WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 8918 ข่าวสดรายวัน


คาดตายเกินหมื่น ทัพไทย! ถึงเนปาล-ลุยช่วย 
ขนข้าว-น้ำ-ยาแจกจ่าย สลดนับล้านอดอยาก สธ.เตรียมตั้งรพ.สนาม เตือนระวังตุ๋นรับบริจาค


ทีมไทย - เจ้าหน้าที่ทหารไทยเดินทางถึงทำเนียบเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล เพื่อเตรียมพร้อมออกปฏิบัติการร่วมกู้ภัยและช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวในพื้นที่ต่างๆ ของเนปาล เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 

      สังเวยแผ่นดินไหวเกินหมื่นศพ นายกฯ เนปาลคาดยอดผู้เสียชีวิตมีแนวโน้มสูงขึ้นเรื่อยๆ ความช่วยเหลือเข้าไม่ถึงพื้นที่ห่างไกล ขาด ผู้เชี่ยวชาญกู้ภัย เจ้าหน้าที่ยังเข้าไม่ถึงจุดศูนย์กลางดินไหว พื้นที่เสียหายมากสุด ชาวบ้านกักตุนอาหาร น้ำมัน ขาดแคลนยาเวชภัณฑ์ สิ่งของยังชีพ "ยูเอ็น" คาดมากกว่า 8 ล้านได้รับผลกระทบ อีกกว่า 1.4 ล้านต้องการอาหาร-น้ำ ขณะที่ไทยส่งทีมทหารไปช่วยแล้วชุดแรก มีทั้งแพทย์ ชุดค้นหาช่วยชีวิต ชุดผลิตน้ำดื่ม ยารักษาโรค ด้าน สธ.ก็ส่งทีมไปประสานล่วงหน้า พร้อมตั้งร.พ.สนามช่วยเหลือ "นายกฯ บิ๊กตู่" เผยยอดบริจาคล่าสุดอยู่ที่ 127 ล้าน ผบ.ตร.เตือนระวังแก๊งตุ๋นสวมรอยรับบริจาค

นายกฯเนปาลคาดดับเกินหมื่น 

      เมื่อวันที่ 28 เม.ย. สำนักข่าวเอเอฟพีรายงานความคืบหน้าเหตุการณ์แผ่นดินไหวครั้งใหญ่ขนาด 7.9 แม็กนิจูด ที่ประเทศเนปาล ว่าล่าสุดมียอดผู้เสียชีวิตแล้ว 5,057 ราย และมีแนวโน้มว่ายอดผู้เสียชีวิตจะพุ่งสูงขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่องค์การสหประชาชาติ (ยูเอ็น) ประมาณว่ามีประชาชนมากถึง 8 ล้านคนได้รับผลกระทบจากพิบัติภัยในครั้งนี้ และประชาชนมากกว่า 1.4 ล้านคน ต้องการอาหารและน้ำดื่ม

นายซูชิล คอยราลา นายกรัฐมนตรีเนปาล กล่าวในที่ประชุมฉุกเฉินว่า รัฐบาลเนปาลจัดส่งสิ่งของบรรเทาทุกข์ เช่น เต็นท์นอน อาหารและน้ำไปให้ผู้ได้รับผลกระทบบ้างแล้ว แต่ความช่วยเหลือยังเข้าไม่ถึงพื้นที่ห่างไกลที่ได้รับความเสียหายอย่างหนัก และรัฐบาลไม่สามารถให้ความช่วยเหลือในทุกๆ พื้นที่ในเวลาเดียวกันได้ เพราะอุปกรณ์ช่วยเหลือไม่เพียงพอ และยังขาดผู้เชี่ยวชาญกู้ภัย 

นายกฯ เนปาลยังให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวรอยเตอร์ คาดว่ายอดผู้เสียชีวิตทั่วประเทศอาจพุ่งสูงเกินกว่า 10,000 ราย จะทำให้มากกว่าจำนวนผู้เสียชีวิตจากแผ่นดินไหวใหญ่ที่เนปาล เมื่อ 81 ปีก่อนในเดือนม.ค.2477 

