WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

กูรูพลังงานตั้งกลุ่มปฏิรูปปตท.สุดทนข้อมูลถูกบิดเบือน บี้ลดผูกขาด-สกัดทุจริต

     ไทยโพสต์ : วิภาวดีรังสิต * กูรูพลังงานกว่า 32 คน สุดทนการบิดเบือนข้อมูลในสังคม หวั่นถูกนำไปกำหนดเป็นนโยบายรัฐก่อผลเสียกับประเทศ เร่งรวมตัวก่อตั้งกลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน เสนอแนะรัฐถอนหุ้นออกจาก ปตท. เปิดธุรกิจเดินตามกลไกตลาด ปล่อยลอยตัวราคาพลังงาน เพื่อความยั่งยืนระยะยาว

      นายปิยสวัสดิ์ อัมระนันทน์ อดีต รมว.พลังงาน เปิดเผยว่า ปัจจุบันกระแสต่อต้านด้านพลังงานเกิดขึ้นมากมายทั้งบนเวทีสาธารณะและผ่านสังคมออนไลน์ ซึ่งมีการให้ข้อมูลผิดพลาดหลายครั้ง และถูกนำเสนอให้ใช้เป็นนโยบายของภาครัฐ ซึ่งหากการนำเสนออยู่บนข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและนำไปกำหนดเป็นนโยบายจะสร้างความเสียหายให้กับประเทศ ดังนั้น ผู้เชี่ยวชาญในวงการพลังงานกว่า 32 คน จึงได้รวมตัวกันจัดตั้ง "กลุ่มปฏิรูปพลังงานเพื่อความยั่งยืน" ขึ้น ซึ่งประกอบด้วยนักวิชาการ ข้าราชการ และผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงานมากมาย อาทิ นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยวชาญด้านพลังงาน, นายเมตตา บันเทิงสุข อดีตผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.), นายทวารัฐ สูตะบุตร อธิบดีกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงาน (พพ.), นายคุรุจิต นาครทรรพ รองปลัดกระทรวงพลังงาน และนายพรายพล คุ้มทรัพย์ อาจารย์คณะเศรษฐศาสตร์มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เป็นต้น

    ทั้งนี้ ทางกลุ่มปฏิรูปพลัง งานฯ ได้ยื่นข้อเสนอกับภาคสังคมเพื่อให้ประชาชนและรัฐบาลที่จะเข้ามาบริหารประเทศชุดใหม่นำไปพิจารณาปฏิรูปพลังงานประเทศไทย โดยเสนอให้ทยอยลดการถือหุ้นของภาครัฐในบริษัทรัฐวิสาหกิจโดยเฉพาะใน บมจ.ปตท.ลง เพื่อลดการแสวงหาผล ประโยชน์ของนักการเมือง เนื่อง จากนักการเมืองเมื่อเข้ามาดำรงตำแหน่งผู้บริหารกระทรวง และยังมีตำแหน่งซ้ำซ้อนเป็นกรรมการบริหารในบริษัทรัฐ วิสาหกิจด้วย ซึ่งง่ายต่อการกำ หนดนโยบายของรัฐวิสาหกิจ และก่อให้เกิดการทุจริตเชิงนโยบายได้ง่าย

    พร้อมกันนี้ ควรลดการผูกขาดด้านพลังงานของบริษัท ปตท. ปรับโครงสร้างราคาพลัง งานให้สะท้อนต้นทุนที่แท้จริง เปิดให้มีการแข่งขันอย่างเสรี ปตท.ต้องถอนหุ้นออกจากโรงกลั่นน้ำมันบางส่วน อาทิ โรงกลั่นบางจากและโรงกลั่นสตาร์ปิโตเลียม รีไฟล์ลิ่ง จำกัด รวมทั้งต้องแยกธุรกิจท่อก๊าซธรรมชาติจัดตั้งเป็นบริษัท เพื่อให้ผู้ประกอบการรายอื่นๆ ได้มีโอกาสใช้บริการท่อก๊าซอย่างเสรี

    นายบรรยง พงษ์พานิช ประธานกรรมการ บริษัทหลักทรัพย์ภัทร จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความเป็นบริษัทแห่งชาติควรเหลือให้น้อยลงซึ่งเป็นไปตามหลักสากลโลก เนื่องจากปัญหาคอร์รัปชันที่เกิดขึ้นส่วนใหญ่มาจากรัฐบาลเข้าไปควบคุมรัฐวิสาหกิจได้มากเกินจนเกิดการแทรกแซงกิจการ ดังนั้น รัฐควรที่จะถอนหุ้นในส่วนที่ถืออยู่ใน ปตท. 65% หรือคิดเป็น 8 แสนล้านบาทออกทั้งหมด

    นายมนูญ ศิริวรรณ ผู้เชี่ยว ชาญด้านพลังงาน กล่าวว่า การปรับโครงสร้างราคาพลังงาน รัฐควรกลับมาเก็บภาษีดีเซล เนื่องจากป้องกันการใช้น้ำมันอย่างฟุ่มเฟือย นอกจากนี้ต้องเร่งปรับราคาก๊าซธรรมชาติสำหรับรถยนต์ (เอ็นจีวี) เพราะราคาต่ำกว่าต้นทุนที่แท้จริงมาก เกิดการใช้อย่างไม่เหมาะสม ที่สำคัญเอ็นจีวีไม่เคยถูกเรียกเก็บภาษี ดังนั้นถึงเวลาต้องเรียกเก็บภาษีเอ็นจีวีเพื่อสร้างความเป็นธรรมกับผู้ใช้พลังงานกลุ่มอื่นๆ ด้วย.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!