Details

Category: กรมตำรวจ

Published: Sunday, 20 December 2015 08:24

Hits: 6998

ให้ประกัน'ธเนตร' หมายเพิ่ม 11 นศ.ไปราชภักดิ์ ตร.รถไฟเรียกจ่านิว-พวก ข้อหามั่วสุมเกิน 5 คน ปปท.สอบพบค่าหัวคิว เร่งขยายผลดำเนินคดี

    ศาลทหารให้ประกัน "ตูน-ธเนตร" ผู้ต้องหาโพสต์ผังราชภักดิ์ หลัง ทหาร-ตร.หิ้วตัวมาฝากขังผัดแรกแต่มีเงื่อนไขห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง เลขาธิการป.ป.ท.ระบุตรวจสอบพบโครงการราชภักดิ์ ใช้งบราชการและงบบริจาค ซึ่งต้องใช้จ่ายตามระเบียบราชการ ขณะที่ในขั้นตอนจัดจ้างมีการหักค่าหัวคิว อยู่ระหว่างตรวจสอบเชิงลึก

วันที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9152 ข่าวสดรายวัน

 
ได้ประกัน - จนท.ปล่อยตัวนายธเนตร อนันตวงษ์ ผู้ต้องหาคดีโพสต์ผังราชภักดิ์ หลังยื่นประกันตัว 1 แสนบาท ที่เรือนจำชั่วคราว มทบ.11 ขณะที่ตร.ออกหมายเรียกน.ศ.ที่เข้าร่วมกิจกรรมขึ้นรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์อีก 11 คน เมื่อ 18 ธ.ค.

      เมื่อวันที่ 18 ธ.ค.ที่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ(ป.ป.ท.) นายประยงค์ ปรียาจิตต์ เลขาธิการ ป.ป.ท. ในฐานะเลขานุการศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) กล่าวถึงความคืบหน้าการตรวจสอบโครงการอุทยานราชภักดิ์ ในประเด็นการเรียกรับค่าหัวคิวรูปหล่อองค์พระบูรพกษัตริย์ ว่า ป.ป.ท.ร่วมกับสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) เพื่อตรวจสอบประเด็นดังกล่าว โดยเริ่มตรวจสอบตั้งแต่ช่วงแรกที่มีการนำเสนอข้อมูลผ่านสื่อต่างๆ ซึ่งการตรวจสอบพบว่าการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ใช้งบประมาณจาก 2 ส่วน คือ งบประมาณส่วนของราชการ และงบประมาณจากการบริจาค โดยส่วนหนึ่งเป็นการบริจาคจากส่วนราชการต่างๆ อย่างไรก็ตาม เมื่อปรากฏข้อเท็จจริงว่าเป็นงบประมาณของทางราชการ จึงต้องใช้จ่ายในรูปแบบตามระเบียบราชการ

     นายประยงค์ กล่าวต่อว่า จากการตรวจสอบต่อมาพบว่าในขั้นตอนการจัดจ้างมีการหักค่าหัวคิว ซึ่งในทางราชการถือว่าผิดกฎหมาย ศอตช.จึงดำเนินการตรวจสอบประเด็นนี้ ว่าเกิดขึ้นช่วงใด ที่ไหน และพฤติการณ์เป็นอย่างไร หากพบว่าฝ่ายเอกชนกระทำโดยพลการ ทางหน่วยงานราชการที่มีหน้าที่เกี่ยวข้องต้องแจ้งข้อหาเพื่อดำเนินคดี และหากผลตรวจสอบพบว่าเอกชนร่วมกับเจ้าหน้าที่รัฐเรียกรับค่าหัวคิวก็ต้องดำเนินการตามกฎหมาย โดยเจ้าหน้าที่รัฐที่ร่วมกระทำผิดต้องรับผิดชอบร่วมกับเอกชน ทั้งนี้ป.ป.ท.ส่งเจ้าหน้าที่ไปตรวจสอบในพื้นที่แล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างตรวจสอบยังไม่สามารถเปิดเผยรายละเอียดได้

      เมื่อเวลา 10.30 น. นายสิรวิชญ์ เสรีนิวัฒน์ หรือจ่านิว น.ศ.ธรรมศาสตร์ แกนนำกลุ่มธรรมศาสตร์เสรีเพื่อประชาธิปไตย เดินทางมาที่หน้าเรือนจำชั่วคราว มทบ.11 เพื่อยื่นหนังสือถึงคสช. ให้เห็นแก่มนุษยธรรม ส่งตัวนายธเนตร อนันตวงษ์ แนวร่วมกลุ่มเอ็นดีเอ็มไปรับการรักษาอาการป่วยลำไส้ใหญ่อักเสบ และไส้เลื่อน ซึ่งอยู่ระหว่างรับยาปฏิชีวนะและรอคิวผ่าตัดที่ร.พ. โดยมีพ.ต.อ.มนต์ชัย ศรีประเสริฐ ผกก.สน.สามเสน นำตำรวจร่วมกับทหารหลายสิบนายมาดูแลสถานการณ์ ทั้งนี้ก่อนที่นายสิรวิชญ์จะมาถึงประมาณครึ่งชั่วโมง ทหารนำนายธเนตรไปที่กองปราบปราม ก่อนส่งตัวไปยังศาลทหารเวลา 12.00 น. นายสิรวิชญ์จึงยกเลิกการยื่นหนังสือ

