Details

Category: ขายตรง

Published: Sunday, 04 May 2014 00:50

Hits: 4041

คนขายตรงดิ้นหนีฝ่าวิกฤติ การเมืองร้อน-เศรษฐกิจทรุด

     บ้านเมือง : สุภพงษ์ เทียนสี/รายงาน : หลากกลยุทธ์ผู้นาขายตรงยุคเศรษฐกิจตกต่ำ แถมการเมืองพ่นพิษ 'บิ๊กกรวรรณ'แม่ทีมเงินล้าน ยังยึดระบบการตลาดออฟไลน์ยังใช้ได้ แต่ยอมรับว่าต้องทางานให้ทันตามยุคสมัย แนะคนขายตรงอยู่ที่ไหนก็สาเร็จได้ อยู่ที่ตั้งใจทาจริงหรือเปล่า ฝั่งผู้นาเบอร์ 1 ค่ายน้องใหม่ มุ่งหน้าสู่รายได้เดือนละล้าน ปูทางตลาดภาคใต้บูมสุดๆ ดันสินค้าสเต็มเซลล์ นวัตกรรม มุ่งตอบโจทย์ผู้บริโภค พลิกวิกฤติเป็นโอกาสสร้างผู้นาเครือข่าย

     ด้านนักธุรกิจรุ่นใหม่'นุ๊ก-ธนะสิทธิ์'เชื่อมั่นระบบ นำพาทีมงานปรับเป้า สู่ 1.5 พันล้าน แม้ว่าสภาพเศรษฐกิจที่ตกต่ำและเหตุการณ์ความวุ่นวายทางการเมืองจะส่งผลกระทบไปสู่ภาคธุรกิจ ไม่เว้นแม้แต่ธุรกิจขายตรง แต่สำหรับฝั่งของนักธุรกิจเครือข่ายคือด่านแรกที่ใกล้ชิดกับผู้บริโภคและผู้มุ่งหวัง ย่อมต้องมีวิธีการและกลยุทธ์ในการปรับตัวให้สามารถเข้ากับสถานการณ์ เพื่อให้รักษามาตรฐานการทำงาน ฐานสมาชิกและผู้บริโภคเอาไว้

การตลาดออฟไลน์ยังไม่ตาย

     นางกรวรรณ ศรีสำราญ แม่ทีมเงินล้าน อดีตนักธุรกิจระดับแนวหน้าจากธุรกิจโสมเกาหลี ที่โด่งดังสุดขีดในอดีต มองว่า ปัจจุบันนี้วงการขายตรงมีบริษัทที่เปิดใหม่มากมาย ทำให้คนขายตรงกระจัดกระจายออกไป แต่สำหรับตนเองคิดว่าทำที่ไหนก็สำเร็จได้ทั้งนั้น อยู่ที่ความตั้งใจของแต่ละคนว่าทำงานจริงจังหรือเปล่า ส่วนลักษณะการทำงานในปัจจุบันยอมรับว่าเทคโนโลยีเข้ามามีบทบาทอย่างมากในการทำงาน แต่อย่างไรก็ตาม การทำงานวิธีการเดิมๆ คือ การพบปะกันยังมีความสำคัญอย่างมากที่ขายตรงยังคงต้องใช้อยู่

   "การทำงานเราทำตามยุคสมัย ก็มีช่องทางทางอินเตอร์เน็ตบ้าง การโฆษณาประชาสัมพันธ์สินค้า แต่การชวนคนเข้าสู่ธุรกิจวิธีการเดิมๆ ยังจำเป็นต้องใช้ การสร้างความผูกพัน เสน่ห์ของ MLM คือ ทำให้เรามีเพื่อน มันยั่งยืนกว่าการใช้อินเตอร์เน็ตอย่างเดียว

   ทั้งนี้ สอดคล้องกับแนวคิดของ นายวิสูตร ไพบูลย์สมบัติ ผู้นำอันดับหนึ่งจาก บริษัท เออาร์เอส โกลบอล เน็ตเวิร์ค จำกัด ที่เชื่อว่าการพบปะพูดคุยเป็นวิธีการที่ดีที่สุดในการชวนคนเข้าสู่การทำธุรกิจ

