Details

Category: Abroad

Published: Monday, 27 April 2015 12:49

Hits: 5869

ปลอดภัย - 6นิสิตคณะแพทยศาสตร์ ชั้นปี 4 มศว ร่วมถ่ายภาพในระหว่างเดินทางไปท่องเที่ยวและปีนเขาที่ประเทศเนปาล ก่อนเกิดเหตุแผ่นดินไหวญาติเป็นห่วงติดต่อไม่ได้ ล่าสุดพบว่าปลอดภัยทั้ง 6 คน ขณะที่ น.ส.มาริสา อีฟ จิระวงศ์ ผู้ช่วยแพทย์ชาวสหรัฐเชื้อสายไทย (ภาพเล็ก) ทำงานอยู่ในแคมป์ที่เชิงภูเขาเอเวอเรสต์ เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้ เมื่อวันที่ 26 เมษายน

เหยื่อดินไหว - ชาวบ้านนั่งมองร่างของเหยื่อเสียชีวิตถูกนำมาเผา จากเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 2,200 ราย เจ้าหน้าที่ยังคงระดมกำลังช่วยผู้ติดอยู่ใต้ซากปรักหักพังอีกจำนวนมาก ขณะที่ มาริสา อีฟ จิระวงศ์ (รูปเล็ก) ผู้ช่วยแพทย์ชาวสหรัฐเชื้อสายไทย ทำงานในแคมป์เชิงเขาเอเวอเรสต์ เสียชีวิตในเหตุการณ์ครั้งนี้ เมื่อวันที่ 26 เมษายน

ทูตไทย ยันพบ 6 นศ.แพทย์ ญาติคาใจ รอติดต่อ-บินรับถึงเนปาล สลด'หมออีฟ'สิ้นชีพ หิมะถล่มแคมป์ริมเขา 'บิ๊กกูเกิล'เซ่นหิมาลัย เร่งตามทัวร์บุญ 30 ชีวิต ยอดตายพรวด 2.4 พัน

      แผ่นดินไหวเนปาลยอดตายทะลุ 2.4 พันคน พบแล้ว 6 นิสิตแพทย์ มศว หลังท่องเที่ยวปีนเขาขาดการติดต่อ'กูเกิล'สิ้นผู้บริหารระดับสูง

@ 6 น.ศ.แพทย์มศวสูญหาย

     เหตุแผ่นดินไหวครั้งรุนแรงที่สุดในรอบ 80 ปี ของประเทศเนปาล ระดับ 7.9 ริกเตอร์ มีศูนย์กลางอยู่ห่างจากเมืองโพครา เมืองใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ ไปทางตะวันออกประมาณ 80 กิโลเมตร แรงสั่นสะทือนยังสร้างความเสียหายให้กับประเทศข้างเคียง คือ อินเดียและบังกลาเทศ ทำให้มีผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 2 พันคน ขณะที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ได้สั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศดูแลคนไทยในประเทศที่ได้รับผลกระทบอย่างใกล้ชิด พร้อมเตรียมส่งทีมบรรเทาทุกข์เข้าช่วยเหลือ ล่าสุด ในสังคมโซเชียลเน็ตเวิร์กมีการโพสต์และแชร์ข้อความของญาติ อาจารย์ และบรรดาเพื่อน แสดงความเป็นห่วงและพยายามติดต่อกลุ่มนิสิตคณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) รวม 6 คน ได้แก่ น.ส.ธัญสุดา อรรถวิน, นายนฤดล นาคหาญ, นายวศิน ชัยวนนท์, น.ส.นวลจันทร์ เจียรพัทนรัก, นายเจษฎา ศุภปีติพร และนายดนูวิทย์ ใจแก้ว ซึ่งเดินทางไปปีนเขาโพครา เมืองโพครา ประเทศเนปาล ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายนที่ผ่านมา และยังไม่สามารถติดต่อได้ 