ยังเข้าไม่ถึงศูนย์กลางดินไหว 

      ขณะที่ประชาชนในกรุงกาฐมาณฑุต่างกักตุนอาหารและน้ำมัน เพราะหวั่นเกรงว่าจะขาดแคลนอย่างหนัก แม้ผ่านมาแล้วถึง 3 วัน หลังเกิดแผ่นดินไหว แต่ทีมกู้ภัยยังเข้าไม่ถึงเขตลัมจัง ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ได้รับความเสียหายหนักที่สุด เพราะเป็นบริเวณจุดศูนย์กลางแผ่นดินไหว ห่างจากกรุงกาฐมาณฑุไปทางตะวันตก 77 ก.ม. 

      นายลักษมี ปราสาด ดาห์กัล โฆษกกระทรวงมาตุภูมิเนปาล แถลงว่าคาดว่ายอดผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นกว่านี้มาก เมื่อเจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถสำรวจความเสียหายภายนอกกรุงกาฐมาณฑุได้ทั้งหมด นอกจากนี้ ยังมีผู้เสียชีวิตในประเทศอินเดีย 73 ราย และที่เขตปกครองตนเองทิเบตของจีนอีก 25 ราย 

หวาดผวาไม่กล้านอนที่บ้าน 

     ด้านสภาพในกรุงกาฐมาณฑุยังคงวุ่นวาย ผู้คนจำนวนมากต่างอพยพออกนอกเมืองหลวง กลับไปยังภูมิลำเนาของตน มีผู้ต่อคิวเติมน้ำมันที่สถานีบริการน้ำมันจำนวนมาก อีกทั้งผู้คนที่ยังคงอยู่ในกรุงกาฐมาณฑุกักตุนข้าวสารและน้ำมันพืช และต้องออกมากางเต็นท์นอนในที่สาธารณะ เนื่องจากบ้านพักได้รับความเสียหาย และยังคงหวาดกลัวที่จะกลับเข้าไปพักภายในอาคารบ้านเรือนต่างๆ ที่อาจพังทลายลงมาอีกจากแรงสั่นสะเทือนของอาฟเตอร์ช็อก 

      ส่วนการช่วยเหลือผู้ประสบภัยบริเวณเทือกเขาเอเวอเรสต์ เจ้าหน้าที่กู้ภัยส่งเฮลิคอปเตอร์นำตัวผู้ได้รับบาดเจ็บจากหิมะถล่มออกจากที่เกิดเหตุแล้ว โดยตัวเลขผู้เสียชีวิตบริเวณเทือกเขาเอเวอเรสต์อยู่ที่ 18 ราย ในจำนวนนี้เป็นชาวอเมริกัน 2 ราย และชาวออสเตรเลีย 1 ราย 

แห่ช่วย-จราจรอากาศแออัด 

       สำนักข่าวต่างประเทศระบุต่อว่า นอกจากทีมกู้ภัยของเนปาลแล้ว ยังมีทีมกู้ภัยจากหลายประเทศ เช่น จีน อินเดีย และสหรัฐอเมริกา เข้าไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยอย่างต่อเนื่อง แต่การช่วยเหลือจากนานาชาติบางส่วนต้องล่าช้า เนื่องจากเส้นทางเข้าออกประเทศมีเพียงทางเดียว คือท่าอากาศยานนานาชาติตรีภูวัน กรุงกาฐมาณฑุ ทำให้การจราจรทางอากาศติดขัดอย่างมาก 

ขณะเดียวกัน สำนักงานความร่วมมือนานาชาติของญี่ปุ่นระบุว่า เครื่องบินของทีมบรรเทาภัยพิบัติจากญี่ปุ่น พยายามเข้าสู่กรุงกาฐมาณฑุถึง 3 ครั้ง แต่ยังไม่ประสบความสำเร็จ เพราะสภาพการจราจรทางอากาศที่แออัดมาก

