WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1กนกบสอ

5 เครือข่ายโวยแช่แข็ง'สสส.'จ่านิวเมินข้อหาตร.จ่อหมายจับ

      เครือข่ายเยาวชนป้องสสส. จี้รบ.เลิกแช่แข็ง ทำกระทบ 2,400 โครงการ ขณะเครือข่ายต้านเหล้าลั่นเฝ้าระวัง ส่งคู่ปฏิปักษ์สสส.มานั่งบอร์ด 'หมอวิชัย'ย้ำทำเป็นกระบวนการ ด้านอดีตกมธ.โต้ร่วมล้มสสส.ยันไม่ได้รับเงินบ.บุหรี่ไปพม่า 'จ่านิว'ไม่รับข้อหามั่วสุมการเมือง กรณีเดินทางไปราชภักดิ์ 'บิ๊กตู่'ลั่นพร้อม ให้ทหารแจงไม่ได้ละเมิดสิทธิ เผยไม่อยาก ให้มีการกล่าวหากันมาก ย้ำรธน. ต้องเป็นสากล 'ปู'โต้ไม่ได้ยื่นเพิ่มพยานเพื่อยื้อคดีละเมิด สิ้น'พล.ร.ท.โรช'

วันที่ 09 มกราคม พ.ศ. 2559 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9173 ข่าวสดรายวัน

กินกับสื่อ - พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. ร่วมรับประทานอาหารกลางวันกับสื่อประจำทำเนียบรัฐบาล ในงานเลี้ยงปีใหม่ 2559 ที่ผู้สื่อข่าวประจำทำเนียบจัดขึ้น ที่รังนกกระจอก เมื่อวันที่ 8 ม.ค.

 

'บิ๊กตู่'เล่าอดีตวัยเด็ก

     เมื่อวันที่ 8 ม.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ. ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้ร่วมงานเลี้ยงฉลองวันปีใหม่ 2559 จัดโดยสื่อมวลชนประจำทำเนียบ โดยพล.อ.ประยุทธ์ร่วมรับประทานอาหารและเล่าถึงวัยเด็กให้ฟังว่า ตนเริ่มเกเรบ้าง ปีนรั้วไปกินขนมตอนกลางคืนรอบโรงเรียน ซึ่งปีนรั้วลำบากแต่เสริมสร้างประสบการณ์ชีวิต ทำให้เราเอาตัวรอดได้ 

    พล.อ.ประยุทธ์กล่าวว่า ส่วนเรื่องแฟนตนคบทีละคน เพราะต้องให้เกียรติ แต่เชื่อในบุพเพสันนิวาส แฟนคนแรกของตนจำไม่ได้แล้ว ปกติตนเป็นคนพูดเก่ง โรแมนติก คิดแต่สิ่งดีๆ มองต้นไม้ใบหญ้าก็เอามาเขียนเป็น กลอน ส่วนภรรยามาเจอกันเพราะตนเรียนภาษาอังกฤษเพื่อไปต่างประเทศสัปดาห์ละครั้งวันละ 1-2 ชั่วโมง และอายุไล่เลี่ยกัน แต่งงานตอนอายุ 34 ปี สมัยเป็นร้อยเอก จะหวานแหววกันไม่ได้เพราะตนอยู่ชายแดนวันนี้เปิดความลับหมดเลย แต่อย่าทำให้ภรรยาตนหงุดหงิด 

เผยที่มาอารมณ์ฉุนเฉียว

     ส่วนที่ผมมีอารมณ์ฉุนเฉียวนั้น ตั้งแต่เป็นผู้บังคับหน่วย ถ้าดีด้วยก็จะเละเทะ แต่กับสื่ออาละวาดทุกวันเพราะสื่อยั่ว แม่เป็นครูชอบ เข้มงวด ไม่เคยโดดเรียน ไม่เคยเข้าห้อง ผู้ปกครอง ไม่ชอบความขัดแย้งเพราะไม่น่าจะแก้ปัญหาได้ง่าย ไม่เคยโดดเรียน เล่นบอล ศูนย์หน้า? พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

     พล.อ.ประยุทธ์ยังกล่าวถึงลูกสาวว่า ไม่อยากให้ไปไหนเพราะห่วง จะลำบาก ภรรยาก็ลำบาก ลูกสาวเขาบอกว่าถ้ามีแฟนต้องหาให้ดีกว่าพ่อ แต่ไม่ดีกว่า ไม่มีก็ไม่เป็นไร ที่ผ่านมาก็มีคนมาจีบลูกสาวตน แต่ตอนนี้ไม่เห็นแล้ว ลูกแฝดเลี้ยงยาก ต้องเอาเหตุผลเข้าสู้ เด็ก สมัยนี้เอาหัวใจมาก่อนความรู้สึก ต้องเอาเหตุผลและสมองมาด้วย เอาความรู้สึกอย่างเดียวไม่ได้ เป็นรักแรกพบไม่ดี

ไม่อยากให้ใส่ความกันมาก

     นายกฯ กล่าวอีกว่า ปีใหม่นี้ทุกคนมีเวลาพักผ่อน ตนก็มีเวลาแต่ไม่ได้หยุดคิดเพราะต้องเตรียมขับเคลื่อนงานในปี 2559 เพราะถ้าเริ่มไม่ได้ ต่อไปก็เดินหน้าไม่ได้ ขอความร่วมมือให้เป็นประชาธิปไตยที่ถูกต้อง ไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นอีก อยากให้ประชามติผ่านและเลือกตั้งโดยไม่มีความรุนแรง ตนไม่อยากให้มีการใส่ความกันมากเพราะเราไม่ได้ทำการเมือง วันนี้จะลำบากถ้าไม่ปรับโครงสร้างเศรษฐกิจ อยากให้เข้าใจในภาพรวม ความมั่นคงเป็นบ่อเกิดของทุกอย่าง บ้านเมืองสงบ มีเรื่องความเชื่อมั่น ขอให้ชั่งน้ำหนักสิ่งที่ตนทำ หรือจะหวังจากรัฐบาลอื่น 