@ พี่สาวเตรียมบินค้นหาเอง

เมื่อวันที่ 26 เมษายน น.ส.กนกวรรณ ศุภปีติพร พี่สาวของ นายเจษฎา ศุภปีติพร นักศึกษาคณะแพทยศาสตร์ มศว ชั้นปี 4 กล่าวว่า นายเจษฎาเดินทางเเบ๊กเเพคไปเนปาลพร้อมกับเพื่อน รวม 6 คน ตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน และมีกำหนดกลับวันที่ 3 พฤษภาคม เพื่อไปปีนเขาโพครา ขณะที่เกิดแผ่นดินไหวทราบว่ากลุ่มของนายเจษฎามีกำหนดไปที่หมู่บ้านโกเรปานี อยู่ในหุบเขาอันนาปุรนาซึ่งเป็นเส้นทางเดินเขาทางตะวันตกของเนปาล ก่อนหน้านี้มีการติดต่อกันตลอดเวลา แต่หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครอบครัวไม่สามารถติดต่อทั้ง 6 คนได้ 

       "ล่าสุดทราบว่าจะไปที่โพครา หลังจากนั้นก็ไม่สามารถติดต่อได้อีก ตอนนี้ครอบครัวจะพยายามติดตามข่าวของน้องให้ได้ พยายามทุกช่องทาง ได้ติดต่อไปที่สถานทูตแล้ว และทางช่องทางต่างๆ รวมถึงกระจายข่าวในโซเชียลมีเดียหมดแล้ว แต่ก็ยังไม่ทราบข่าวของน้องและเพื่อนเลย เบื้องต้นหลังจากไปออกรายการเรื่องเล่าเสาร์อาทิตย์ทางช่อง 3 ก็จะบินไปเนปาลพร้อมฐปนีย์ เอียดศรีไชย วันที่ 27 เมษายน เพื่อตามหากลุ่มน้องๆ ด้วยตัวเอง" น.ส.กนกวรรณกล่าว 

       อย่างไรก็ตาม ผู้สื่อข่าวติดต่อไปยัง น.ส.กนกวรรณ ศุภปีติพร พี่สาวของนายเจษฎา ศุภปีติพร 1 ใน 6 นิสิตแพทย์ มศว ให้สัมภาษณ์ว่า ยังไม่มั่นใจข่าวจากกระทรวงการต่างประเทศที่เเจ้งว่าพบนักศึกษาทั้ง 6 คนแล้ว จนกว่าจะได้พูดคุยกับน้องชายเเละเด็กทั้งหมดโดยตรง

@ ทัวร์บุญเมืองคอนขาดการติดต่อ

       รายงานข่าวแจ้งว่า นอกจากนั้นยังมีคณะแสวงบุญจาก จ.นครศรีธรรมราช เดินทางไปเนปาล และขาดการติดต่อเช่นกัน โดยนางชุมาพร แต่งเกลี้ยง บุตรสาวของผู้ร่วมคณะไปด้วย กล่าวว่า มารดาตนเอง นางชุมศรี แต่งเกลี้ยง และน้องสาว น.ส.ชมัยพร แต่งเกลี้ยง เดินทางไปทำบุญกับคณะวัดป่าเรียน จ.นครศรีธรรมราช ซึ่งมีคนไทยเดินทางไปจำนวน 30 คน โดยออกจากประเทศไทย เมื่อเย็นวันที่ 24 เมษายน ถึงสนามบินกาฐมาณฑุ วันที่ 25 เมษายน โดยได้รับการติดต่อจากแม่และน้องสาวครั้งสุดท้าย เมื่อเวลา 10.00 น. เวลาประเทศไทย ว่าถึงที่พัก Paradise Group of Hotels and Resorts Kathmandu, Nepal อย่างปลอดภัย เตรียมตัวเพื่อท่องเที่ยวแสวงบุญ เเต่หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวยังไม่สามารถติดต่อแม่และน้องสาวได้

        นายไชยสิทธิ์ เทพทอง ปลัดองค์การบริหารส่วนตำบล (อบต.) สระแก้ว อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช กล่าวว่า นางจรัจ เทพทอง ภรรยา พร้อมเพื่อน 6 คน ซึ่งเป็นคนอำเภอปากพนังและอำเภอท่าศาลา เดินทางไปร่วมแสวงบุญที่เนปาลกับวัดป่าเรียน ต.ตลิ่งชัน อ.ท่าศาลา จ.นครศรีธรรมราช ในคณะดังกล่าวมีพระภิกษุ 5 รูป มีพระสมปอง เจ้าอาวาสวัดสุมลธราราม เดินทางร่วมไปด้วย ออกเดินทางตั้งแต่วันที่ 23 เมษายน และยังไม่สามารถติดต่อกับภรรยาได้ ตนและญาติพยายามโทรศัพท์ไปหลายครั้งแต่ไม่มีสัญญาณ ไม่ทราบว่าคณะที่เดินทางไปเนปาลเป็นอย่างไรบ้าง ได้แต่ภาวนาว่าให้ทุกคนปลอดภัย และในวันที่ 27 เมษายน จะออกไปสอบถามญาติของเพื่อนๆ ที่ร่วมคณะเดินทาง เพื่อติดตามความคืบหน้า

