WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ไทยออยล์ คาดราคาน้ำมันดิบเบรนท์จะเคลื่อนไหวในกรอบ 105 –111 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 98-104 เหรียญฯ 

      "ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่สูงเป็นประวัติการณ์และความกังวลต่อการปรับลด QE สหรัฐฯ กดดันราคาน้ำมัน”

แนวโน้มสถานการณ์ราคาน้ำมันดิบ ( 28 เม.ย. – 2 พ.ค. 57)

       ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้คาดว่าจะมีแนวโน้มปรับตัวลดลงเล็กน้อย โดยได้รับแรงกดดันจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่อยู่ในระดับสูงเป็นประวัติการณ์ รวมถึงตลาดกังวลต่อการลดขนาดวงเงินการกระตุ้นเศรษฐกิจ และการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี สถานการณ์ความไม่แน่นอนในยูเครน การเจรจาเปิดใช้ท่าขนส่งน้ำมันดิบลิเบีย รวมถึงการปิดซ่อมบำรุงตามแผนของหลุมน้ำมันดิบทะเลเหนือ เป็นปัจจัยพยุงราคาน้ำมันดิบ

ปัจจัยสำคัญที่จะส่งผลกระทบต่อสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้:

     ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ซึ่งยังคงปรับเพิ่มขึ้นต่อเนื่องมาแตะระดับสูงสุดในรอบ 32 ปี ที่ 397.7 ล้านบาร์เรล อันเป็นผลจากการปิดซ่อมบำรุงโรงกลั่นและการนำเข้าน้ำมันดิบที่ปรับเพิ่มขึ้นเพื่อสำรองไว้ใช้หลังช่วงปิดซ่อมบำรุง อย่างไรก็ดี ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังบริเวณคุชชิ่ง โอคลาโฮมา ยังอยู่ในระดับต่ำ ภายหลังท่อขนส่งน้ำมันดิบ Keystone เปิดใช้งาน

      การประชุมธนาคารกลางสหรัฐฯ ที่จะมีขึ้นในสัปดาห์นี้ (28-30 เม.ย.) โดยตลาดคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดขนาดวงเงินการกระตุ้นเศรษฐกิจลงอีก 10,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ  นอกจากนี้ตลาดยังจับตามองการส่งสัญญาณของธนาคารกลางสหรัฐฯ ต่อการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอ้างอิง ซึ่งถูกตรึงอยู่ในระดับต่ำนานกว่า 5 ปี

      การเจรจาเปิดท่าเรือขนส่งน้ำมันดิบ 3 ท่าหลักทางฝั่งตะวันออกของลิเบีย หากการเจรจาสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีจะทำให้ปริมาณการส่งออกปรับเพิ่มขึ้นจาก 0.22 ล้านบาร์เรลต่อวันในปัจจุบัน มาอยู่ที่ราว 0.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน ซึ่งจะส่งผลให้ภาวะอุปทานตึงตัวในบริเวณดังกล่าวผ่อนคลายลงได้บ้าง

      ติดตามเหตุการณ์ความรุนแรงใน 9 เมืองทางฝั่งตะวันออกยูเครน ภายหลังกลุ่มกบฏฝักใฝ่รัสเซียได้เข้ายึดสถานที่ราชการและปะทะกับทหารของรัฐบาล โดยสหรัฐฯ และยุโรปได้แถลงชัดเจนว่า หากรัสเซียยังเดินหน้าแทรกแซงทางการเมืองในยูเครน และสนับสนุนให้เกิดเหตุการณ์รุนแรงในเมืองฝั่งตะวันออกของประเทศต่อไป จะมีการยกระดับการคว่ำบาตรต่อรัสเซียขึ้น

      การปิดซ่อมบำรุงตามแผนของหลุมน้ำมันดิบบริเวณทะเลเหนือในช่วงปลายเดือน เม.ย.จนถึงกลางเดือน พ.ค. ซึ่งจะทำให้กำลังการผลิตน้ำมันดิบของทะเลเหนือ ปรับลดลงราว 15% เมื่อเทียบกับเดือนก่อนหน้า

      ตัวเลขเศรษฐกิจที่น่าติดตามในสัปดาห์นี้ ได้แก่ ยอดสัญญาซื้อขายบ้านรอปิดการขาย การจ้างงานภาคเอกชน อัตราการว่างงาน และจีดีพีไตรมาส 1/2557สหรัฐฯ ดัชนีภาคการผลิตจีน อีกทั้งดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคและความเชื่อมั่นนักลงทุนยุโรป

สรุปสถานการณ์ราคาน้ำมันในสัปดาห์ที่ผ่านมา ( 21 - 25 เม.ย. 57)

     ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์ที่ผ่านมาปรับลดลง 3.70 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปิดที่ 100.60 เหรียญฯ  และเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้น 0.05 เหรียญฯ ปิดที่ 109.58 เหรียญฯ ส่วนดูไบปรับขึ้นเช่นกันมาอยู่ที่ระดับ 106 เหรียญฯ ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา อันเป็นผลมาจากปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐฯ ที่ปรับตัวสูงขึ้นมากกว่าคาด ซึ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 32 ปี รวมถึงภาพรวมของตลาดบ้านสหรัฐฯ ที่ชะลอตัวลงจากช่วงก่อนหน้า อย่างไรก็ดี ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เนื่องจากความกังวลต่อการเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียของนานาชาติกรณีการแทรกแซงทางการเมืองต่อยูเครน รวมถึงปริมาณการผลิตน้ำมันดิบลิเบียที่ยังคงอยู่ในระดับต่ำ

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!