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ตนอยากอยู่กับสื่อทำเนียบ เพราะถือเป็นสมาชิกร่วมกัน แต่ไม่ค่อยมีโอกาสได้คุย สื่อน่ารักทุกคน ไม่ได้โกรธใครเลย อยากให้สร้างสังคมให้ปลอดภัย ไม่ได้อยากให้เขียนสนับสนุนตน แต่ขอให้นำเสนอสิ่งที่รัฐบาลทำด้วย ให้คนได้ตัดสินใจ หนังสือ พิมพ์เขียนให้อีกฝ่ายอยู่ข้างหน้า แต่เขียนให้ตนอยู่ข้างใน ใครพูดก่อนคนเห็นก็เชื่อไปแล้ว ต้องสร้างใหม่ ให้คนมีเหตุผล ไม่ใช่เขียนให้ทะเลาะกัน ให้เกิดความขัดแย้ง 

ย้ำรธน.ต้องเป็นสากล

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวรายการ ?คืนความสุขให้คนในชาติ? ตอนหนึ่งว่า รัฐบาลต้องเร่งปรับปรุงการประชาสัมพันธ์ของทุกหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพ เพื่อสร้างการรับรู้ ความเข้าใจอย่างกว้างขวาง ทั้งในและต่างประเทศ คิดว่ายังบกพร่องเรื่องนี้อยู่มาก วันนี้ได้สั่งการให้หน่วยราชการทุกหน่วยได้ดำเนินการแล้ว ส่วนการจัดทำรัฐธรรมนูญว่า ต้องทำให้เป็นสากล เป็นกฎหมายหลัก อย่าไปทะเลาะกันมากในเรื่องรัฐธรรมนูญ เรื่องกฎหมายลูก กฎหมายที่ต้องใช้บริหารราชการแผ่นดิน ทุกอย่างเราทำเพื่อประชาชน

   พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวด้วยว่า ตนยังไม่มั่นใจเรื่องการประชามติ ถ้าทุกคนยังมองในแง่ของประชาธิปไตยอย่างเดียว มันไปไม่ได้ ติดหมด ต้องมองว่าสิ่งที่เขียนไว้ สิ่งที่ทำไว้เกิดประโยชน์กับใคร เขียนกันไปแล้วก็สร้างความเข้าใจกันผิดๆ ถูกๆ ทำให้เกิดปัญหาหมด ถ้าไม่ผ่านก็ไม่ผ่าน ตนก็ทำไอะไรไม่ได้

    พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า หากทุกคนมีเจตนาดี ไม่ว่าจะพรรค นักการเมืองเข้ามาช่วยกันปฏิรูป ช่วยกันพูด ช่วยกันแสดงความคิดเห็นเรื่องการปฏิรูปดีกว่า อย่ามาติติง โดยที่ยังไม่พูดถึงการปฏิรูปกันเลย พูดถึงแต่เรื่องอำนาจ การใช้อำนาจ ระวังการสืบทอดอำนาจของตน มันทำให้ไม่เกิดความไว้เนื้อเชื่อใจ เดี๋ยวประชาชนก็ไม่พึงพอใจ การเลือกตั้งก็มีปัญหา กลับมาโทษตนอีกก็คงไม่ถูก ดังนั้นควรพัฒนาตัวเองให้ประชาชนไว้เนื้อเชื่อใจ ถ้าดี แก้ไข ทุกคนก็ให้อภัยหมด กลับมาสู่การพัฒนาชาติบ้านเมืองต่อไป เราไม่ใช่ศัตรูกัน จะเป็นศัตรูเฉพาะเรื่องกฎหมาย เพราะทำความผิดก็ต้องรับผิดชอบกันด้วย

ลั่นทหารพร้อมแจงไม่ละเมิดสิทธิ

   พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวอีกว่า อยากเรียนว่า สิ่งใดที่ทำให้สังคมสงบเรียบร้อย ถ้าไปมองในแง่ของสิทธิมนุษยชน มันไม่ใช่ มันคนละเรื่องกัน กฎหมายคือกฎหมาย สิทธิมนุษยชนคือสิทธิมนุษยชน จะทำอะไรก็ได้ภายใต้กฎหมาย สำคัญที่สุดคือกฎหมาย ส่วนการปรองดองสมานฉันท์นั้น หลายคนยังเข้าใจว่าคือการนิรโทษ ซึ่งตนบอกหลายครั้งแล้วว่าจะต้องมาด้วยกฎหมาย ขอให้ดำเนินการต่อไปโดยคณะทำงานฝ่ายกฎหมาย

    ผมระมัดระวังอยู่เสมอ ทุกคนมีสิทธิ์ต่อสู้ด้วยกฎหมาย อย่าต่อสู้ด้วยสื่อ ด้วยพูดอะไรต่างๆ ทำให้สังคมปั่นป่วน บิดเบือน บางอย่างก็ไม่มีข้อเท็จจริง ถ้าคิดว่าพูดในเรื่องจริง วันหลังขอเชิญผู้แทนทางทหารไปชี้แจงด้วยไม่ว่าเรื่องการใช้ความรุนแรง การละเมิดสิทธิมนุษยชน ผมพร้อมให้เจ้าหน้าที่ไปชี้แจง สำคัญว่าจะกล้าให้พวกเราไปชี้แจงหรือไม่ ไม่งั้นก็เล่นงานเจ้าหน้าที่อยู่ฝ่ายเดียว ต้องนึกถึงการกระทำของตนเองด้วย อย่าอ้างประชาชน อย่าอ้างประชาธิปไตยเพียงอย่างเดียว อยากฝากสื่อด้วย ขอให้เสนอทั้ง 2 ทาง ผมไม่อยากให้เราตกเป็นเครื่องมือของนักการเมืองที่ไม่ดี ที่ดีๆ ผมก็ไม่ได้ว่าเขา นักการเมืองที่ไม่ดีก็มีอยู่ ตอบโต้กันตามสื่อ ผมไม่เห็นเกิดประโยชน์ ท้ายสุดก็กลับมาโทษรัฐบาลอีก คสช.อีกว่าเข้ามาแล้วทำให้การเมืองเสียหาย ประชาธิปไตยเสียหาย ทำความเสียหายไว้มากกว่าที่ผมทำเยอะ ขอให้ร่วมมือกันแก้ไข และรับปัญหาต่อไปเพื่อให้ประชาชนมีความสุข? พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ฝากขัง'ขอนแก่นโมเดล'ผัด 4