@ ทูตไทยยันพบ6น.ศ.แพทย์แล้ว

       ต่อมานายวุตติ วุตติสันต์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาลั้กล่าวถึงความคืบการติดตามนิสิตแพทย์ทั้ง 6 คน ว่าล่าสุดพบทั้ง 6 คนแล้ว ทั้งหมดปลอดภัยและสามารถติดต่อกับญาติได้แล้ว โดยเจ้าหน้าที่สถานเอกอัครราชทูตไทยฯขอให้ทั้ง 6 คน หาช่องทางเดินทางมายังกรุงกาฐมาณฑุ เพื่อขึ้นเครื่องบินโดยสารกลับประเทศไทย อย่างไรก็ตามการเดินทางมาที่กรุงกาฐมาณฑุคงต้องใช้เวลาพอสมควร เพราะสายการบินภายในประเทศเนปาลปิดให้บริการ ทางสถานเอกอัครราชทูตไทยฯกำลังช่วยหาข้อมูลเส้นทางให้กับทั้ง 6 คน ส่วนข่าวที่ว่ามีผู้ช่วยแพทย์หญิงชาวไทยเสียชีวิตอยู่บนเบสแคมป์ของเทือกเขาเอเวอเรสต์ขณะเกิดหิมะถล่มนั้น ทราบว่าถือสัญชาติอเมริกันด้วย จึงอาจถูกส่งชื่อไปที่สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาในเนปาล แต่ทางเจ้าหน้าที่ของไทยยังติดตามตรวจสอบเรื่องนี้อยู่

@ ยอดเสียชีวิตกว่า 2.4 พันคน

    สำนักข่าวเอเอฟพี, บีบีซี และซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เหตุแผ่นดินไหวส่งผลให้ขณะนี้ยอดผู้เสียชีวิตแล้วกว่า 2,430 ราย และยังส่งผลให้เกิดหิมะถล่มบนยอดเขาเอเวอเรสต์ตามมา จนมีผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 18 ราย โดยเจ้าหน้าที่กู้ภัยเนปาลยังคงเร่งเดินหน้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยและเก็บกู้ซากปรักหักพังของอาคารหลายแห่ง อย่างไรก็ตามได้เกิดเหตุดินถล่มตามมาอีกทำให้เป็นอุปสรรคอย่างมาก ขณะที่โรงพยาบาลหลายแห่งต้องรองรับผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมาก 

      นายไมค์ บรู๊ซ ผู้จัดการด้านสื่อสารประจำภูมิภาคจากแพลน อินเตอร์เนชั่นแนล องค์กรพัฒนาเอกชนที่ดูแลช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในเนปาล กล่าวว่า พบดินถล่มหลายแห่งในหลายเมืองและพื้นที่ห่างไกล และระบบการสื่อสารกลับมาใช้ได้แล้ว "ขณะที่ประชาชนต้องนอนบนถนน และทำอาหารในที่โล่ง โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีประสบเหตุอย่างรุนแรง" นายบรู๊ซกล่าว

     อย่างไรก็ตาม หลายหน่วยงานที่เข้ามาช่วยเหลือแสดงความกังวลว่า เสบียงและอาหารที่เก็บไว้กำลังหมดไปอย่างรวดเร็ว

