WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

7581 finbiz 1

finbiz by ttb แนะ 3 กลยุทธ์ สู่การพลิกโฉมธุรกิจ SME ยุคดิจิทัล ด้วย Digital Transformation

          มากกว่า 10 ปีมาแล้วที่เราได้ยินคำว่า Digital Disruption หรือ Technology Disruption ซึ่งภาคธุรกิจได้เริ่มเตรียมปรับตัวเข้าสู่ยุคที่เทคโนโลยีจะเข้ามามีบทบาทกับธุรกิจมาตลอด ทั้งนี้สถานการณ์โควิด-19 ยังเข้ามาเป็นปัจจัยเร่งให้สถานการณ์ที่คาดว่าจะเกิดขึ้นใน 8-10 ปีข้างหน้า ให้เกิดขึ้นในช่วงเวลา 2-3 ปีนี้ ทำให้ทุกธุรกิจต้องกระโดดเข้าสู่ Digital Transformation อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพื่อให้สามารถอยู่รอดและดำเนินธุรกิจต่อไปได้

          เมื่อพฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงไป การปรับตัวเปิดรับเทคโนโลยีของผู้คนง่ายขึ้น และพร้อมใจที่จะก้าวอย่างรวดเร็ว ไปพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของภาคธุรกิจ ดังนั้น หากธุรกิจไม่เร่งปรับตัวอาจถูกทิ้งไว้ข้างหลัง โดยมีข้อมูลจากสำนักงานสถิติแห่งชาติ และธนาคารแห่งประเทศไทยที่ยืนยันได้ว่าพฤติกรรมผู้บริโภคของคนไทยนั้นเปลี่ยนไปแล้วจริงๆ

          • คนไทยเข้าถึงอินเทอร์เน็ตกว่า 77.8% สูงกว่าค่าเฉลี่ยทั่วโลกที่ 62.5% 

          • คนไทยใช้งานอินเทอร์เน็ตผ่านมือถือ 5.07 ชั่วโมงต่อวัน (เป็นอันดับที่ 3 ของโลก)

 

          ไม่เพียงแค่การเข้าถึงอินเทอร์เน็ตเป็นจำนวนมากและหลายชั่วโมงต่อวันเท่านั้น ยังยืนยันด้วยว่าคนไทยมีความเชื่อมั่นกับระบบธุรกรรมทางการเงินผ่านระบบดิจิทัลมากพอสมควร ด้วยตัวเลขที่เพิ่มขึ้นของการใช้จ่ายบนระบบอินเทอร์เน็ต และการลดลงของการทำธุรกรรมแบบออฟไลน์ เช่น การใช้เงินสด หรือธุรกรรมผ่านเช็ค

          • ประเทศไทยมีสัดส่วนการใช้ Mobile Banking ต่อประชากร ที่เข้าถึงอินเทอร์เน็ต 74% เป็นอันดับที่ 1 ของโลก ต่อเนื่องเป็นปีที่ 3 ซึ่งเพิ่มมาจากปีก่อนๆ 63% (อันดับ 2 และ 3 ของโลก คือ สวีเดน 71% และ เกาหลีใต้ 66%)

          • จำนวนธุรกรรมจ่ายผ่าน QR Code เพิ่มขึ้น 199% และจำนวนธุรกรรมบัตรเครดิต Online โตขึ้น 26%

          • ธุรกรรมถอนเงินสดลดลง 18% และธุรกรรมเกี่ยวกับเช็คลดลง 19%

          • จำนวนรายการผ่านช่องทางดิจิทัลเพิ่มขึ้น 160% เป็นสัดส่วนการทำธุรกรรมผ่านช่องทางดิจิทัลต่อช่องทางออฟไลน์กว่า 80%

 

          ด้วยสถานการณ์ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วและพฤติกรรมของผู้บริโภค รวมถึงความต้องการที่เปลี่ยนไป ธุรกิจการค้าต่างๆ ก็มีความเปลี่ยนแปลงจาก B2B หรือ OEM มาเป็น D2C (Direct to Customer) จากเดิมที่ผู้ผลิตเป็นเพียงผู้ผลิตเจ้าของผลิตภัณฑ์หรือรับผลิต เพื่อส่งให้ส่วนของพ่อค้าคนกลาง เช่น Modern Trade ไล่ลงไปจนถึงร้านค้าปลีกก่อนจะถึงมือผู้บริโภค เปลี่ยนเป็นจากผู้ผลิตไปสู่มือผู้บริโภคได้เลย โดยผ่านแพลตฟอร์มต่างๆ ซึ่งทำให้ SME ที่อยู่ในช่วงระหว่างผู้ผลิตกับผู้บริโภค จะต้องรีบเปลี่ยนแปลงการดำเนินธุรกิจเพื่อให้สามารถอยู่รอดและก้าวต่อไปได้อย่างยั่งยืน