    ที่ศาลทหารกรุงเทพ เจ้าหน้าที่กรมราชทัณฑ์ และทหารจากมณฑลทหารบกที่ 11 (มทบ.11) นำตัวนายวีรชัย ชาบุญมี ผู้ต้องหาคดีความผิดในข้อหาหมิ่นสถาบันเบื้องสูงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 และความผิดพ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ.2550 เนื่องจากนำข้อมูล อันเป็นเท็จเข้าสู่คอมพิวเตอร์ โดยจากการสอบสวนพบความเชื่อมโยงกับเครือข่ายขอนแก่นโมเดล และเตรียมก่อเหตุในช่วงกิจกรรมสำคัญ มาฝากขังเป็นผัดที่ 4 โดยศาลพิจารณาแล้วเห็นสมควร เพราะพนักงานสอบสวนยังอยู่ระหว่างการรวบรวมพยานหลักฐานต่างๆ เพิ่มเติม 12 วัน ตั้งแต่วันที่ 8-20 ม.ค.


สลัดผัก - น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ เปิดฟาร์มปลูกผักสดไร้สารพิษหลายหลากชนิด ภายในบ้านพักย่านซอยโยธินพัฒนา 3 ให้สื่อมวลชนเข้าชม พร้อมปรุงสลัดผักให้ทดลองชิมด้วย เมื่อวันที่ 8 ม.ค.

       ส่วนคดีนักศึกษากลุ่มประชาธิปไตยใหม่ 11 คน ที่เดินทางด้วยรถไฟเพื่อไปตรวจปัญหาการทุจริตในโครงการที่อุทยานราชภักดิ์มีการทุจริต และถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจรถไฟธนบุรี ออกหมายเรียกในข้อหามั่วสุมทางการเมืองตั้งแต่ 5 คนขึ้นไป โดยวันนี้เป็นวันครบกำหนดที่กลุ่มนักศึกษา 9 คนจะต้องเข้าพบพนักงานสอบสวน โดยเมื่อวันที่ 29 ธ.ค. มี ผู้ถูกออกหมายเรียกเข้ารายงานตัวแล้ว 2 ราย และจะยื่นเป็นลายลักษณ์อักษรอีก 1 ราย

ทนายชี้ไปราชภักดิ์ไม่ใช่มั่วสุม

     ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้นายอานนท์ นำพา และน.ส.กรกนก คำตา สองผู้ถูกออกหมายเรียก พร้อมด้วยน.ส.เยาวลักษณ์ อนุพันธุ์ ทนายความสิทธิมนุษยชนได้เดินทางเข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียก

      นายอานนท์กล่าวภายหลังรับทราบข้อกล่าวหาและพิมพ์ลายนิ้วมือ ว่าตนยืนยันให้การปฏิเสธว่าไม่ได้รวมกลุ่มเพื่อมั่วสุมทำกิจกรรมทางการเมือง ซึ่งกิจกรรมดังกล่าวไม่ใช่การชุมนุม แต่เป็นการเดินตรวจสอบอุทยานเท่านั้น อย่างไรก็ตาม ในวันที่ 7 ธ.ค. ที่ผ่านมาตนไปในฐานะทนายความของกลุ่มนักศึกษาประชาธิปไตยใหม่ หลังจากนี้จะนำหลักฐานซึ่งเป็นรูปภาพที่ปรากฏบนหนังสือ พิมพ์มาแสดงให้กับเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทั้งนี้ พนักงานสอบสวนไม่ได้นัดว่าจะให้เข้ามาพบอีกเมื่อไหร่ แต่ผู้ถูกออกหมายเรียกทั้ง 11 คนนัดจะให้การเป็นลายลักษณ์อักษรส่งมาอีกครั้งวันที่ 2 ก.พ.นี้ 

จ่านิวลั่นไม่เห็นด้วยถูกตั้งข้อหา

      สำหรับ นายสิรวิชญ์ เสรีธิวัฒน์ แกนนำกลุ่มประชาธิปไตย พร้อมเพื่อนรวม 7 คนที่ถูกออกหมายเรียก ได้เดินทางมาที่บริเวณหน้าสถานีตำรวจรถไฟธนบุรี พร้อมทั้งแจกหนังสือที่ทางกลุ่มทำขึ้นชื่อ ?ก้าวข้ามของขบวนการประชา ธิปไตย? ให้กับกลุ่มผู้สื่อข่าว โดยหน้าปกเป็นรูปนกพิราบ ที่พับจากหมายเรียกผู้ต้องหา พร้อมข้อความว่า ?รางวัลผู้ตรวจสอบคอร์รัปชันภายใต้รัฐประหาร? จากนั้นได้ร่วมกันอ่านใบแถลงการณ์ของกลุ่ม ก่อนแยกย้ายกันกลับ โดยทั้งหมดไม่ยอม ขึ้นไปให้ปากคำกับทางพนักงานสอบสวน

    นายสิรวิชญ์ เปิดเผยว่า ตนมาวันนี้เพื่อแสดงความไม่เห็นด้วยกับข้อหาที่ตำรวจตั้งขึ้น และจะไม่รับทราบข้อกล่าวหา เนื่องจากความผิดยังไม่เกิดขึ้น เพราะตนถูกขัดขวางการเดินทางไปตรวจสอบอุทยานราชภักดิ์จากเจ้าหน้าที่ ตั้งแต่บริเวณถนนจรัญสนิทวงศ์ และที่สถานีรถไฟบ้านโป่ง และยืนยันว่าจะไม่ขอเข้าสู่กระบวน การทางกฎหมาย และจะเคลื่อนไหวทางการเมืองต่อไป ส่วนเพื่อนที่เหลือจะดำเนินการอย่างไรต่อไปก็แล้วแต่ความเห็นของแต่ละคน