ขาดแคลนยา-อาหาร-สิ่งยังชีพ 

ส่วนสำนักข่าวซีเอ็นเอ็นรายงานว่า เจ้าหน้าที่แจกจ่ายเต็นท์และน้ำดื่มให้ประชาชนบางส่วนใน 10 จุดของกรุงกาฐมาณฑุ และเจ้าหน้าที่ออกมาร้องขอสิ่งของยังชีพ ยา และอาหารเพิ่มเติม เพราะโรงพยาบาลหลายแห่งเริ่มขาดแคลนอุปกรณ์ต่างๆ แม้นานาชาติพยายามช่วยเหลือ


กลับไทย - คนไทยชุดแรกเตรียมขึ้นเครื่องบินที่กองทัพอากาศส่งไปรับจากกรุงกาฐมาณฑุกลับมาประเทศไทย หลังเกิดเหตุแผ่นดินไหวครั้งร้ายแรงที่ประเทศเนปาล เมื่อวันที่ 28 เม.ย.

        สำนักข่าวรอยเตอร์ระบุว่า ประชาชนหลายพันคนที่ไม่สามารถทนรอความช่วยเหลือได้ เริ่มเดินทางออกจากกรุงกาฐมาณฑุไปพื้นที่ราบโดยรอบ อีกทั้งเจ้าหน้าที่ยังเชื่อว่ายอดตัวเลขผู้เสียชีวิตจะเพิ่มสูงขึ้นอีก โดยเฉพาะในเขตชุมชนที่ตั้งอยู่ใกล้กับเชิงเขา คาดว่าจะได้รับความเสียหายอย่างรุนแรง

ด้านความช่วยเหลือจากนานาชาตินั้น องค์การสหประชาชาติระบุว่ามีทีมช่วยเหลือทางการแพทย์ และทีมค้นหาจาก 16 ประเทศ เข้าร่วมปฏิบัติการในครั้งนี้ พร้อมด้วยนานาประเทศที่ส่งสิ่งของยังชีพ เครื่องบิน และเงินสนับสนุนช่วยเหลือเนปาลด้วย

สธ.ประสานเนปาล-ส่งแพทย์ 

      สำหรับ ความเคลื่อนไหวในการช่วยเหลือของประเทศไทยนั้น เวลา 08.00 น. ที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ นพ.สุริยะ วงศ์คงคาเทพ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข พร้อมด้วย นพ.ภูมินทร์ ศิลาพันธ์ รองเลขาธิการสถาบันการแพทย์ฉุกเฉินแห่งชาติ และ นพ.ไพโรจน์ เครือกาญจนา ผู้ช่วย ผอ.ร.พ. ราชวิถี นำคณะเดินทางไปกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ด้วยสายการบินไทย เที่ยวบินทีจี 319 

นพ.สุริยะกล่าวว่า เดินทางไปล่วงหน้า เพื่อประสานกับสถานทูตไทย สหประชาชาติ (ยูเอ็น) และฝ่ายสาธารณสุขเนปาลว่าต้องการให้ทีมแพทย์ไทยช่วยเหลือในลักษณะใดบ้าง รวมถึงหาสถานที่ที่จะจัดตั้งร.พ.สนามได้ มีทีมแพทย์และเวชภัณฑ์พร้อมแล้ว โดยทีมแพทย์มี 4 ทีม ทีมละ 16-17 คน เป็นทีมที่ฝึกฝนมาเป็นอย่างดี ผ่านทั้งเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่ สึนามิ และโคลนถล่ม ทีมแพทย์จะเข้าปฏิบัติหน้าที่ 14 วันหมุนเวียนกันไป และจะต้องดูแลตัวเอง โดยเตรียมอุปกรณ์ภาคสนาม อุปกรณ์ทางการแพทย์ ระบบสื่อสาร เครื่องปั่นไฟ อาหารและน้ำดื่มไปเอง

