WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

แหล่งก๊าซฯ เจดีเอ กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ปตท. ขอขอบคุณทุกความร่วมมือ

   บ้านเมือง : ผ่านพ้นไปด้วยความราบรื่นสำหรับการปิด ซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซธรรมชาติพื้นที่พัฒนาร่วมไทย-มาเลเซีย (เจดีเอ-เอ18) อ.จะนะ จ.สงขลา ที่ได้ดำเนินการเสร็จสิ้นเร็วกว่าที่คาดการณ์ไว้ถึง 3 วัน จากเดิมที่มีกำหนดปิดซ่อมตั้งแต่วันที่ 13 มิถุนายน ถึง 10 กรกฎาคม 2557 แต่ด้วยการเตรียมความพร้อมและความร่วมมือของทุกภาคส่วน จึงทำให้ผู้ผลิตก๊าซฯ สามารถดำเนินการแล้วเสร็จ เริ่มจ่ายก๊าซธรรมชาติ เข้าสู่ระบบได้ตั้งแต่วันที่ 8 กรกฎาคม 2557 ที่ผ่านมา เพื่อรองรับความต้องการใช้พลังงานของพี่น้องชาวใต้ได้ตามปกติ และผู้ใช้รถเอ็นจีวีสามารถเติมก๊าซเอ็นจีวีจากทุกสถานีฯ ในพื้นที่ภาคใต้ได้ตามปกติแล้วเช่นกัน

    การปิดซ่อมแหล่งก๊าซฯของผู้ผลิตฯ ที่ผ่านมาครั้งนี้ ทำให้ปริมาณก๊าซธรรมชาติในระบบขาดหายไปปริมาณ 420 ล้านลูกบาศก์ฟุตต่อวัน ส่งผลต่อการผลิตไฟฟ้า ณ โรงไฟฟ้าจะนะ ในขณะที่สถานีก๊าซธรรมชาติหลักจะนะไม่สามารถจ่ายก๊าซได้ตามปกติ ทำให้ปริมาณก๊าซเอ็นจีวี ณ สถานีบริการเอ็นจีวี 14 แห่ง ในพื้นที่ 3 จังหวัดภาคใต้ตอนล่าง ประกอบด้วย จังหวัดสุราษฎร์ธานี จังหวัดนครศรีธรรมราช และจังหวัดสงขลา ได้รับผลกระทบโดยมีปริมาณก๊าซเอ็นจีวี จำกัด ด้วยความห่วงใยในผลกระทบที่มีต่อผู้ใช้บริการเอ็นจีวี บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) จึงได้เร่งสื่อความและประสานทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้ทราบถึงสถานการณ์และร่วมจัดทำแผนจัดหาพลังงาน ซึ่งได้รับความสนับสนุนเป็นอย่างดีจาก หน่วยงานภาครัฐ หน่วยงานความมั่นคง ผู้ประกอบการขนส่ง ผู้ประกอบการสถานีบริการเอ็นจีวี โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ใช้บริการเอ็นจีวีทุกท่าน ทำให้การบริหารจัดการมีความราบรื่นและผ่านพ้นไปได้ด้วยดี

   นายชาครีย์ บูรณกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่หน่วยธุรกิจ ก๊าซธรรมชาติ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า "ปตท. ได้จัดตั้ง "ศูนย์ติดตามผลกระทบการปฏิบัติงาน กรณีแหล่งก๊าซเจดีเอปิดซ่อมบำรุง" เพื่อสื่อสารและวีดิโอทางไกลเชื่อมต่อระหว่างศูนย์ติดตามผลกระทบฯ ที่ จ.กรุงเทพฯ จ.สุราษฏร์ธานี และ จ.สงขลา จนกลับสู่สภาวะปกติ และเพื่อบรรเทา ผลกระทบของผู้ใช้รถเอ็นจีวีปตท. ได้แบ่งการบริหารจัดการก๊าซเอ็นจีวีไว้ 2 ช่วง คือ ในช่วง 10 วันแรก (13-22 มิถุนายน 2557) มีการขนก๊าซ เอ็นจีวีจากสถานีก๊าซธรรมชาติหลักเทพารักษ์ จ.สมุทรปราการ และสำรองก๊าซเอ็นจีวีไว้ล่วงหน้า ณ สถานีบริการก๊าซธรรมชาติหลักจะนะ รวมไม่น้อยกว่า 50 ตันต่อวัน เพื่อจ่ายให้กับสถานีบริการเอ็นจีวีในพื้นที่ ที่ได้รับผลกระทบ ส่วนในช่วง 18 วันหลัง (23 มิถุนายน-10 กรกฎาคม 2557) ซึ่งสถานีจ่ายก๊าซหลักจะนะ สามารถเริ่มดำเนินการผลิตและอัดก๊าซจากที่สำรองไว้ในท่อส่งก๊าซธรรมชาติ (Line Pack) จ่ายให้กับสถานีบริการรองรับการให้บริการได้เพิ่มเติม ซึ่งปรากฏว่า ปตท. สามารถจัดส่งก๊าซเอ็นจีวีได้ตามปกติ ตั้งแต่วันที่ 25 มิถุนายน 2557 จึงสามารถอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ใช้รถเอ็นจีวีได้มากขึ้นด้วย          

    "การบริหารสถานการณ์ของ ปตท. ในครั้งนี้ สำเร็จลุล่วงตามแผนงาน ที่ได้กำหนดไว้เป็นอย่างดี ไม่ใช่ด้วยการประสานความร่วมมือของ ปตท. หน่วยงานเดียว หากเป็นเพราะความร่วมมือของทุกหน่วยงาน ทั้งภาครัฐและเอกชนที่เกี่ยวข้อง รวมถึงความเข้าใจกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น จึงทำให้สามารถผ่านพ้นช่วงวิกฤตดังกล่าวไปได้ด้วยดี ซึ่งการซ่อมบำรุงแหล่งก๊าซธรรมชาติ ถือได้ว่าเป็นภารกิจสำคัญที่ต้องดำเนินการเป็นประจำทุกปี เพื่อบริหารจัดการประสิทธิภาพในการจ่ายก๊าซฯ สร้างความมั่นใจแก่ประชาชนและสร้างความมั่นคงทางพลังงานอย่างต่อเนื่อง ดังนั้นการซ่อมบำรุงฯ แต่ละครั้งจึงจำเป็นต้องมีการเตรียมแผนรองรับอย่างรอบด้าน เพื่อให้อนาคตพลังงานของไทย มีความยั่งยืนและมั่นคง สำหรับประชาชนคนไทยเอง สามารถมีส่วนช่วยให้ทุกการหยุดซ่อมบำรุงของแหล่งก๊าซฯ สำเร็จลุล่วงไปได้ ด้วยการร่วมใจกันประหยัดพลังงาน ลดการใช้ไฟฟ้าและเชื้อเพลิง เพื่อให้เรามีพลังงานใช้ทั้งในวันนี้และวันข้างหน้า

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!