จ่อขอหมายจับ 6 น.ศ.เบี้ยวนัด

    พ.ต.อ.บุญรอด อังกาบ ผกก.1 บก.รฟ. กล่าวหลังจากนายสิรวิชญ์พร้อมพวกได้เดินทางมาและแสดงจุดยืนจะไม่เข้าพบพนักงานสอบสวนว่า กรณีนายสิรวิชญ์พร้อมพวกรวมตัวมาแสดงจุดยืน อ่านแถลงการณ์ และร้องเพลงเล่นดนตรีหน้าโรงพักเมื่อช่วงบ่ายที่ผ่านมา ได้รายงานต่อ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ผบก.รฟ.ทราบแล้ว ท่านให้พิจารณาว่ากิจกรรมของกลุ่มนักศึกษาก่อความเดือดร้อนหรือกระทบต่อการใช้ชีวิตของชาวบ้านหรือไม่ หากไม่ก็ให้อำนวยความสะดวกเรียบร้อย โดยส่งเจ้าหน้าที่ตำรวจไปประชาสัมพันธ์ให้ทำกิจกรรมในกรอบเวลาสั้นๆ ไม่ให้ยืดยาว 

     พ.ต.อ.บุญรอดกล่าวด้วยว่า ส่วนผู้ต้องหาอีก 6 รายที่ยืนยันไม่เข้าพบพนักงานสอบสวนตามหมายเรียกครั้งที่ 2 จะต้องถูกส่งเรื่อง เพื่อให้ศาลทหารอนุมัติหมายจับตามขั้นตอนต่อไป เบื้องต้นในวันจันทร์ที่ 11 ม.ค. ทางพนักงานสอบสวนจะเสนออนุมัติหมายจับต่อศาลทหาร และจะเป็นดุลยพินิจของศาลว่าจะออกหมายจับทั้ง 6 รายหรือไม่ เนื่องจากตำรวจไม่ใช่คู่กรณีแต่ต้องดำเนินการไปตามขั้นตอนของกฎหมาย 

พท.ขอดูเจตนา"กก.ปรองดอง"

     นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการเลขาธิการพรรคเพื่อไทย กล่าวถึงประธานสนช.ระบุจะเชิญพรรคและคู่ขัดแย้งทางการเมืองเข้าร่วมเป็นกมธ.ปรองดองว่า เป็นเรื่องที่ดี แต่จากประสบการณ์ มีการตั้งคณะกรรมการลักษณะนี้ไม่รู้กี่ชุด ไม่รู้ว่าได้แก้ปัญหาที่แท้จริงหรือไม่ ขณะนี้ยังไม่เห็นรายละเอียด ขอบเขตอำนาจหน้าที่ว่าเป็นอย่างไร ตั้งขึ้นมาทำอะไร ทำได้จริงเป็นรูปธรรมแค่ไหน แค่รวบรวมเสนอความเห็นหรือมีอำนาจตัดสินใจ ถ้าตั้งขึ้นมาลอยๆ อภิปรายกันไปมาหรือให้เพียงแค่ดูดีก็ไม่มีประโยชน์ ดังนั้น ขอดูรายละเอียดและจดหมายเชิญอย่างชัดเจนก่อน

      นายภูมิธรรมกล่าวอีกว่า พรรคเพื่อไทยยินดีที่จะปรองดอง อะไรที่ทำให้ประเทศเดินหน้า ลดแตกแยก พรรคเห็นด้วย และจะทำเท่าที่ทำได้ แต่ต้องดูเจตนาของกมธ.ชุดนี้ว่าต้องตั้งใจจริงในการแก้ปัญหา ฟังเสียงทุกฝ่าย ฟัง ผู้สูญเสีย ผู้ได้รับผลกระทบ ฟังว่าความจริงคืออะไร จะเยียวยา คลี่คลายปัญหาด้านความรู้สึกอย่างไร เพราะการเยียวยาไม่ใช่การเอาเงินไปฟาดหัว แต่ต้องคำนึงถึงเรื่องเกียรติยศ ศักดิ์ศรี ความยุติธรรม

ยิ่งลักษณ์โชว์แปลงผัก

     เวลา 16.00 น. วันเดียวกันนี้ ที่บ้านพักซอยโยธินพัฒนา 3 น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เปิดแปลงผักปลอดสารพิษและผักไฮโดรโปนิกส์ ที่อยู่ข้างบ้านพัก ซึ่งใช้เวลาว่างหลังพ้นตำแหน่งนายกฯ มาปลูกผักให้สื่อมวลชนเข้าชม พร้อมอธิบายวิธีการปลูก สาธิตการปรุงน้ำสลัดผักให้สื่อมวลชนรับชม ทั้งนี้ถือเป็นกิจกรรมครั้งแรกนับตั้งแต่รัฐประหาร เมื่อวันที่ 22 พ.ค.2557 โดยบรรยากาศเป็นกันเอง ไม่มีเจ้าหน้าที่ทหารมาสังเกตการณ์ความเคลื่อนไหวแต่อย่างใด

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวกรณีศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง จะเริ่มนัดไต่สวนพยานนัดแรกในวันที่ 15 ม.ค. ว่า ตนจะไปศาลในวันดังกล่าวด้วยตัวเอง จะพยายามไปฟังการสืบพยานโจทก์และจำเลยในทุกนัด ยกเว้นติดภารกิจจำเป็นจริงๆ ก็จะพิจารณาเพื่อขออนุญาตไม่ไป ส่วนการเรียกค่าเสียหายในคดีความผิดทางละเมิดนั้น ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงความผิดทางละเมิด กระทรวงคลัง ว่าจะอนุญาตให้สืบพยานเพิ่มหรือไม่ ตามที่ขอไป 18 ปาก 