     นายสิรวิชญ์ กล่าวว่า ช่วงเวลา 05.00 น. ของวันนี้ได้รับทราบข้อมูลว่า ทหารจะคุมตัวนายธเนตร หรือตูน ไปที่กองปราบฯเพื่อแถลงข่าวในเวลา 08.00 น. ก่อนเปลี่ยนเป็นเวลา 10.00 น. ตนเองจึงมีความสงสัยในขั้นตอนที่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติ ซึ่งชัดเจนว่าไม่ได้ทำตามขั้นตอน เนื่องจากยังไม่ครบกำหนดฝากขังเป็นเวลา 7 วัน และการควบคุมตัวก็มิชอบด้วยกฎหมาย จึงไม่มีประโยชน์อะไรแล้วที่จะยื่นหนังสือขอให้ปล่อยตัวนายธเนตรในวันนี้ หลังจากนี้ต้องรอดูว่าเจ้าหน้าที่จะทำอะไรอย่างไรต่อไป ตอนนี้ทางครอบครัวมีความเป็นห่วงมาก เนื่องจากนายธเนตรป่วย 

     ต่อมาเวลา 14.00 น.ที่ศาลทหารกรุงเทพ พนักงานสอบสวนกองปราบฯ และทหารนำตัวนายธเนตร อนันตวงษ์ หรือตูน ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลทหาร ข้อหาร่วมโพสต์แผนผังทุจริตอุทยานราชภักดิ์ที่เป็นเท็จ กระทำให้ปรากฏแก่ประชาชน เพื่อให้เกิดความปั่นป่วนตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 116 และความผิดตามพ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ยื่นขอฝากขังผัดแรก ท่ามกลางมาตรการรักษาความปลอดภัยอย่างเข้มงวด

      เวลา 16.00 น.ศาลทหารอนุญาตให้ฝากขังนายธเนตรผัดแรกเป็นเวลา 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 19-30 ธ.ค. ตามคำขอของพนักงานสอบสวน จากนั้นเจ้าหน้าที่ราชทัณฑ์และทหารคุมตัวไปยังเรือนจำชั่วคราวมทบ.11 ด้านทนายความของนายธเนตรได้ยื่นขอประกันตัววงเงิน 4 แสนบาท ศาลทหารพิจารณาแล้วอนุญาตให้ประกันตัวในวงเงิน 1 แสนบาท พร้อมกับมีเงื่อนไขห้ามเคลื่อนไหวทางการเมือง และห้ามยุยงปลุกปั่น และต้องมารายงานตัวทุกๆ 12 วัน

     วันเดียวกัน พรรคเพื่อไทยออกเเถลงการณ์กรณีตรวจสอบความไม่โปร่งใสโครงการก่อสร้างอุทยานราชภักดิ์ (ฉบับที่ 7) สรุปว่า 1.รัฐบาลต้องให้ผู้เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะกองทัพบกและพล.อ.อุดมเดช สีตบุตร ประธานผู้รับผิดชอบโครงการชี้แจงข้อเท็จจริงและรายละเอียดการรับบริจาค และงบประมาณการก่อสร้างเพื่อความโปร่งใสและลดความเคลือบแคลงสงสัยของประชาชน, 2.เนื่องจากมีบุคคลในรัฐบาลและคสช. ถูกตั้งข้อสงสัยเกี่ยวข้องกับการใช้จ่ายเงินที่ไม่โปร่งใส การที่รัฐบาลมอบหมายคณะกรรมการตรวจสอบซึ่งเป็นบุคคลที่รัฐบาลหรือคสช.แต่งตั้งขึ้น อาจทำให้ผลตรวจสอบไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริงและไม่ได้รับการยอมรับจากประชาชน จึงควรแต่งตั้งคณะกรรมการที่เป็นกลางและอิสระตรวจสอบคู่ขนานไปกับคณะกรรมการของรัฐบาล และควรรับฟังผลการตรวจสอบจากองค์กรที่มีอำนาจหน้าที่เป็นส่วนสำคัญด้วย

     3.รัฐบาลและคสช. ต้องไม่ใช้อำนาจขัดขวางการตรวจสอบหรือใช้กฎหมาย คุกคาม จับกุมดำเนินคดีผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์และตรวจสอบเรื่องดังกล่าวเพื่อกลบเกลื่อนข่าวการทุจริต, 4.แม้รัฐบาลจะได้อำนาจมาโดยรัฐ ประหาร และใช้อำนาจปกครองโดยทหาร แต่เมื่อมีรัฐธรรมนูญแล้วแม้จะเป็นรัฐธรรมนูญชั่วคราวแต่ก็ได้รับรองศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ สิทธิ เสรีภาพ และความเสมอภาค ของบุคคลไว้ตามมาตรา 4 และรัฐบาลมีพันธกรณีที่ต้องปฏิบัติตามปฏิญญาสากลแห่งสหประชาชาติ และตราสารระหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิมนุษยชน ดังนั้นการปิดกั้นและจับกุมผู้ที่วิพากษ์วิจารณ์อาจเป็นการละเมิดสิทธิมนุษยชน ซึ่งจะส่งผลลบต่อความน่าเชื่อถือของประเทศไทย รัฐบาลจึงควรเปิดโอกาสให้ประชาชนได้แสดงความคิดเห็นวิพากษ์วิจารณ์ในเรื่องดังกล่าวได้ ภายใต้ขอบเขตของกฎหมาย 

