการจัดทำโรดแมปของรัฐบาลและ คสช.ก็เพื่อเตรียมงานวางรากฐานให้ประเทศ และเมื่อถึงเวลาก็จะไม่มีปัญหา เพราะมีพันธสัญญา ไม่ใช่เบี้ยวเหมือนที่เกิดกันมาในอดีต แต่ที่ห่วงคือมีรัฐบาลใหม่มาก็จะนำที่เราวางเอาไว้ไปทำ เช่น แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติเดินมาถึงฉบับที่ 11 แล้ว แต่ไม่เคยมีใครเดินตามแผนเลย รัฐบาลที่ผ่านมาไม่ยึดถือ ใช้นโยบายของพรรคมาทำแล้วก็ไป แผนพัฒนาจึงเป็นแค่แผนที่เขียนไว้ในกระดาษเท่านั้น รัฐบาลนี้จึงพยายามทำแผนไว้ให้เป็นรากฐานคือ การทำมาสเตอร์แพลนแผนบริหารจัดการน้ำและหลายๆ เรื่อง

 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!