ยันไม่ได้ยื้อคดีละเมิด

น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวด้วยว่า ยืนยันว่าไม่ได้ขอไป 4 รอบตามที่เป็นข่าว ไม่ใช่การยื้อเวลาพิจารณาคดี แต่เนื่องจากคณะกรรมการ จะ ปิดรอบการพิจารณาทุกสิ้นเดือน บางครั้งข้อมูลมีรายละเอียดมาก เกี่ยวข้องกับหลายบุคคล จึงต้องขอสืบพยานเพิ่ม ส่วนที่คณะ กรรมการระบุว่าสามารถส่งข้อมูลเป็นลายลักษณ์อักษรได้นั้น เราไม่ทราบว่าคณะกรรมการฯต้องการคำตอบอะไร จึงต้องเห็นคำถามก่อน จึงจะตอบในรายละเอียดได้ 

เมื่อถามว่าคดีการเรียกรับผิดทางละเมิดจะส่งผลกระทบต่อคดีอาญาหรือไม่ น.ส.ยิ่งลักษณ์กล่าวว่า ขณะนี้คดีรับผิดทางละเมิดยังไม่จบ จึงไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร แต่โดยหลักการแล้วเห็นว่าควรให้การพิจารณาคดีอาญาเสร็จสิ้นก่อน จึงจะพิจารณาการเรียกรับผิดทางแพ่ง หวังว่าจะได้รับความเป็นธรรมเยี่ยงประชาชนคนหนึ่งที่ควรได้รับ ส่วนจะขออนุญาตเดินทางออกนอกประเทศอีกหรือไม่นั้น แล้วแต่โอกาส ยืนยันว่าไม่ใช่การหนีคดี เพราะมีภารกิจต้องมาเบิกความต่อศาลตลอดทั้งปี 2559 คงต้องมาศาลทั้งปี

อนุนิติฯส่งปัญหาอื้อ-ในร่างรธน.

ผู้สื่อข่าวรายงานจากรัฐสภาว่า สื่อมวลชนประจำรัฐสภา จัดงานเลี้ยงสังสรรค์เนื่องในโอกาสวันขึ้นปีใหม่ พ.ศ. 2559 โดยมีนายมีชัย ฤชุพันธุ์ ประธานคณะกรรมการร่างรัฐธรรม นูญ(กรธ.) นายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานสภานิติบัญญัติแห่งชาติ(สนช.) นายอลงกรณ์ พลบุตร รองประธานสภาขับเคลื่อนการปฏิรูปประเทศ(สปท.) พล.อ.เลิศรัตน์ รัตนวานิช สมาชิกสปท. นายคำนูณ สิทธิสมาน โฆษกสปท. มาร่วมงาน พร้อมกันนี้ยังนำอาหารมาร่วมงานด้วย อาทิ นายมีชัยนำก๋วยจั๊บร้านอร่อยจากย่านเยาวราช นายพรเพชรได้นำขนมหวาน ส่วนร.อ.ทินพันธุ์ นาคะตะ ประธานสปท. นายเสรี สุวรรณภานนท์ สมาชิกสปท. ส่งผลไม้และขนมมาร่วมงานด้วย

นายชาติชาย ณ เชียงใหม่ โฆษกกรธ. แถลงหลังการประชุมกรธ.ว่า อนุกรรมการศึกษาโครงสร้างฝ่ายนิติบัญญัติ นำเสนอเนื้อหาบางส่วนที่ยังไม่ได้ข้อยุติมาหารือ เตือนให้ต้องมีการกำหนดไว้ในร่างรัฐธรรมนูญ เช่น หากผู้ชนะได้รับเลือกเป็นส.ส.แบบแบ่งเขตแพ้คะแนนโหวตโน แล้วต้องจัดการเลือกตั้งใหม่ จะทำอย่างไรกับการประกาศรับรองส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ เนื่องจากใช้บัตรเลือกตั้งใบเดียว ทั้งยังตั้งคำถามว่าการเลือกตั้งล่วงหน้าควรมีหรือไม่ เพราะกระบวนการหละหลวม เจ้าหน้าที่ควบคุมมีน้อย เอื้อต่อการทุจริต สิ้นเปลืองงบประมาณ และจากการกำหนดให้การเลือกตั้งเป็นหน้าที่ก็ทำให้ประชาชนที่เป็นลูกจ้างนอกภูมิลำเนามีเหตุอันควรลางานล่วงหน้าเพื่อไปเลือกตั้งได้อยู่แล้ว

กรธ.เผยตอนนี้มี 250 มาตรา

นายชาติชายกล่าวว่า ด้านอนุกรรมการประชาสัมพันธ์และสำรวจความความคิดเห็นของประชาชน ได้นำเสนอแนวทางทำความเข้าใจเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญแก่ประชาชน โดยแบ่งช่วงตามกรอบเวลา 3 ช่วงคือ 1.ตั้งแต่ตอนนี้จนถึงกำหนดร่างรัฐธรรมนูญร่างแรกจะแล้วเสร็จ ในวันที่ 29 ม.ค. 2.ระหว่างเดือนก.พ.-มี.ค.ก็จะทำความเข้าใจถึงเหตุผลของร่างรัฐธรรมนูญ โดยเฉพาะในส่วนที่เป็นของใหม่ และเปิดรับฟังความคิดเห็นข้อเสนอแนะก่อนการจัดทำร่างสุดท้าย 3.ตั้งแต่เดือนเม.ย.จนถึงวันทำประชามติ อนุกรรมการยังได้เสนอสโลแกนเบื้องต้นที่จะทำให้ประชาชนเข้าใจร่างรัฐธรรมนูญได้ง่ายกว่าการไปนั่งอ่านภาษากฎหมายให้ปวดหัว คือ ?รัฐธรรมนูญใหม่ การเมืองใหม่? และ ?ปลอดการทุจริต ต่อชีวิตให้บ้านเมือง"