      ล่าสุดสำนักข่าวรอยเตอร์แจ้งว่า พบยอดผู้เสียชีวิตแล้วเกือบ 2.5 พันคน

@ ทั่วโลกระดมช่วยเหลือ

      ขณะที่การช่วยเหลือจากรัฐบาลทั่วโลก ทั้งสหรัฐอเมริกาและหลายประเทศในเอเชีย ประกาศจะส่งเจ้าหน้าที่ด้านภัยพิบัติเข้าช่วยเหลือเนปาลแล้ว โดยสถานทูตสหรัฐในกรุงกาฐมาณฑุประกาศว่า สหรัฐเตรียมมอบเงินช่วยเหลือ 1 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ให้กับรัฐบาลเนปาล พร้อมทั้งจะส่งเจ้าหน้าที่กู้ภัยเดินทางไปยังเนปาลด้วย ออสเตรเลียและนิวซีแลนด์ประกาศจะให้เงินช่วยเหลือร่วมกันกว่า 4.5 ล้านดอลลาร์ และกำลังช่วยเหลือเคลื่อนย้ายพลเมืองของตัวเองในเนปาลอย่างเต็มที่ ขณะที่อินเดียและญี่ปุ่นได้ส่งเครื่องบินทหาร 2 ลำ เข้าช่วยเหลือเช่นกัน ด้านรัฐบาลเกาหลีใต้ประกาศจะให้เงินช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมราว 1 ล้านดอลลาร์ ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ค้นหานานาชาติของทางการจีนได้เดินทางถึงสนามบินกรุงกาฐมาณฑุแล้ว 

@ อาฟเตอร์ช็อกซ้ำ 6.7 ริกเตอร์

     สำนักงานธรณีวิทยาของสหรัฐ (ยูเอสจีเอส) รายงานว่า เกิดเหตุอาฟเตอร์ช็อกขนาด 6.7 ริกเตอร์ บริเวณพื้นทางภาคตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงกาฐมาณฑุเมื่อเช้าที่ผ่านมาตามเวลาท้องถิ่น โดยแรงสั่นไหวทำให้หิมะบนยอดเขาเอเวอเรสต์ถล่มเพิ่มขึ้น ด้านนักไต่เขาที่อยู่บนเทือกเขาเอเวอเรสต์ระบุว่า สามารถรับรู้ได้ถึงแรงสั่นไหวครั้งนี้ที่นับเป็นอาฟเตอร์ช็อกครั้งรุนแรงที่สุด หลังเกิดแผ่นดินไหว ทั้งนี้มีรายงานว่าเกิดเหตุอาฟเตอร์ช็อกแล้ว 34 ครั้ง

     รายงานของวอชิงตันโพสต์ระบุว่า เจ้าหน้าที่ได้มีการพิสูจน์อัตลักษณ์ผู้เสียชีวิตเบื้องต้นจากเหตุหิมะถล่มบนยอดเขาเอเวอเรสต์ พบว่าหนึ่งในจำนวนนั้นมีนายแดน เฟรดินเบิร์ก เจ้าหน้าที่ระดับสูงของบริษัทกูเกิล วัย 33 ปี รวมอยู่ด้วย โดยเดินทางท่องเที่ยวยอดเขาเอเวอเรสต์พร้อมกับเพื่อนพนักงานอีก 3 คน ขณะที่อีกรายคือ น.ส.มาริสา อีฟ จิระวงศ์ วัย 29 ปี ชาวอเมริกันเชื้อสายไทย ทำงานเป็นผู้ช่วยแพทย์ให้กับกลุ่มปีนเขาเมดิสันเมาน์เทนเนียริงบริเวณเขาเอเวอเรสต์ 

@ 'บินไทย'นำคนไทยกลับบ้าน

       ที่กระทรวงการต่างประเทศ นายวุตติ วุตติสันต์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เปิดเผยว่า ในวันนี้ (26 เม.ย.) กระทรวงการต่างประเทศจะจัดประชุมติดตามสถานการณ์ เพื่อจะนำไปสู่การช่วยเหลือคนไทยในเนปาลที่มีอยู่ราว 100 คน และนักท่องเที่ยวไทยในเนปาลที่ยังตกค้างและต้องการเดินทางกลับประเทศ ล่าสุดสถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกาฐมาณฑุ ได้ประสานสายการบินไทยในการนำคนไทยจำนวนหนึ่งเดินทางกลับประเทศในเที่ยวบิน TG320 ออกจากกรุงกาฐมาณฑุมายังประเทศไทย คาดว่าจะมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลาประมาณ 17.00 น. วันที่ 26 เมษายน