   "ผมชอบช่องทางออฟไลน์ โทรหาผู้มุ่งหวัง มีบ้างที่โพสต์ตามเฟซบุ๊คเรื่องการประชาสัมพันธ์ให้สินค้าเป็นที่รู้จัก แต่เรื่องการอธิบายแผนการตลาดต้องเจอหน้ากันถึงจะเข้าใจ"

เทรนด์ขาวใสยังมาแรง

   นางกรวรรณ กล่าวว่า สินค้าขายตรงในยุคปัจจุบันหนีไม่พ้นเรื่องการกินใช้แล้วขาว ใส รับประทานแล้วสวย ดังนั้น นักขายที่นำเสนอสินค้าประเภทนี้จะได้เปรียบคนอื่นในเรื่องการนำเสนอ ในขณะที่สินค้าเพื่อสุขภาพก็ยังได้รับความนิยมอยู่อย่างต่อเนื่อง

   "เทรนด์สินค้าตอนนี้เน้นความขาวใส อย่างที่เห็นคือ สเต็มเซลล์ คอลลาเจน หลายค่ายเอาเข้ามาแข่งขันตรงนี้ ส่วนสินค้าพวกสุขภาพก็ยังไปได้อยู่ มีผู้

บริโภคต่อเนื่อง"

   ตรงกันกับผู้นำค่ายน้องใหม่เออาร์เอส นายวิสูตร กล่าวว่า สินค้าเพื่อความงาม ขาว ใส ได้รับความนิยมอย่างมากต่อผู้บริโภคในปัจจุบัน รองลงมาคือ เรื่องการลดน้ำหนัก เห็นได้จากสินค้าเด่นที่เขาทำตลาดอยู่นั้น สามารถตอบโจทย์ความต้องการได้เป็นอย่างดีเพราะเป็นสินค้าเพื่อความสวยงามและมีนวัตกรรมทันสมัย ทำให้เขาเชื่อว่าจะสามารถสร้างรายได้เฉลี่ยเดือนละ 1 ล้านบาทในเร็ววันนี้

     ด้านแผนการตลาดในปัจจุบัน นางกรวรรณ มองว่า ทุกบริษัทมีแนวทางของแผนการตลาดที่คล้ายคลึงกัน โดยเฉพาะแผนการจับคู่จ่าย เพียงแต่ต้องดูให้แน่ชัดว่าบริษัทจ่ายจริงหรือไม่ ซึ่งโดยรวมแล้วผู้นำจะไม่มีปัญหาเรื่องแผนการตลาดเพราะต่างมีประสบการณ์และความรู้ที่ดีอยู่แล้ว ส่วนมากที่จะมีปัญหาคือ กับผู้ประกอบการมากกว่า

      "ส่วนใหญ่ผู้นำจะไม่ซีเรียสเรื่องแผนการตลาดสักเท่าไร แต่จะมีปัญหากับผู้ประกอบการ เจ้าของบริษัทมากกว่า คือ เจ้าของทำแล้วเลิกหรือเปล่า ทำยอดไป 1-2 ปี บริษัทเปลี่ยนแผน เปลี่ยนช่องทางไปทำซิงเกิ้ลบ้าง ตรงนี้แม่ทีมค่อนข้างกลัว เพราะเราลงทุนไปกับบริษัทแล้ว เหมือนกับเป็นหุ้นส่วนกับบริษัทไปแล้ว เราก็อยากทำระยะยาว บริษัทก็เหมือนบ้านไม่มีใครอยากย้ายบ่อยๆ หรอก แต่เมื่อบ้านไม่มีความมั่นคง ก็ต้องหาบ้านใหม่ที่มีความมั่นคงกว่า จะให้แม่ทีมไปเปิดบริษัทเองก็ไม่ได้อีก ไม่ใช่แนว"กรวรรณ กล่าว