เมื่อถามถึงแนวทางการประชุมกรธ. ที่อ.ชะอำ จ.เพชรบุรี ระหว่างวันที่ 11-17 ม.ค. นายชาติชายกล่าวว่า ที่ประชุมกรธ.จะพิจารณาเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญ แล้วจะนำเสนอเนื้อเป็นรายมาตราให้ผู้สื่อข่าวนำไปเผยแพร่แบบวันต่อวัน คาดว่าวันที่ 17 ม.ค.น่าจะพิจารณาร่างแรกเสร็จ พร้อมกับเขียนกำกับให้เห็นด้วยว่าเนื้อหาส่วนใดบ้างที่เป็นไปตามหลักการ 5 ข้อของคสช. และกรอบการร่างตามมาตรา 35 ของรัฐธรรมนูญชั่วคราว พ.ศ. 2557 เพื่อป้องกันมือดีไปร้อง 

นายชาติชายกล่าวว่า เบื้องต้นเนื้อหาตอนนี้มีประมาณ 250 มาตรา กรธ.หลายคนก็ตั้งใจอยากให้เนื้อหามีความกระชับมากกว่านี้ หากปรับลดได้ก็อยากทำ แต่เราก็จะไม่สละความชัดเจนของเนื้อหาจนต้องนำรายละเอียดไปใส่ไว้ในกฎหมายลูกทั้งหมด เพราะอาจทำให้เกิดปัญหาว่าผู้ที่รับผิดชอบออกกฎหมายลูก ตีความเนื้อหาร่างรัฐธรรมนูญแล้วเขียนกฎหมายลูกไม่ตรงตามเจตนารมณ์ของกรธ.

สมชัยฟุ้งใช้ไอทีช่วยผู้ใช้สิทธิ

ที่สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) นายสมชัย ศรีสุทธิยากร กกต.ด้านกิจการบริหารงานเลือกตั้ง แถลงมายด์แม็ปการทำประชามติร่างรัฐธรรมนูญว่า กกต.ยึดแนวทาง 3 ป. คือ ป.ที่หนึ่ง ประชาชนสะดวก วันลงประชามติวันที่ 31 ก.ค. 2559 จะขยายเวลาจากเดิม 08.00-15.00 น. เป็น 08.00- 18.00 น. เพื่อให้ประชาชนมีเวลาใช้สิทธิมากกว่าเดิม อีกทั้งมีแอพพลิเคชั่นดาวเหนือ ให้กรอกหมายเลขบัตรประชาชน 13 หลัก แอพฯ จะระบุว่าให้ไปใช้สิทธิที่หน่วยใด โดยจะเปิดตัววันที่ 21 ม.ค. ในบางหน่วยจะใช้การ์ดรีดเดอร์อ่านบัตรประชาชนที่เป็นสมาร์ตการ์ด เมื่อเสียบบัตรแสดงตัวก็ไม่ต้องลงชื่ออีก เพราะระบบจะไปตัดในบัญชีออนไลน์ว่ามาใช้สิทธิแล้ว และสามารถลงทะเบียนขอใช้สิทธินอกเขตจังหวัดผ่านอินเตอร์เน็ต ระบุไปใช้สิทธิหน่วยใด ต้องลงทะเบียนก่อนลงประชามติภายใน 30 วัน เพราะการลงประชามติจะลงพร้อมกันวันเดียวกันทั่วประเทศ 

นายสมชัยกล่าวว่า ป.ที่สอง ประชามติเที่ยงธรรม การลงประชามติต้องเปิดให้ผู้เห็นด้วยและไม่เห็นด้วยได้แสดงความเห็นอย่างเท่าเทียม มีการจัดสรรเวลาเท่าเทียมกัน ป.ที่สาม ประชาธิปไตยคุณภาพ ต้องเผยพร่รัฐธรรมนูญและบทสรุป ส่งถึงมือครัวเรือนขั้นต่ำร้อยละ 80 หรือ 16.7 ล้านฉบับ ส่วนการรายงานผลนับคะแนน จะให้รับคะแนนที่หน่วยเลือกตั้งแล้วส่งมายังส่วนกลาง โดยใช้แอพฯ อีกตัวหนึ่งที่ใช้ส่งคะแนนซึ่งเป็นความลับ ป้องกันไม่ให้ผู้ไม่หวังดีมาสร้างความวุ่นว่าย คาดว่าจะรายงานอย่างไม่เป็นทางการ ไม่เกิน 3 ชั่วโมง หรือเวลา 21.00 น. หลังปิดการลงคะแนน

อดีตกมธ.โต้วุ่นร่วมล้ม"สสส."

พล.อ.นคร สุขประเสริฐ สมาชิก สปท. ในฐานะอดีตคณะกรรมาธิการ (กมธ.) ยกร่างรัฐธรรมนูญ กล่าวถึง นพ.วิชัย โชควิวัฒน ระบุการปลด 7 ผู้ทรงคุณวุฒิของ สสส. เป็น กระบวนการต่อเนื่องโดยกลางปี 2558 ช่วงท้ายการเขียนร่างรัฐธรรมนูญ มีบริษัทบุหรี่เข้า ไปเกี่ยวข้องกับคณะร่างรัฐธรรมนูญ ร่วมเดินทางไปประเทศเมียนมา และมีข่าวรั่วเรื่องกำหนดไม่ให้ส่งเงินภาษีร้อยละ 2 มาที่ สสส.โดยตรงเพื่อให้หมดสภาพการทำงาน แต่มีการต่อรองต่อสู้ กระทั่งให้มีบทเฉพาะกาล ให้ สสส.อยู่ได้ 3 ปี จนเกิดการต่อต้าน สู้กันจนไม่มีการใส่เรื่องดังกล่าวไว้ในรัฐธรรมนูญ ว่า การไปเมียนมานั้น ตนไม่ได้ไปด้วยแต่รู้มาว่าใช้เงินส่วนตัวเดินทางกันเอง นายคำนูณ สิทธิสมาน สมาชิกสปท. อดีตกมธ.ยกร่างฯ พาครอบครัวไปด้วยก็ใช้เงินส่วนตัวหลายหมื่นบาท และยืนยันไม่มีการรับเงินจากบริษัทที่เกี่ยวข้อง การพูดนั้นจึงไม่มีข้อมูล และเหตุผล ที่กมธ.ยกร่างฯ ไม่ได้ใส่เรื่องลงไปในร่างรัฐ ธรรมนูญเนื่องจากมีกระแสต่อต้านอย่างหนักมาก ไม่เกี่ยวข้องกับการรับผลประโยชน์ใดๆ