 

          1. รู้จุดยืนที่ชัดเจน เตรียมรุกสู่ Transformation 

          เส้นทางการปรับปรุงธุรกิจไปสู่ความเป็นดิจิทัล มีหลายทางเลือกให้ตัดสินใจ โดยก่อนที่จะปรับปรุงเปลี่ยนแปลง ต้องแน่ใจก่อนว่าธุรกิจของเรานั้นอยู่ในสภาวะใด ให้ผู้ประกอบการจินตนาการถึงฉากทัศน์ของธุรกิจ โดยพิจารณาจากความเปลี่ยนแปลง 4 กลุ่ม ว่าอีก 5 ปีข้างหน้า กิจการของเราอยู่ในกลุ่มใดใน 4 กลุ่มนี้

                  1) กลุ่มที่มีความชัดเจน เป็นธุรกิจที่มีทิศทาง กฎและระเบียบต่างๆ ที่มีต่อธุรกิจค่อนข้างตายตัวชัดเจน

                  2) กลุ่มที่มีความชัดเจนระดับหนึ่งว่า ถ้าไม่เป็นแบบนี้ ก็จะเป็นแบบนั้น หรือเป็นอีกแบบหนึ่ง

                  3) กลุ่มที่จะมีความเปลี่ยนแปลงแบบเป็นช่วงๆ ช่วงต้นจะเป็นแบบนี้ และต่อด้วยช่วงที่จะเป็นแบบนั้น

                  4) กลุ่มที่หาความชัดเจนไม่ได้ คาดเดาไม่ได้เลย

          เมื่อเห็นภาพที่จะเกิดขึ้นในอีก 5 ปีข้างหน้าแล้ว มองว่าธุรกิจของเราเปลี่ยนแปลงได้หรือไม่ และวางกลยุทธ์จากยุทธศาสตร์ 5 F ว่าธุรกิจที่ดำเนินกิจการอยู่นั้นจะเป็น F ไหน ซึ่งประกอบด้วย

 

7581 finbiz 5F info

 

          และไม่ว่าเราจะเลือกกลยุทธ์ F ใดก็ตามสิ่งสำคัญคือธุรกิจจะต้องมีกระแสเงินสดเอาไว้เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง และการสร้างเครือข่ายในวงธุรกิจ (Connection) ก็เป็นตัวช่วยสำคัญไม่แพ้กัน

          เมื่อมองเห็นภาพอนาคต รวมถึงตั้งกลยุทธ์ที่จะใช้ในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลงแล้ว จึงเริ่มเข้าสู่ Digital Transformation ในขั้นตอนต่อไป

 

          2. Transform ให้ไว และได้ไปต่อในยุคดิจิทัล

          จากเหตุผลต่างๆ ที่พฤติกรรมผู้บริโภคเปลี่ยนไป ซึ่งในภาคธุรกิจจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนไปด้วย จาก B2B หรือ OEM มาเป็น D2C (Direct to Customer) ทำให้การดำเนินธุรกิจจะต้องปรับเปลี่ยนไป ซึ่งในการเปลี่ยนแปลงนั้นมีสิ่งสำคัญที่ต้องคำนึงถึงนี้

          • Data Driven เพราะข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ หัวใจแห่งการขับเคลื่อนธุรกิจ ทั้งนี้ การ Direct to Customer อย่างมีประสิทธิภาพนั้นจำเป็นต้องมีข้อมูลลูกค้า ซึ่งไม่ว่าธุรกิจที่จะอยู่ในช่วงไหนของห่วงโซ่อุปทาน ผู้ประกอบการควรทราบความต้องการของลูกค้าปลายทางด้วย ดังนั้นจะเห็นว่าข้อมูลพฤติกรรมของผู้บริโภคจึงเป็นสิ่งสำคัญมาก ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลรายละเอียดพฤติกรรมผู้บริโภครายย่อยๆ ไปจนถึงข้อมูลของลักษณะการสั่งสินค้าของลูกค้ารายใหญ่ๆ

          • ขจัด Pain point บน Business Ecosystem เพื่อสร้างความสมบูรณ์บน Platform ปัจจุบันนี้มีรูปแบบการทำธุรกิจใหม่ๆ เกิดขึ้นมากมาย เช่น การไลฟ์ขายของบนระบบออนไลน์ ซึ่งสิ่งเหล่านี้เกิดขึ้นมาเนื่องจาก Pain Point บางอย่าง เช่น การไลฟ์ขายทุเรียน ที่มาขจัด Pain Point ที่ลูกค้าอยากได้ทุเรียนพันธุ์หายากคุณภาพดี ซึ่งการที่เจ้าของสวนมาไลฟ์ขายของเองทำให้ลูกค้าแน่ใจว่าจะได้ของดีจากสวนที่เจ้าของสวนมีตัวตนอยู่จริง ทราบแหล่งที่มาชัดเจน จึงเกิดการซื้อขายกันขึ้น