     นายวุตติ กล่าวอีกว่า ในวันที่ 27 เมษายนนี้ จะมีการประชุมร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องที่กระทรวงการต่างประเทศ ในการประสานให้การดูแลคนไทยในเนปาลและการให้ความช่วยเหลือรัฐบาลเนปาล ประชาชนเนปาลอีกด้วย 

@ ผู้โดยสารจากเนปาลถึงไทย

     ต่อมาเวลาประมาณ 20.00 น. เที่ยวบิน TG 320 บรรทุกผู้โดยสารจากกาฐมาณฑุ จำนวน 158 คน เดินทางถึงสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งพนักงานฝ่ายบริการผู้โดยสารภาคพื้นการบินไทยได้ให้การต้อนรับผู้โดยสารถึงประตูเครื่องบิน พร้อมแจกอาหารว่างให้กับผู้โดยสารของเที่ยวบินดังกล่าว

     ทั้งนี้ การบินไทยยังคงทำการบินตามปกติ ไปกลับในเส้นทางกรุงเทพฯ-กาฐมาณฑุ ทุกวันวันละ 1 เที่ยวบิน ด้วยเครื่องบินแบบโบอิ้ง 777-200 เที่ยวไปทีจี 319 ออกจากกรุงเทพฯ เวลา 10.15 น. ถึงกาฐมาณฑุ เวลา 12.25 น. ส่วนเที่ยวกลับทีจี 320 ออกจากกาฐมาณฑุ เวลา 13.30 น. ถึงกรุงเทพฯ เวลา 18.15 น.

บัวแก้วเผยคนไทยปลอดภัย

      กรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศแจ้งว่า ขณะนี้มีคนไทยเข้าพักพิงที่ทำเนียบเอกอัครราชทูต 20 คน เป็นข้าราชการ ครอบครัว และคนไทยที่พักอยู่ในอาคารสูงไม่ปลอดภัยที่จะกลับเข้าไป แต่ยังไม่แสดงความประสงค์จะเดินทางกลับประเทศไทย และทางสถานเอกอัครราชทูตได้ติดต่อคนไทยที่อยู่อาศัยในกรุงกาฐมาณฑุอีกประมาณ 30 คน ทุกคนปลอดภัยดีและยังไม่ประสงค์จะกลับประเทศไทยเช่นกัน ขณะที่มีกลุ่มคนไทย 34 คน ที่มาประชุมที่เมืองนากากอด ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุ ประมาณ 30 กิโลเมตร ได้ลงชื่อเพื่อขอรับบัตรโดยสารและกำลังรอขึ้นเครื่องบินโดยสารเดินทางกลับไทย

@ 'บิ๊กตู่'สั่งสธ.-กองทัพช่วยเหลือ

      ด้าน พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ได้สั่งการให้กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) พร้อมกองทัพ จัดเตรียมทีมแพทย์และชุดบรรเทาสาธารณภัยเฉพาะกิจ เพื่อส่งเข้าไปบรรเทาทุกข์ที่เนปาลโดยเร็วที่สุด และแม้สนามบินกาฐมาณฑุจะปิดให้บริการแล้ว ก็จะเดินทางไปยังจุดที่ใกล้ที่สุดแทน เพื่อต่อเข้าไปยังจุดภัยพิบัติ โดยขณะนี้อยู่ในระหว่างประสานงานกับสถานทูตไทยในเนปาล

    พล.ต.สรรเสริญ กล่าวว่า รัฐบาลขอเชิญชวนประชาชนคนไทยร่วมบริจาคสิ่งของและปัจจัยเพื่อการดำรงชีพสำหรับชาวเนปาลและผู้ประสบภัย โดยร่วมบริจาคได้ที่ศูนย์ดำรงธรรม กระทรวงมหาดไทยทุกจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อรวบรวมจัดส่งไปช่วยเหลือ และในสัปดาห์หน้ารัฐบาลจะเป็นเจ้าภาพจัดงาน "รวมน้ำใจคนไทยไปเนปาล" เพื่อระดมความช่วยเหลืออย่างเป็นทางการ ผ่านสถานีโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 ด้วย

@ เปิดศูนย์ดูแล'กาฐมาณฑุ'