ด้านนายไพบูลย์ นิติตะวัน อดีตกมธ.ยกร่างฯ กล่าวว่า ตนไปเมียนมาด้วย ยืนยันเราไปอย่างโปร่งใส ตรวจสอบได้ ใช้เงินส่วนตัวกว่า 40,000 บาทต่อคน ซึ่งเป็นการจ่ายเงินค่อนข้างสูงเพราะเราไปกันส่วนตัว ไม่มีใครช่วย ไปกับบริษัทสวัสดี ฮอลิเดย์ จำกัด แต่เข้าใจว่าที่เป็นข่าวนั้นนำมาผูกกัน เนื่องจากมีบุคคลที่ไปกับเราเป็นตัวแทนจากสถาบันพระปกเกล้า เขาเป็นคนหนึ่งในคณะอนุกรรมการและทำงานที่โรงงานยาสูบ คนอาจเข้าใจผิดเรื่องนี้ ยืนยันอีกครั้งไม่เกี่ยวกัน ทุกคนไปเงินส่วนตัว เราไปอย่างบริสุทธิ์ใจ ไปทำบุญกัน ดังนั้นข้อมูลทั้งหมดเปิดเผยได้ ตรวจสอบได้หมด

หมอวิชัยย้ำทำเป็นกระบวนการ

วันเดียวกัน นพ.วิชัย โชควิวัฒน อดีตกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และรองประธานคนที่ 2 สสส. กล่าวถึงกรณี นพ.ปิยะสกล ย้ำว่าไม่มีกลุ่มใดมาจ้องล้ม สสส. และยืนยัน สสส. ยังคงดำเนินการต่อไป ว่า ก็ต้องพูดเช่นนั้นอยู่แล้ว เพราะกระบวนการจ้องล้ม สสส.นั้น ไม่ได้ทำอย่างเปิดเผย เห็นชัดจากกรณีการจัดทำร่างรัฐธรรมนูญเมื่อกลางปีก่อน มีการปิดห้องจัดทำร่าง ทำกันอย่างลับๆ โดยไปเขียนในมาตราหนึ่งว่า ไม่ให้ส่งเงินภาษีมาที่ สสส. โดยตรง เรื่องนี้มีข่าวชัดเจน ไปสืบค้นได้ อันนี้หลักฐานชัดอยู่ในตัวร่างรัฐธรรมนูญ 

?ส่วนจะให้หาหลักฐานให้นั้น ต้องถามกลับว่า ประชาชนไม่ได้มีกลไกในการสืบหาข้อมูลข้อเท็จจริงเชิงลึกมากมายขนาดนั้น จะไปสืบหาอย่างไร ประชาชนเป็นเหมือนผู้แจ้งเบาะแส แต่รัฐบาล ผู้มีอำนาจมีกลไกในการสืบค้น ก็ควรต้องทำหน้าที่นี้หรือไม่ ไม่เช่นนั้นจะมีคณะกรรมการติดตามและตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ (คตร.) และคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) เพื่ออะไรกัน และการแจ้งเบาะแสครั้งนี้ก็ไม่ใช่เลื่อนลอย เพราะเรื่องร่างรัฐธรรมนูญนั้นปรากฏเป็นข่าวชัดเจน ลองไปค้นดูกันได้? นพ.วิชัยกล่าว

จับตาส่งปฏิปักษ์สสส.-นั่งบอร์ด

นายคำรณ ชูเดชา เครือข่ายเฝ้าระวังธุรกิจแอลกอฮอล์ หนึ่งในเครือข่ายขบวนการสร้างเสริมสุขภาพภาคประชาชน กล่าวถึงการเคลื่อนไหวของภาคประชาชนว่า วันที่ 11 ม.ค.นี้ นัดหารือตัวแทนจากทุกเครือข่ายเพื่อกำหนดแนวทางและประเมินสถานการณ์ เพราะล่าสุด คตร. ยังแจ้งว่ากระบวนการตรวจสอบเสร็จสิ้นแล้ว สามารถเบิกจ่ายงบประมาณได้เหมือนเดิม ซึ่งการผ่อนคลายมาตรการดังกล่าวทำให้สถานการณ์คลี่คลายในแนวทางที่ดีขึ้น แต่ยังต้องจับตาประเด็นสรรหาบอร์ด สสส. และผู้จัดการสสส. ซึ่งจะมีการสรุปแนวทางดำเนินการต่อไป 

?ต้องจับตาดูเพื่อไม่ให้คนที่เป็นนอมินีของธุรกิจที่เสียประโยชน์จากการทำงานของ สสส. หรือที่มีแนวคิดเป็นปฏิปักษ์ต่อสสส. เข้ามาอยู่ในบอร์ด ต้องขอบคุณนายกฯ ที่ยังให้ สสส. ได้ดำเนินการสรรหาด้วยวิธีปกติ ซึ่งภาคีผู้รับทุนมีสิทธิเลือกบุคคลให้กรรมการสรรหาเป็นผู้สรรหาอีกครั้ง ส่วนผู้จัดการ สสส.นั้นควรเป็นคนที่เข้าใจการทำงานของภาคประชาสังคม เพราะสสส.ทำหน้าที่เหมือนฝ่ายเลขานุการ ส่วนภาคีเป็นคนออกไปทำงาน คนที่มาทำงานจึงต้องเข้าใจบทบาทการทำงาน ให้เกียรติกัน มองกันด้วยความเข้าใจ ไม่ใช่แค่นายจ้างลูกจ้าง? นายคำรณกล่าว 

นายคำรณกล่าวว่า สำหรับประเด็นที่ จะหารือกัน คือ การตีความของกรมสรรพากร ที่ตีความว่าองค์กรเอกชนที่ไปขอรับเงินสนับสนุนจาก สสส. จะต้องถูกประเมินภาษีด้วย ซึ่งต้องมีการแก้ไขต่อไป เพราะองค์กรภาคเอกชนที่รับทุนจาก สสส.ไม่ได้ทำเพื่อหากำไร แต่ทำงานแทน สสส. งบประมาณและผลงานทั้งหมดก็เป็นของ สสส. ต้องทำงานตามงบฯ ทั้งหมดและหากมีงบฯ เหลือก็ต้องส่งคืน สสส. ใบเสร็จทุกใบต้องแสดงต่อ สสส. 