          ซึ่งการเติมเต็มระบบนิเวศทางธุรกิจ (Business Ecosystem) ไม่ได้จบเพียงเท่านั้น ยังมีขั้นตอนของการชำระเงิน การจัดการการจัดส่ง และการขนส่งเข้ามาอีก ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิด Platform ที่ช่วยสร้างมูลค่าเศรษฐกิจที่อยู่ระหว่างกลางผู้บริโภค (Consumer) และ ผู้ผลิต (Producer) ซึ่งสิ่งเหล่านี้ต้องมีการออกแบบจนถึงมือลูกค้ารายสุดท้าย เพื่อให้การแลกเปลี่ยนสมบูรณ์แบบมากที่สุด

          • Agile Way เพราะโลกเปลี่ยนแปลงเร็ว จึงต้องก้าวให้ไว เมื่อโลกในยุคปัจจุบันเปลี่ยนแปลงเร็วกว่าเก่า เราจะพบได้ว่า ยุคก่อนหน้านี้กว่าจะมีผลิตภัณฑ์หรือนวัตกรรมก็ใช้เวลากันหลายปี แต่ในปัจจุบันอาจจะใช้เวลาเพียงครึ่งปีก็สามารถสร้างนวัตกรรมได้ หลักการแบบ Agile Way จึงมีบทบาทสำคัญเพื่อให้ตอบสนองได้รวดเร็วทันเวลาและตรงความต้องการที่สุด หลัก Agile Way ประกอบไปด้วย 3 ส่วนประกอบสำคัญ ดังนี้

                  1) ระบุปัญหาและความต้องการที่แท้จริงของลูกค้า อาจใช้การเข้าไปอยู่ในสถานการณ์เดียวกับลูกค้า คุยกับกลุ่มลูกค้าโดยตรง รวมไปถึงการรับฟังความคิดเห็นของทีมงานที่ทำงานกับลูกค้าโดยตรงเพื่อให้เข้าใจลูกค้าในเชิงลึก

                  2) พัฒนาด้วยทีมงานหลายฝ่าย ระดมสมอง คิดนอกกรอบ พัฒนานวัตกรรมจากความคิดร่วมกันของหลายๆ ฝ่าย เพื่อระดมสมองจากหลายมุมมอง

                  3) ทดสอบนวัตกรรมกับลูกค้าก่อนออกใช้งานจริง เป็นขั้นตอนสุดท้ายเพื่อปรับปรุงก่อนส่งผลิตภัณฑ์ถึงมือลูกค้าผู้ใช้งานจริง

          ระหว่างการทำงานใน Agile Way จะมีการตรวจสอบให้แน่ใจอยู่เสมอว่าสิ่งที่กำลังพัฒนาไม่มีอะไรหลุดไปจากแผนการหรือความต้องการที่แท้จริง และหากมีความเปลี่ยนแปลงที่ทำให้ความต้องการของลูกค้าเป้าหมายเปลี่ยนไปก็สามารถปรับเปลี่ยนได้ทัน

          • งบประมาณทางการตลาดต้องมี เนื่องจากในการปรับปรุงเปลี่ยนแปลง เมื่อธุรกิจวางแผนมาอย่างดี มีทั้งข้อมูลที่ดี อยู่บนแพลตฟอร์มที่ดี และใช้วิธีการทำงานแบบ Agile Way สิ่งสุดท้ายที่จะลืมไม่ได้คือ การทำการตลาด เพื่อให้ลูกค้ารู้จักสินค้าของเราอย่างแท้จริง ในยุคดิจิทัลจึงต้องวางแผนสำหรับ Digital Marketing ด้วย โดยงบการตลาดก็ควรจะเป็น 20-30% ของยอดขาย

 

AXA 720 x100

aia 720 x100

 