     ส่วนการช่วยเหลือคนไทยในเนปาลและประเทศใกล้เคียง พล.ต.สรรเสริญกล่าวว่า นายกฯกำชับให้สถานทูตไทยดูแลประสานความช่วยเหลืออย่างใกล้ชิด หากผู้ใดต้องการเดินทางกลับก็ให้ดำเนินการส่งกลับตามระเบียบปฏิบัติที่วางไว้ของกระทรวงการต่างประเทศ นอกจากนี้ได้มีการตั้งศูนย์ช่วยเหลือดูแลและติดต่อข้อมูล ณ สถานทูตไทยประจำกรุงกาฐมาณฑุ หากญาติในประเทศไทยต้องการสอบถามข้อมูลข่าวคราวคนไทยในเนปาล สามารถติดต่อผ่านทั้งทางกระทรวงการต่างประเทศ ที่หมายเลขโทรศัพท์ 09-4003-7190, 09-4003-7191, 09-4003-7192 และ 08-5911-4076 รวมทั้งติดต่อผ่านสถานทูตไทยประจำกรุงกาฐมาณฑุโดยตรง ที่หมายเลข +977-1441-4372 โทรสาร +977-1437-1410

    "ขณะนี้มีคนไทยอพยพมาพักพิงในศูนย์ช่วยเหลือผู้ประสบภัยสถานเอกอัครราชทูตราว 30 คน และอาจจะมีเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง หากญาติพี่น้องต้องการตามติดตามสถานการณ์และติดต่อแจ้งขอความช่วยเหลือ สามารถใช้ทุกเบอร์โทรที่กล่าวมาข้างต้นได้ตลอด 24 ชั่วโมง" พล.ต.สรรเสริญกล่าว

@ ทบ.เตรียมทีมฉก.บินช่วย

    พล.ต.วีรชน สุคนธปฏิภาค คณะทำงานโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีด้านการต่างประเทศ กล่าวว่า พล.อ.ประยุทธ์ซึ่งอยู่ระหว่างร่วมประชุมผู้นำเอเชีย-แอฟริกา ที่ประเทศอินโดนีเซีย เมื่อได้ทราบข่าวเหตุแผ่นดินไหว และรับทราบว่านายซูซิล คอยราลา นายกรัฐมตรีเนปาล เดินทางมาประชุมด้วย และต้องมาเปลี่ยนเครื่องเพื่อเดินทางกลับที่สนามบินสุวรรณภูมิ จึงสั่งการให้กระทรวงการต่างประเทศและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานอำนวยความสะดวกเดินทางกลับเนปาลได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย เพื่อให้ได้กลับไปสั่งการในการช่วยเหลือประชาชน 

     พ.อ.หญิง ศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกกองทัพบก (ทบ.) กล่าวว่า ขณะนี้กองทัพบกได้จัดเตรียมกำลังพล หน่วยบรรเทาสาธารณภัยขั้นต้น ประกอบด้วย ชุดสุนัขค้นหาและช่วยเหลือผู้ประสบภัย ชุดแพทย์เคลื่อนที่ พร้อมเวชภัณฑ์และอุปกรณ์ทางการแพทย์ ชุดค้นหาและกู้ภัย พร้อมเครื่องมือกู้ภัย รวมทั้งชุดประสานงานกับหน่วยงานในพื้นที่ประมาณ 70 นาย พร้อมออกเดินทางไปประเทศเนปาลเมื่อได้รับมอบภารกิจ 

      นพ.สมศักดิ์ ชุณหรัศมิ์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข (สธ.) กล่าวว่า สธ.เตรียมส่งทีมแพทย์ไปช่วยเหลือผู้ประสบเหตุแผ่นดินไหวที่ประเทศเนปาล ขณะนี้อยู่ระหว่างประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงการต่างประเทศ ว่าประเทศต้นทางต้องการความช่วยเหลือในเรื่องใด ประสานกับสถานทูตไทยในเรื่องการเดินทาง รวมถึงประสานกับแพทย์ทหารด้วย โดยจะประสานงานร่วมกับศูนย์เตรียมพร้อมบรรเทาภัยพิบัติแห่งเอเชีย (เอดีพีซี) ซึ่งเป็นหน่วยงานที่มีความรู้เรื่องภัยพิบัติเป็นอย่างดี ขณะนี้ได้เตรียมความพร้อมไว้แล้ว