ตั้งร.พ.สนามช่วยเหลือ 

      ส่วน นพ.วชิระ เพ็งจันทร์ รองปลัดกระทรวงสาธารณสุข กล่าวว่าส่งทีมแพทย์สนามฉุกเฉินระดับตติยภูมิ จำนวน 17 คน ทีมนี้มีความสามารถตั้ง ร.พ.ภาคสนามได้ เป็นทีมที่มีประสบการณ์สูง เคยเข้าร่วมช่วยเหลือทั้งเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่ญี่ปุ่น พายุนาร์กิสที่พม่า และภัยพิบัติที่ไต้หวัน การเข้าพื้นที่ต้องอาศัยคนมีประสบการณ์และมีความอดทนสูง ขณะนี้ทรัพยากรในพื้นที่มีจำกัด ทีมที่ไปจำเป็นต้องช่วยเหลือตัวเองได้ โดยเบื้องต้นจะประสาน 4 จุด คือสถานทูตไทย ทีมกระทรวงสาธารณสุขของเนปาล วัดไทย และทีมทหารไทย 

      ขณะที่ พญ.นฤมล สวรรค์ปัญญาเลิศ ที่ปรึกษากรมการแพทย์ กล่าวว่าขณะนี้องค์การอนามัยโลก หรือฮู ยกระดับแผ่นดินไหวเนปาลเป็นระดับ 3 เทียบเท่าเหตุการณ์โรคระบาดอีโบลา หมายถึงนานาประเทศต้องให้ความช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน โดยองค์การอนามัยโลกประเมินสถานการณ์เบื้องต้น พบมีตัวแทนแพทย์จากจีน อินเดีย เดินทางถึงเนปาลแล้ว ส่วนอิสราเอลส่งเครื่องใช้และเวชภัณฑ์ทางการแพทย์ไปเนปาล 100 ตัน และทีมกู้ภัยที่เข้าพื้นที่ต้องมีอุปกรณ์ช่วยเหลือตัวเอง เพราะไม่มีโรงแรม และตั้งศูนย์อพยพจำนวน 16 แห่ง

แนะนำสิ่งของสำหรับบริจาค 

      นายเสข วรรณเมธี อธิบดีกรมสารนิเทศ กระทรวงการต่างประเทศ แถลงว่าขณะนี้มีคนไทยในเนปาล 45 คน พักอยู่ในสถานทูตไทย และมี 30-40 คน แสดงความจำนงเดินทางกลับประเทศไทย ส่วน 6 นิสิตแพทย์ยังพักอยู่ที่เมืองโพคารา สถานทูตประสานเพื่อให้เดินทางกลับยังกรุงกาฐมาณฑุทางรถยนต์ เหมาะสมและปลอดภัย ใช้เวลาเดินทาง 5 ช.ม. และจากการประชุมกับหน่วยงานต่างๆ พร้อมจะให้ความช่วยเหลือ ทั้งการตรวจสอบอัตลักษณ์บุคคล การแพทย์ การช่วยเหลือต้องสอดคล้องกับความต้องการของเนปาล สิ่งที่ต้องการเร่งด่วนคือ เวชภัณฑ์ น้ำ และยารักษาโรค ส่วนสิ่งของที่ต้องการบริจาคนั้น ควรเป็นสิ่งของที่ยังไม่เคยใช้งาน ถ้าเป็นอาหารแห้งให้หลีกเลี่ยงส่วนผสมของเนื้อวัว เนื่องจากชาวเนปาลส่วนใหญ่นับถือศาสนาฮินดู

       อธิบดีกรมสารนิเทศกล่าวว่า ส่วนคนไทยที่เดินทางไปประชุมที่เนปาล มีกำหนดเดินทางกลับเมื่อวันที่ 27 เม.ย.ที่ผ่านมา จำนวน 34 คน ด้วยสายการบินเนปาล เที่ยวบิน อาร์เอ 401 ถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เวลา 15.50 น. และนักศึกษาอีก 7 คน ที่เดินทางไปท่องเที่ยว มากับสายการบินไทย เที่ยวบินทีจี 320 ถึงสุวรรณภูมิ เวลา 18.15 น. นั้น ต้องยกเลิกเดินทาง เพราะการจราจรสนามบินเนปาลหนาแน่นมาก