    5.คสช.ประกาศให้ประชาชนทราบว่าได้รัฐประหารและเข้าบริหารประเทศ เพื่อสร้างความปรองดองสมานฉันท์ของคนในชาติ แต่กว่าหนึ่งปีครึ่งแล้วยังไม่เห็นแนวทาง หรือความชัดเจนที่จะนำมาซึ่งความปรองดองของคนในชาติได้ ในทางตรงกันข้ามรัฐบาลกลับถูกมองว่ามีส่วนสร้างความขัดแย้งและเป็นคู่ขัดแย้งกับประชาชนเสียเอง ดังนั้นกฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรครัฐบาลและคสช.ควรผ่อนปรนและยกเลิก เพื่อไม่ให้เกิดการเผชิญหน้า รัฐบาลควรทำหน้าที่ชี้แจงข้อเท็จจริงกับประชาชนมากกว่าใช้วาทะ โวหาร ทำสงครามข้อมูลข่าวสารกับประชาชนที่เห็นต่าง

    ต่อมาเวลา 21.00 น. นายธเนตรได้รับการปล่อยตัวออกมาจาก มทบ.11 โดยอยู่ในชุดเสื้อโปโลแขนสั้นสีเทา ปกคอสีส้ม กางเกงขาสามส่วนลายพราง รองเท้าแตะ มีเจ้าหน้าที่นอกเครื่องแบบเดินออกมาส่งที่หน้ามทบ.11 ท่ามกลางกลุ่มเพื่อนๆ มารอรับบริเวณด้านหน้าประตู ทั้งหมดสวมกอดแสดงความดีใจ

      นายธเนตร กล่าวว่า วันที่ถูกจับกุมตนรักษาตัวอาการป่วยโรคลำไส้อักเสบอยู่ที่ร.พ.สิรินธร ขณะจะจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลอยู่นั้น มีเจ้าหน้าที่เข้ามาพูดคุยบอกว่ามีหมายจับ ตนจึงขอดูบัตรประจำตัว แต่เจ้าหน้าที่ไม่ยอมให้ดู จากนั้นก็ถูกควบคุมตัวไปยังค่ายแห่งหนึ่ง ไม่ทราบว่าเป็นที่ใด อยู่ที่ค่ายนั้นประมาณ 7 วัน ตนขอขอบคุณรัฐบาลที่ได้ให้เกียรติตนอย่างสูง ที่ทำให้เป็นถึงขั้นแอดมิน ทั้งที่ตนไม่เคยรู้เรื่องเลย การโพสต์เป็นการโพสต์แบบธรรมดา และไม่รู้ด้วยว่าถูกออกหมายจับ กระทั่งมาถูกจับกุมดังกล่าว

     จากนั้นเพื่อนๆ พานายธเนตรกลับบ้านโดยขึ้นรถแท็กซี่ออกไป

     เมื่อเวลา 19.30 น. เฟซบุ๊กส่วนตัวของ น.ส.ชนกนันท์ รวมทรัพย์ หรือตูน นิสิตรัฐศาสตร์ จุฬาฯ โพสต์รูปภาพหมายเรียก ผู้ต้องหาของสำนักงานตำรวจเเห่งชาติ (ตร.) ออกที่สถานีตำรวจรถไฟธนบุรี เมื่อวันที่ 14 ธ.ค. โดยในหมายเรียกระบุผู้ต้องหาคือ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ กับพวกรวม 11 คน แจ้งข้อหามั่วสุม หรือชุมนุมทางการเมือง ณ ที่ใดๆ ที่มีจำนวนตั้งเเต่ 5 คนขึ้นไป เเละให้น.ส.ชนกนันท์ไปที่สถานีตำรวจรถไฟธนบุรี ในวันที่ 22 ธ.ค. เวลา 09.00 น.

     น.ส.ชนกนันท์ระบุว่า "เมื่อกี้แม่กับน้องสาวบอกว่า ตูน...หนูมีหมายมาแล้วนะ เป็นคดีวันที่นั่งรถไฟไปอุทยานราชภักดิ์ค่ะ จริงๆ เราไม่น่าตกใจหรือแปลกใจ เพราะคสช.มักจะชอบเล่นอะไรลับหลังเสมอ ตอนจับเราที่สถานีรถไฟก็จับไปเฉยๆ ไม่ตั้งข้อหา ปล่อยออกมาให้เรื่องเงียบ..."