Details

Category: พลังงาน

Published: Saturday, 05 July 2014 16:18

Hits: 2903

จับตาคสช.ขึ้นราคาก๊าซ-ดีเซล เลิกโครงการอนุรักษ์พลังเพิ่ม

     ไทยโพสต์ : วิภาวดีรังสิต * คสช.จ่อขึ้นราคา ดีเซล แอลพีจี และเอ็นจีวี ดึงราคาเบนซินและโซฮอล์ลง ด้าน'อารีพงศ์'เตรียมชงบอร์ดใหญ่ อนุรักษ์พลังงาน สั่งยกเลิกโครง การเพิ่มเติมอีกหลายโครงการในสัปดาห์หน้า

    แหล่งข่าวกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า การปฏิรูปพลัง งานที่ พล.อ.อ.ประจิน กำลังดำเนินการอยู่ในขณะนี้ ได้แนว ทางเบื้องต้นแล้วว่าจะมีการปรับขึ้นราคาน้ำมันดีเซล ราคาก๊าซหุงต้ม (แอลพีจี) และราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (เอ็นจีวี) อย่างเป็นขั้นตอนให้สอดคล้องกับต้นทุนที่แท้จริง แต่ยังไม่ได้ข้อสรุปว่าจะปรับขึ้นเท่าไหร่ และช่วงใด ซึ่ง พล.อ.อ.ประจิน ยังขอดูในรายละเอียดให้เกิดความรอบคอบ ส่วนราคาน้ำมันเบนซินและแก๊สโซฮอล์นั้น จะมีการปรับลดราคาลง เนื่องจากที่ผ่านมามีการบวกเพิ่มภาษีสรรพ สามิต และการเรียกเก็บเงินเข้ากองทุนในอัตราที่สูงเกินไป

   นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัด กระทรวงพลังงาน กล่าวว่า ความ ชัดเจนเรื่องของการปรับโครง สร้างราคาพลังงาน ที่เกี่ยวกับภาคขนส่ง ทั้งน้ำมันเบนซิน ดีเซล แอลพีจีและเอ็นจีวีนั้น จะต้องรอให้ทาง พล.อ.อ.ประจิน จั่นตอง รองหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายเศรษฐกิจ เป็นผู้ชี้แจง โดยแนวทางจะต้องปรับให้เป็นราคาตลาด เพียงแต่จะต้องพิจารณาอย่างรอบคอบถึงผลกระทบที่จะเกิดขึ้น และต้องไม่เป็นภาระการคลังของประเทศและภาระของกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง คาดว่าจะแล้วเสร็จในเร็วๆ นี้ และจะเสนอต่อหัวหน้า คสช.ต่อไป

     ทั้งนี้ ในสัปดาห์หน้าที่มีการประชุม คณะกรรมการเงินกองทุนเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน ที่มี พล.อ.อุดมเดช สีตบุตร เป็นประธาน ทางกระทรวงพลังงานจะเสนอให้ยกเลิกโครงการส่ง เสริมของกองทุนอนุรักษ์พลัง งานเพิ่มเติมอีก หลังจากการประชุมคณะกรรมการฯ เมื่อวันที่ 1 ก.ค.57 ได้ยกเลิกไปแล้ว 9 โครงการ จากโครงการส่งเสริม 200 โครงการ เนื่องจากเห็นว่ามีบางโครงการใช้งบสูงเกินไป บางโครงการดำเนินการไม่ทัน 30 ก.ย.57

   นอกจากนี้ จะปรับเป้าการใช้พลังงานทดแทนของประ เทศเพิ่มเป็น 30% จากเป้าหมายเดิมกำหนดไว้ที่ 25% จากพลัง งานทั้งหมดใน 10 ปี (พ.ศ.2564) อย่างไรก็ตาม จะต้องศึกษาผล กระทบกับค่าไฟฟ้าก่อน หากไม่ทำ ให้ค่าไฟฟ้าแพงเกินไป กระทรวง พลังงานอาจปรับเป้าหมายดังกล่าวเพิ่มขึ้นได้.

'อารีพงศ์' ลั่นสร้างความมั่นคงพลังงาน

            บ้านเมือง : นายอารีพงศ์ ภู่ชอุ่ม ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในฐานะปลัดกระทรวงพลังงานคนใหม่ สิ่งที่ตั้งใจและจะเร่งทำมี 2 เรื่อง คือ 1.ความมั่นคงด้านพลังงาน 2.สร้างความเข้าใจต่อทุกภาคส่วน หลังกลุ่มคนในสังคมมีความเห็นแตกแยกเรื่องข้อมูลด้านพลังงาน ดังนั้นจะรับฟังความคิดเห็นจากทั้งฝ่ายที่เห็นด้วยและเห็นต่าง

     อย่างไรก็ตาม การจะเชิญกลุ่ม น.ส.รสนา โตสิตระกูล อดีต ส.ว.กรุงเทพมหานครมาให้ข้อมูลหรือไม่นั้น คงต้องพิจารณา เพราะที่ผ่านมาทาง คสช.ได้ดำเนินการมาก่อนอยู่แล้ว ดังนั้นกระทรวงคงจะนำมาสานต่อพร้อมทำความเข้าใจ โดยยืนยันจะทำงานอย่างเต็มที่ รวดเร็ว และทำให้เกิดความขัดเจน

    "การสร้างความมั่นคงด้านพลังงานในระยะยาวถือเป็นเรื่องสำคัญ เพราะตั้งแต่อยู่กระทรวงการคลังเคยพบนักลงทุนญี่ปุ่นที่สนใจเข้ามาลงทุนในไทยก็แสดงความเป็นห่วงเรื่องการจัดหาพลังงานของไทยว่าจะเพียงพอและสร้างความเชื่อมั่นระยะยาวได้หรือไม่ เพราะฉะนั้นเมื่อผมเข้ามาทำงานต้องนำแผนที่กระทรวงพลังงานทำไว้มาดูและทำอย่างไรเพื่อตอบโจทย์นักลงทุน ยอมรับว่าเมื่อเปิดประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน หรือเออีซีแล้ว การลงทุนจะเข้ามามากขึ้น ดังนั้นการเตรียมพร้อมรองรับต้องดูในทุกด้านรวมไปถึงพลังงานด้วย" นายอารีพงศ์ กล่าว

    การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) แจ้งว่า การผลิตและส่งไฟฟ้าของภาคใต้ เมื่อวันที่ 3 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นวันที่ 21 ของการหยุดจ่ายก๊าซธรรมชาติ เพื่อซ่อมบำรุง แหล่งก๊าซฯ พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (JDA-A18) ระหว่างวันที่ 13 มิถุนายน-10 กรกฎาคม 2557 เป็นปกติ สามารถรองรับการใช้ไฟฟ้าของภาคใต้อย่างเพียงพอ โดยมีการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของภาคใต้เท่ากับ 2,279.41 เมกะวัตต์ เมื่อเวลา 19.40 น. ซึ่งโรงไฟฟ้าทุกโรงสามารถเดินเครื่องได้โดยไม่มีเหตุขัดข้อง

   ทั้งนี้ ปริมาณการใช้ไฟฟ้าสูงสุดของภาคใต้สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง และคาดว่าจะมีการใช้ไฟสูงขึ้นอีกในอนาคต กฟผ. จึงขอความร่วมมือประชาชน โดยเฉพาะภาคอุตสาหกรรมในภาคใต้ร่วมกันประหยัดไฟในช่วงเวลา 18.30-22.30 น. เพื่อความมั่นคงของระบบไฟฟ้า และตอบสนองการใช้ไฟฟ้าของประชาชนได้อย่างเพียงพอ