ส่ง 67 ทหารไทยล็อตแรก

      เวลา 07.30 น. ที่ท่าอากาศยานทหาร กองบิน 6 พล.ร.อ.ทวีวุฒิ พงศ์พิพัฒน์ รองผบ.สส. เป็นประธานส่งกำลังพลและเจ้าหน้าที่ทางการแพทย์ 67 นาย ไปประเทศเนปาล ประกอบด้วย ชุดค้นหาและช่วยชีวิต ทีมแพทย์ฉุกเฉิน ชุดผลิตน้ำดื่ม หรือประปาสนาม ผลิตได้ 6,000 พันลิตรต่อชั่วโมง ยารักษาโรคและเวชภัณฑ์ ข้าวพร้อมรับประทาน 600 ก.ก. อาหารกระป๋อง 400 ก.ก. น้ำดื่ม และผ้าห่ม 1,000 ผืน พร้อมทั้งยังมอบเครื่องรางของขลัง เป็นผ้ายันต์ เหรียญหลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม และเหรียญพระครูสังฆวิชัย เพื่อให้กำลังใจแก่กำลังพลด้วย


ไร้บ้าน - ชาวเนปาลจำนวนมากในเมืองกาฐมาณฑุ ต้องใช้เต็นท์เป็นที่พักอาศัยชั่วคราว หลังบ้านเรือนพังเสียหายจากเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ โดยทางการเนปาลคาดว่าอาจมีผู้เสียชีวิตมากเกิน 1 หมื่นคน เมื่อวันที่ 28 เม.ย. 

     พล.ต.ปริญญา ขุนนาศรี รองเจ้ากรมยุทธการทหาร ในฐานะหัวหน้าชุด กล่าวว่ากองทัพไทยพร้อมช่วยเหลือผู้ประสบภัยเนปาลตามที่ฝึกฝนมาอย่างต่อเนื่อง เตรียมทั้งกำลังพลและเครื่องมือช่วยเหลือ รวมทั้งสิ่งของที่จำเป็นต่อการดำรงชีพของเจ้าหน้าที่ในการปฏิบัติงานเป็นเวลา 7 วัน 

บิ๊กตู่เผยยอดบริจาค 127 ล. 

     ที่โรงแรมที่พักในเกาะลังกาวี ประเทศมาเลเซีย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการช่วยเหลือเนปาลว่า ในเบื้องต้นทุกประเทศส่งเงินช่วยเหลือ ประเทศละ 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ ในส่วนของรัฐบาลไทยก็บริจาคไป 200,000 ดอลลาร์สหรัฐ พร้อมแสดงความเสียใจ และเมื่อเช้าวันที่ 28 เม.ย.นี้ กองทัพไทยส่งทีมไปเนปาลแล้ว เพื่อช่วยจัดตั้งร.พ.สนาม และศูนย์ประสานงานด้านการแพทย์ หลังจากนี้จะ ส่งเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์ไปช่วยเหลือด้านพิสูจน์เอกลักษณ์บุคคลอีกด้วย อีกทั้งรัฐบาลสั่งการให้ทุกภาคส่วนเปิดรับบริจาคจากประชาชนในทุกช่องทาง ขณะนี้ยอดบริจาคอยู่ที่ 127 ล้านบาท 

      ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมครม. ถึงการช่วยเหลือเนปาลว่า ศูนย์ดำรงธรรมจะเป็นผู้รวบรวม เพื่อส่งต่อความช่วยเหลือต่อไป ประเมินว่าสิ่งที่เนปาลต้องคือเต็นท์ เครื่องกันหนาว ไฟฉาย อาหารสำเร็จ รูป เมื่อถามว่ามีผู้กังวลว่าไทยจะเกิดแผ่นดินไหวรุนแรงในอนาคตได้ พล.อ.อนุพงษ์กล่าวว่าในการประชุมหารือข้อราชการที่กระทรวงมหาดไทยในวันที่ 29 เม.ย. จะสั่งการให้จังหวัดในภาคเหนือติดตามเรื่องรอยเลื่อนตามที่นักวิชาการออกมาระบุด้วย