@ 'ปู'เสียใจเหตุดินไหวเนปาล 

      น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านเฟซบุ๊ก "Yingluck Shinawatra" ระบุ "ดิฉันขอแสดงความเสียใจและห่วงใยเป็นอย่างยิ่งถึงเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ที่ประเทศเนปาลรวมทั้งประเทศใกล้เคียง ซึ่งยังความสูญเสียอย่างมากทั้งต่อชีวิตและทรัพย์สิน แผ่นดินไหวครั้งนี้ถือเป็นภัยพิบัติขนาดใหญ่ของมวลมนุษยชาติ ซึ่งนานาชาติก็เริ่มเร่งเข้าไปให้ความช่วยเหลือแล้ว และหวังเป็นอย่างยิ่งว่าสถานการณ์ต่างๆ จะคลี่คลายโดยเร็ว ทั้งนี้ ขอภาวนาให้ทุกคนปลอดภัยค่ะ"

@ ส.เนปาลในไทยระดมช่วย

นายอัสสชิตะ อวาเล หัวหน้าฝ่ายสื่อมวลชนของสมาคมคนเนปาลโพ้นทะเล (เอ็นอาร์เอ็น) ซึ่งเป็นชาวเนปาลที่อาศัยอยู่ในประเทศไทยมานานหลายสิบปี กล่าวว่า ได้มีการประชุมที่ร้านอาหารฮิมาลายา ที่สุขุมวิท 31 มีผู้เข้าร่วมประชุมราว 20 คน ซึ่งเป็นชาวเนปาลที่อาศัยอยู่ในประเทศไทย เพื่อหารือระดมความช่วยเหลือส่งไปยังผู้ประสบภัยที่เนปาล โดยเป็นการช่วยเหลือแบบประชาชนต่อประชาชน คือจากทั้งคนไทยและคนเนปาลที่ไทย

นายอัสสชิตะกล่าวว่า สมาคมยังได้เปิดบัญชีเพื่อรับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยชาวเนปาล บัญชีธนาคารกสิกรไทย สาขาสุขุมวิท เลขที่ 003-273-9905 ชื่อบัญชี "Khagendra Raj Dhakal" ซึ่งเป็นบัญชีของทางสมาคม โดยเงินที่ได้รับจากการบริจาคส่วนหนึ่งจะส่งต่อไปยังเนปาลเพื่อนำไปใช้สำหรับการซื้อสิ่งของเครื่องใช้ที่จำเป็นที่ยังพอหาได้ที่เนปาล ส่วนหนึ่งจะเอาไว้ใช้สำหรับการหาซื้อสิ่งของในไทยเพื่อส่งต่อไปยังผู้ประสบภัย นอกจากนี้ทางห้างสรรพสินค้าซีคอนสแควร์ทั้งที่ศรีนคริทร์และบางแคเพชรเกษมจะตั้งตู้รับบริจาคเงินช่วยเหลือผู้ประสบภัยเนปาล

@ ห่วงอพยพอยู่บนทางด่วน

นายอัสสชิตะกล่าวในฐานะผู้ประกอบการธุรกิจท่องเที่ยวในเนปาลว่า ผลกระทบที่เกิดขึ้นกับธุรกิจคงมีแน่นอน แต่ตอนนี้อยากจะแก้ปัญหาเฉพาะหน้า อยากช่วยเหลือชาวเนปาลก่อน รวมไปถึงครอบครัวของตนที่อยู่เนปาล ต้องอยู่กันอย่างลำบาก 

"ทุกคนยังหวาดกลัว เพราะยังมีแผ่นดินไหวอยู่ แต่ไม่ได้แรงมากเหมือนกับเมื่อวาน (25 เม.ย.) ทุกคนหวาดกลัว ไม่กล้าอยู่บ้าน ต้องไปอยู่บนทางด่วน หุงข้าวกินข้างทาง และต้องประหยัด" นายอัสสชิตะกล่าว และว่า ส่วนอาคารสูงที่ไม่ได้พังถล่มลงมา ผู้คนก็ไม่กล้าเข้าไปอยู่ เพราะกลัวว่าจะถล่มลงมาเมื่อใดก็ได้ ขณะที่การติดต่อสื่อสารเริ่มใช้งานได้ดีขึ้น แต่ยังไม่ดีเท่าที่ควร เช่นเดียวกับอินเตอร์เน็ตที่พอใช้งานได้