เยาวชนจี้รบ.เลิกแช่แข็งสสส.

ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีเครือข่ายเยาวชน 5 เครือข่าย ได้แก่ เครือข่ายป้องกันนักดื่มหน้าใหม่ เครือข่ายเด็กรุ่นใหม่ไม่พนัน เครือข่ายบางกอกนี้ดีจัง เครือข่ายเยาวชนสร้างสรรค์รู้ทันแอลกอ ฮอล์ เครือข่ายเด็กเปลี่ยนโลก นำโดยนาย ธีรภัทร์ คหะวงศ์ ผู้ประสานงานเครือข่ายฯ ยื่นจดหมายเปิดผนึกถึง พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้าคสช. ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ไขปัญหาการชะลอโครงการที่รับทุนสนับสนุนของสำนักงานกองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ(สสส.) ซึ่งดำเนินการโดยคณะกรรมการตรวจสอบการใช้จ่ายเงินภาครัฐ (คตร.) กระทบการทำงานของเด็กและเยาวชน และองค์กรภาคประชาชนอย่างมาก

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เครือข่าวเยาวชนใช้เวลาทำกิจกรรมนาน 10 นาที เป็นกิจรรมเชิงสัญลักษณ์ โดยนำถังน้ำแข็งขนาดใหญ่ใส่ น้ำแข็งเต็มถัง และนำตุ๊กตาโนบิตะและชิซูกะ จากการ์ตูนเรื่องโดราเอม่อน วางด้านหน้าถังเพื่อเป็นตัวแทนของเด็กและเยาวชน ขณะที่ในถังน้ำแข็งมีชิ้นส่วนของหุ่นเฉพาะส่วนแขน พร้อมป้ายรายชื่อโครงการต่างๆ นำมาแช่แข็งในถัง ขณะที่กลุ่มเยาวชนก็ถูกมัดแขนมัดขาตัวเอง เพื่อสะท้อนปัญหาที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ว่า กำลังแช่แข็งโครงการและการทำกิจกรรมดีๆ ของเยาวชน นอกจากนี้ยังมีการชูป้ายข้อความ อาทิ นายกฯ ช่วยที อย่าปล่อยภาคประชาชนหมดแรง อย่าดองโครงการเยาวชนอยากทำกิจกรรมสร้างสรรค์ วอน คตร. หยุดแช่แข็งโครงการประชาชน

ชี้กระทบ 2,400 โครงการ

นายธีรภัทร์กล่าวว่า ข้อมูลในปี"58 มีโครงการต่างๆ ที่ขอสนับสนุนงบประมาณจาก สสส. มากถึง 2,400 โครงการ และมีโครงการด้านเด็ก เยาวชนจำนวนมากรวมอยู่ ซึ่งได้รับผลกระทบ กิจกรรมไม่สามารถดำเนินการต่อได้ บางโครงการแก้ปัญหาด้วยการกู้ยืมเงินมาเพื่อจัดกิจกรรมให้บรรลุเป้าหมายไปก่อน ทำให้เกิดภาระหนี้สิน บางมูลนิธิต้อง ลดจำนวนบุคลากร หรือเริ่มถอดใจเตรียม ปิดตัวยุติบทบาท 

นายธีภัทร์กล่าวด้วยว่า จากผลกระทบที่เกิดขึ้น เครือข่ายฯ ขอแสดงจุดยืนและข้อเสนอถึงนายกฯ ดังนี้ 1.เครือข่ายฯ เห็นด้วยกับการตรวจสอบความโปร่งใสของ สสส. และทุกหน่วยงานโดยไม่เลือกปฏิบัติ ขอให้กระบวนการตรวจสอบเป็นไปตามหลัก ธรรมาภิบาล เท่าเทียมและปราศจากอคติ 

2.ขอให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาความเดือดร้อนจากการชะลอหรือยุติโครงการ ภายใต้การสนับสนุนของ สสส. ที่เป็นผลกระทบจากการตรวจสอบของหน่วยงานต่างๆ เพราะช่วง 3 เดือนที่ผ่านมา ได้ส่งผลกระทบอย่างรุนแรง หลายองค์กรต้องหยุดกิจกรรมอย่างน่าเสียดายและมีบางแห่งเตรียมปิดตัวและยุติบทบาทไปบ้างแล้ว ขอให้รัฐบาลเร่งหาแนวทางช่วยเหลือเยียวยาองค์กรรับทุนต่างๆ ในการลดภาระที่เกิดขึ้นแล้วด้วย ทั้งนี้ เพื่อสร้างขวัญและกำลังใจกับคนทำงานที่อุทิศตนทำงานเพื่อสังคม ร่วมกันสร้างสังคมแห่งสุขภาวะ สังคมที่เข้มแข็ง รับมือกับสถานการณ์ปัญหาทางสังคมที่รุมเร้ารอบด้าน 3.หวังว่ารัฐบาลจะเข้าใจและเร่งแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นโดยเร็ว เพื่อเป็นของขวัญวันเด็กและเป็นของขวัญปีใหม่สำหรับกลุ่มคนที่มีจิตใจอาสาทำงานเพื่อส่วนรวม 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!