อนุมัติ 100 ล.ปฏิบัติการเนปาล 

ส่วน ม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่าตามที่สำนักปลัดสำนักนายกฯ เปิดบัญชี "หัวใจไทย ส่งไปเนปาล" มีผู้ร่วมโอนเงินเข้ามาจนถึงช่วงเที่ยงวันที่ 28 เม.ย.นี้ ทั้งสิ้น 8 ล้านบาทเศษ ส่วนการส่งเงินไปเนปาลนั้น เมื่อสำนักปลัดสำนักนายกฯ รวบรวมแล้ว จะเป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศส่งไปเนปาลต่อไป 

พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ครม.อนุมัติงบประมาณ 100 ล้านบาท สำหรับปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือเนปาลของทุกภาคส่วน ไทยและเนปาลมีความสัมพันธ์ที่ดีร่วมกันอย่างยาว นาน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ และรมว.กลาโหม ขอบคุณคนไทยทุกคนที่บริจาคเงินช่วยเหลือผ่านรายการหัวใจไทยส่งไปเนปาล มียอดบริจาคในรายการ 48 ล้านบาท และยอดบริจาคในวันที่ 28 เม.ย.นี้ อีก 8 ล้านบาท รวม 56 ล้านบาท 

"สมยศ"เตือนแก๊งตุ๋นรับบริจาค 

ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. กล่าวเตือนประชาชนระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพแอบอ้างเปิดบัญชีช่วยเหลือแผ่นดินไหวที่เนปาลว่า เริ่มมีการหลอกลวงในลักษณะดังกล่าว แต่ยังไม่มีผู้เสียหายเข้าแจ้งความตำรวจ จึงแนะนำให้ประชาชน ที่จะร่วมบริจาคช่วยเหลือ บริจาคได้โดยตรงกับรัฐบาล หรือองค์กรที่น่าเชื่อถือ หากมีข้อสงสัยเกี่ยวกับบัญชีรับบริจาคต่างๆ สอบถามได้ที่สายด่วน 1599 สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และหากบุคคลใดตกเป็นเหยื่อแก๊งมิจฉาชีพ แจ้งตำรวจได้ทันที

ผบ.ตร.กล่าวต่อว่า นอกจากนี้ มอบหมายให้พล.ต.ท.จิตต์เจริญ เวลาดีวงณ์ ผู้ช่วยผบ.ตร. เป็นหัวหน้าคณะ นำทีมแพทย์ เจ้าหน้าที่กองพิสูจน์หลักฐาน เจ้าหน้าที่พิสูจน์เอกลักษณ์บุคคล ไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยที่เนปาล คณะทั้งหมดพร้อมเดินทางไปทันทีที่เนปาลตอบรับความช่วยเหลือ

ซี 130 พร้อมรับคนไทยกลับ 

พล.อ.อ.มณฑล สัชฌุกร โฆษกกองทัพอากาศ กล่าวถึงกรณีที่กระทรวงการต่างประเทศ ขอให้กองทัพอากาศรับคนไทยในเนปาลที่ต้องการเดินทางกลับไทย ด้วยเครื่องบินลำเลียง ซี 130 ของกองทัพอากาศ ว่าภารกิจเบื้องต้นของเครื่องบินแบบลำเลียง ซี 130 คือไปส่งกำลังพล ยุทโธปกรณ์ และสิ่งของช่วยเหลือผู้ประสบภัยแผ่นดินไหวที่เนปาล หลังจากนั้นจะบินกลับทันที แต่หากมีคนไทยที่อยู่ในประเทศเนปาล มีความประสงค์จะเดินทางกลับไทย พร้อมกับเครื่องบิน ทางกองทัพอากาศในฐานะผู้ทำการบินก็มีความยินดี 