          3. กระแสเงินสดต้องแข็งแกร่ง และต้องมีเครื่องมือทางการเงินที่ดี

          การก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาของการเปลี่ยนแปลง หัวใจหลักที่จะทำให้ธุรกิจแข็งแรง คือการมีกระแสเงินสดอย่างพอเพียง โดยธุรกิจที่แข็งแรงจะสามารถประมาณการทางการเงินในอนาคตได้ และทราบมูลค่าของธุรกิจที่กำลังดำเนินการอยู่ ซึ่งการสร้างมูลค่าของธุรกิจจะเพิ่มขึ้นต่อเมื่อสามารถสร้างกระแสเงินสด (Cash Flow) ออกมาให้ได้มากที่สุดและเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง กระแสเงินสดจะเพิ่มขึ้นได้ก็ต่อเมื่อธุรกิจสามารถบริหารปัจจัยหลัก (Value Drivers) 7 ปัจจัยได้ดี คือ

          1. การสร้างจุดขายจุดแข็งให้กับองค์กร

          2. การทำให้ยอดขายเติบโต

          3. การทำให้กิจการมีกำไรดี

          4. การบริหารภาษีอย่างประสิทธิภาพ

          5. การใช้เงินทุนหมุนเวียนต่ำ

          6. การใช้เงินลงทุนที่ต่ำ

          7. การหาแหล่งเงินทุนที่ต้นทุนต่ำที่สุด

          ดังนั้นการเดินหน้าสู่การเป็นดิจิทัลจึงจำเป็นต้องมีเครื่องมือทางการเงินที่เข้าใจธุรกิจเอสเอ็มอีเป็นอย่างดีในทุกส่วนของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องแหล่งเงินทุน บัญชีสำหรับธุรกิจโดยเฉพาะ รวมทั้งการติดตามรายงานการเงินที่ง่าย และสะดวกสบาย นำเสนอในมุมที่เข้าใจผู้ประกอบการธุรกิจ นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงเครื่องมือที่อำนวยความสะดวกให้กับลูกค้า เพื่อให้ทุกการซื้อขายเป็นไปได้อย่างราบรื่นอีกด้วย

          ทีเอ็มบีธนชาตจึงได้พัฒนาผลิตภัณฑ์มาจากความต้องการของลูกค้าธุรกิจ โดยมีเครื่องมือทางการเงินเพื่อธุรกิจที่เข้าใจลูกค้าอย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น

          • ทีทีบี บิสสิเนสวัน (ttb business one) Platform ทางการเงิน ที่สามารถทำธุรกรรมจากทุกอุปกรณ์ไปที่ระบบเดียว และสามารถเรียกดูรายงาน กำหนดสิทธิ์ผู้เข้าใช้งานได้อย่างสอดคล้องกับธุรกิจ ยิ่งใช้คู่กับ ทีทีบี เอสเอ็มอีวันแบงก์ (ttb sme one bank) บัญชีที่เข้าใจธุรกิจสามารถลดต้นทุนด้านค่าธรรมเนียม ลดต้นทุนสมุดเช็ค และสิทธิพิเศษอื่นๆ ที่เหมาะกับการทำธุรกิจ

          • สำหรับการรับเงิน ธนาคารมี ทีทีบี สมาร์ทช็อป (ttb smart shop) แอปพลิเคชันจัดการร้านค้าที่สามารถชำระเงินผ่าน QR Code ได้ หรือบริการรับชำระเงินออนไลน์ ทีทีบี ควิกเพย์ (ttb quick pay) ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีสามารถสร้างลิงก์ในการชำระเงิน และส่งผ่านช่องทางต่างๆ ได้ ไม่ว่าจะเป็น SMS หรือช่องทาง Chat ของ Social Media ต่างๆ โดยลิงก์ที่สร้างขึ้นมาจะมีความปลอดภัยที่ลูกค้าและผู้ประกอบการมั่นใจได้ และลูกค้าได้รับความสบายใจสูงสุด

          สนใจศึกษาความรู้และเคล็ดลับทางธุรกิจเพิ่มเติมได้ที่ finbiz by ttb โครงการเสริมความรู้ธุรกิจ ด้วยแนวคิดครบ จบในที่เดียว ปรับใช้ได้ง่าย ต่อยอดได้จริง สู่การเป็น Smart SME” ผ่านหลากหลายแพลตฟอร์ม พร้อมองค์ความรู้ที่ครบครัน จากพันธมิตรชั้นนำทั้งภาครัฐ และภาคเอกชน เพื่อให้ธุรกิจรับมือกับความเปลี่ยนแปลง พร้อมปรับตัวในยุคดิจิทัลและเติบโตอย่างยั่งยืน คลิก https://www.ttbbank.com/th/finbiz

 

ที่มา

“Road to Digital Transformation พลิกโฉมธุรกิจสู่การเป็น Smart SME ในยุคดิจิทัลโดย finbiz by ttb และ ISMED


A7581

 Click Donate Support Web  

EXIM One 720x90 C J

วิริยะ 720x100

PTG 720x100TU720x100sme 720x100

BANPU 720x100QIC 720x100

ais 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!