     ด้านนายวิสูตร ให้ความเห็นเกี่ยวกับแผนการตลาดของขายตรงทุกวันนี้ว่าต้องจ่ายให้เร็ว ซึ่งปกติแผนการตลาดแบบไบนารี่จะมีรอบการจ่ายที่เร็วอยู่แล้ว หากแต่ปัจจุบันบางบริษัทมีการปรับรอบการจ่ายให้เร็วขึ้นอีก เพราะมองเห็นว่านักธุรกิจต้องมีการใช้เงินทุนทุกวันในการออกไปทำงาน หากมีการจ่ายที่เพิ่มคงวามถี่ ก็จะลดปัญหาการรอเงินคอมมิชชั่น

    "จำนวนการจ่ายเงิน ผมมองว่าแต่ละบริษัทจ่ายเยอะจ่ายน้อย อยู่ที่แต่ละบริษัท แต่รอบการจ่ายที่เพิ่มความถี่ขึ้นจะเพิ่มสภาพคล่องให้นักธุรกิจที่ออกไปทำงาน ที่ผ่านมานักธุรกิจออกไปทำงานกว่าคอมมิชชั่นจะออกต้องรอ ต้องเอาจากแม่ทีมก่อน ตรงนี้เป็นปัญหา แต่เมื่อมีการเพิ่มความถี่รอบการจ่ายเงินตรงนี้ นักธุรกิจเขาได้ใช้เงินไปหมุนเวียน เขาก็ไม่ต้องเดือดร้อน" ผู้นำเบอร์ 1 เออาร์เอส กล่าว

ระบบดี ใครๆ ก็สำเร็จได้

      ด้านนายธนะสิทธิ์ พรสิริกุลนันท์ นักธุรกิจเครือข่ายหนุ่มรุ่นใหม่ ผู้ก่อนตั้ง Together Group เผยว่า ธุรกิจเครือข่ายบริษัท โซล คอร์ปอร์เรชั่น อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด ที่เขาทำอยู่ขณะนี้เติบโตสวนกระแสอย่างมาก จนกระทั่งมีการปรับเป้าหมายจากเดิม 1 พันล้านบาท เป็น 1.5 พันล้านบาท ภายในสิ้นปีนี้ สาเหตุที่เป็นเช่นนั้นนอกจากบริษัทมีสินค้าที่มีคุณภาพ และตอบสนองความต้องการของคนในยุคปัจจุบันแล้ว สิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ ความเข้มแข็งของทีมและการพัฒนาบุคคลากรในทีมงาน

     "ตอนนี้การทำงานมันง่ายมากๆ และผมว่ามันง่ายขึ้นกว่าเมื่อก่อน อาจเป็นเพราะเราเพิ่งเป็นช่วงเริ่มต้น สังเกตจากการจัดประชุมที่ใช้คนน้อยลงแต่มียอดขายเยอะขึ้น แต่ต้องยอมรับว่าบริษัทมีสินค้าที่คุณภาพดีและตอบความต้องการของคนได้ โดยเทรนด์ทุกวันนี้เน้นความขาวใส บริษัทก็มีสินค้าที่ตอบโจทย์ จึงทำให้โตเร็วมาก ขณะที่บริษัทไม่เน้นให้ทำออนไลน์มากขึ้น และคุมเข้มเรื่องระเบียบจรรยาบรรณมากๆ โดยเฉพาะการขายตัดราคา นักธุรกิจก็เลยมีกำลังใจในการทำงาน"

     นายธนะสิทธิ์ กล่าวว่า ทั้งทีมงานยอดขายที่พุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว เป็นผลมาจากระบบการทำงานที่มีประสิทธิภาพ ซึ่งระบบดังกล่าวเน้นการขายความจริง และพัฒนาคนให้สามารถในการออกไปทำงาน จึงทำให้แบรนด์มีความเข้มแข็ง ทั้งนี้การขึ้นเป็นผู้นำต้องไม่ละทิ้งงานพื้นฐานด้วย นี่คือเคล็ดลับสู่ความสำเร็จ