โฆษกกองทัพอากาศกล่าวว่า แต่ทั้งนี้กระทรวงการต่างประเทศ และสถานเอกอัครราชทูตไทยในเนปาลจะต้องเป็นผู้พิจารณาคัดกรองและรวบรวมคน เพื่อเตรียมพร้อมนำคนกลับ โดยเครื่องบินแบบลำเลียง ซี 130 ออกจากไทยวันที่ 28 เม.ย. เวลา 09.40 น. ทำการบิน 5 ชั่วโมง ถึงเนปาลเวลา 14.40 น. ส่วนเวลากลับถึงไทย ต้องประสานกับกระทรวงการต่างประเทศอีกครั้ง หากมีคนไทยกลับมาด้วย และล่าสุดคนไทยแจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับ 64 คน ขึ้นเครื่อง ซี 130 คาดว่าถึงสนามบินบน.6 เวลา 03.00 น. วันที่ 29 เม.ย.นี้ 

ช่างปั้นไทยระทึกในเนปาล 

วันเดียวกัน น.ส.สุภานี เอมโอษฐ์ อายุ 18 ปี อยู่บ้านเลขที่ 65/2 หมู่ 3 ต.บ้านหาด อ.บ้านลาด จ.เพชรบุรี ลูกสาวของนายสำรวย เอมโอษฐ์ ช่างปูนปั้นชื่อดังเมืองเพชรบุรี ที่ไปปั้นลวดลายประดับอุโบสถวัดกีรติวิหาร เป็นวัดไทยในประเทศเนปาล เปิดเผยว่าพ่อเดินทางไปทำงานปั้นตั้งแต่วันที่ 30 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากเกิดเหตุแผ่นดินไหวที่เนปาล ตนและแม่รวมทั้งญาติพี่น้องตกใจและเป็นห่วงมาก พยายามโทรศัพท์ติดต่อก็ติดต่อไม่ได้ 

น.ส.สุภานีกล่าวว่า ล่าสุดติดต่อช่างปั้นร่วมทีมได้แล้ว และพ่อโทรศัพท์มาบอกว่าปลอดภัยดี ก็รู้สึกโล่งใจ มีเพียงลูกศิษย์ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยจากการตกนั่งร้านขณะเกิดแผ่นดินไหว โดยช่างปั้นที่ไปกับพ่อมีทั้งหมด 6 คน ทั้งหมดเป็นลูกศิษย์พ่อ มีภูมิลำเนาอยู่ภาคอีสาน ขณะนี้พ่อและลูกศิษย์ยังอยู่ในสนามกีฬาที่ใช้เป็นสถานที่หลบภัย พ่อบอกว่าหลังเหตุการณ์สงบจะทำงานต่อให้เสร็จ ยังไม่เดินทางกลับไทย พ่อจะไปทำงานปั้นที่วัดไทยที่เนปาลครั้งละ 6 เดือน ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2

ทัพไทยถึงเนปาล-ลุยช่วย 

ผู้สื่อข่าว "ข่าวสด" รายงานจากกรุงกาฐมาณฑุ ประเทศเนปาล ถึงความคืบหน้ากู้ภัยแผ่นดินไหวว่า พ.อ.อิทธิพล ปิ่นพรหม ผู้ช่วยผู้อำนวยการคณะช่วยเหลือ กองบัญชาการกองทัพไทย แถลงที่ทำเนียบเอกอัครราชทูตไทยประจำกรุงกาฐมาณฑุ ว่าทางกองทัพไทย โดยพล.ต.ปริญญา ขุนนาศรี รองเจ้ากรมยุทธการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทย ในฐานะหัวหน้าคณะช่วยเหลือ นำกำลังพลรวม 53 นาย แบ่งเป็นทีมแพทย์และพยาบาล ทีมเจ้าหน้าที่ค้นหาและกู้ภัย และทหารช่าง เดินทางด้วยเครื่องบินซี-130 ถึงท่าอากาศยานนานาชาติตรีภูวัน พร้อมนำสิ่งของช่วยเหลือในเบื้องต้น ประกอบด้วยข้าวพร้อมรับประทาน 600 ก.ก. อาหารกระป๋อง 400 ก.ก. ยารักษาโรค 1 ตัน และผ้าห่มอีก 1,000 ผืน ส่งมอบให้กับทางการเนปาล เพื่อนำไปแจกจ่ายช่วยเหลือผู้ประสบภัยแล้ว

นอกจากนี้ ยังมีอุปกรณ์การแพทย์และยารักษาโรคอีกจำนวนหนึ่งที่จะนำไปใช้ในภาคสนาม โดยระหว่างนี้คณะช่วยเหลือกำลังหารือกับทีมแพทย์นานาชาติเพื่อเตรียมการช่วยเหลือให้ตรงจุด และในวันพุธที่ 29 เม.ย. จะประชุมร่วมกับกองบัญชาการกองทัพเนปาล และกองทัพนานาชาติ เพื่อรับมอบหมายหน้าที่ในปฏิบัติการครั้งนี้

พี่น้องภูเก็ตเล่านาทีระทึกขวัญ 

ขณะที่ความคืบหน้าในการช่วยเหลือนักท่องเที่ยวชาวไทยในประเทศเนปาลนั้น ล่าสุดนักท่องเที่ยวสาวพี่น้องชาวไทย 2 คนจาก จ.ภูเก็ต คือ น.ส.วัลลภา จันทร์แก้ว อายุ 33 ปี และน.ส.ศิริลักษณ์ จันทร์แก้ว เดินทางไปปีนเขาในเมืองโพคารา และเดินทางมายังกรุงกาฐมาณฑุตั้งแต่วันที่ 17 เม.ย. ก่อนนั่งรถไปเมืองโพคาราในวันที่ 18 เม.ย. เพื่อปีนเขา กลับมาถึงกรุงกาฐมาณฑุอย่างปลอดภัยแล้ว และจะโดยสารสายการบินเนปาลแอร์ไลน์ เที่ยวบินที่ อาร์เอ 401 ออกจากสนามบินนานาชาติตรีภูวันในเวลา 13.50 น. วันที่ 29 เม.ย. ตามเวลาท้องถิ่น ถึงประเทศไทยในเวลา 18.15 น.

น.ส.ศิริลักษณ์เปิดใจให้สัมภาษณ์กับข่าวสด ถึงเหตุการณ์ระทึกขวัญว่าในวันที่ 25 เม.ย. ตนและน้องสาวเดินลงมาจากเขาแล้ว ระหว่างเกิดเหตุนั่งกินอาหารอยู่ในเกสต์เฮาส์ รู้สึกได้ว่าพื้นสั่น ข้าวของถ้วยชามหล่นลงมาแตก ผู้คนเริ่มกรีดร้อง จากนั้นไกด์นำทางบอกว่าเกิดแผ่นดินไหว โชคดีที่บริเวณนั้นมีสัญญาณไว-ไฟ จึงติดตามข่าวสาร และแจ้งให้ครอบครัวรู้ได้

หนีลงเขา-เห็นก้อนหินถล่ม 

ขณะที่น.ส.วัลลภา น้องสาวกล่าวเสริมว่า ตอนรู้ข่าวตกใจมาก เพราะได้ยินว่ามีผู้เสียชีวิตเยอะ ส่วนที่เมืองโพคาราไม่ได้รับความเสียหายมาก จากที่เดินลงเขามาก็ยังเห็นบ้านเรือนในสภาพปกติ จะมีแต่หินที่ถล่มลงมาข้างทางเล็กน้อย แต่ก็ได้ยินเสียงดังกระหน่ำบนยอดเขาไล่ลงมา เสียงดังเหมือนปืนที่ยิงกระหน่ำ แต่ก็ไม่กลัว เพราะมีนักท่องเที่ยวและชาวบ้านร่วมเดินทางลงมาด้วย

ผู้สื่อข่าวถามว่าผ่านประสบการณ์เฉียดตายในครั้งนี้แล้วจะกล้ากลับมาเที่ยวเนปาลอีกไหม สองสาวพี่น้องตอบเป็นเสียงเดียวกันว่ามาแน่นอน เพราะรู้สึกสงสารชาวเนปาลที่ประสบภัย บางคนสูญเสียญาติ บางคนไม่มีที่อยู่อาศัยกลายเป็นคนไร้บ้าน ก็อยากจะกลับมาเที่ยวเพื่อช่วยเหลือเขา 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!