WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

Pประยทธ จนทรโอชา4นายกฯ ยัน 4 คำถามเพื่อสร้างการรับรู้ให้ประชาชนไม่ได้คาดหวังคำตอบ/มท.1 เล็งเพิ่มช่องทาง

      พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) กล่าวก่อนการประชุมคณะรัฐมนตรีถึงกระแสการตอบรับของประชาชนในการตอบคำถาม 4 ข้อของนายกรัฐมนตรีว่า ไม่ได้คาดหวังจะให้มีการตอบคำถามเป็นเรื่องราว เพียงแต่ต้องการสร้างความรับรู้ให้กับประชาชนเท่านั้น

       พร้อมย้ำว่าวันนี้ประเทศมีปัญหาเรื่องการสร้างความเข้าใจ ทำให้ขับเคลื่อนไปไม่ได้ และปัญหาอย่างหนึ่งคือการใช้โชเชียลมีเดียที่คนส่วนใหญ่นิยม แต่บางครั้งใช้โดยไม่มีหลักคิดที่ถูกต้อง และเมื่อมีบุคคลอื่นติดตามก็ทำให้เกิดปัญหา ซึ่งทุกคนต้องรู้ทั้งสิทธิของตนเองไม่ละเมิดสิทธิผู้อื่น

     อนึ่ง ภาพรวมของการเปิดรับความเห็น 4 คำถามของนายกฯ เมื่อวานนี้ (12 มิ.ย.) เป็นวันแรก ที่ศูนย์บริการประชาชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี มีประชาชนทยอยเข้าแสดงความคิดเห็นเพียง 14 คน ขณะที่ในต่างจังหวัดบรรยากาศไม่ค่อยคึกคัก โดยขณะนี้ยังไม่มีการกำหนดวันปิดรับความเห็น แต่ทางกระทรวงมหาดไทยจะมีการสรุปผล และรายงานทุก 10 วันทำการ โดยจะรายงานผลครั้งแรกในวันที่ 23 มิ.ย.นี้

       พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รมว.มหาดไทย กล่าวถึงภาพรวมการรับฟังความคิดเห็น 4 คำถามของนายกรัฐมนตรีว่า ยังไม่มีรายงานเรื่องปัญหาเข้ามา ภาพรวมยังเป็นไปด้วยความเรียบร้อย แต่อาจจะต้องมีการเพิ่มช่องทางการตอบคำถาม เช่น การเปิดรับฟังความคิดเห็นในศูนย์การค้า ซึ่งจะต้องพิจารณาถึงความเหมาะสมและเป็นไปได้ต่อไป เพราะมีความเกี่ยวโยงกับเรื่องงบประมาณด้วย แต่หากได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนในการใช้สถานที่คงทำได้

       ส่วนช่องทางทางอิเล็กทรอนิกส์ พล.อ.อนุพงษ์ ยอมรับว่า น่าจะเป็นไปได้ แต่ต้องสามารถยืนยันตัวตนด้วยบัตรประชาชนได้ เพราะถ้ามีการสวมสิทธิจะทำให้ผลการรับฟังความคิดเห็นผิดเพี้ยนไปได้ ทั้งนี้ กระทรวงมหาดไทยได้มีการประชาสัมพันธ์ผ่านทางจังหวัดต่างๆไปแล้ว แต่อยากให้สื่อมวลชนช่วยด้วย เพราะความตั้งใจของนายกฯคือการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน

       สำหรับ ผู้เขียนหนังสือไม่ได้นั้น เป็นรายละเอียดปลีกย่อย คงไม่ต้องมีการออกระเบียบใหม่ ซึ่งหากอยากแสดงความคิดเจ้าหน้าที่คงหาวิธี ได้ แต่ก็อาจมีข้อกังวลกรณีให้เจ้าหน้าที่เขียนแทนได้

นายกฯสั่งทุกหน่วยงานรัฐ-รัฐวิสาหกิจ เร่งใช้หนี้ค้างจ่ายสาธารณูปโภค พร้อมสั่งปรับแผนปีงบ 60 ให้สอดคล้องค่าใช้จ่าย

       นายกฯ สั่งทุกหน่วยงานรัฐ-รัฐวิสาหกิจ เร่งใช้หนี้ค้างจ่ายสาธารณูปโภค พร้อมสั่งปรับแผนปีงบ 60 เพื่อบริหารเงินให้สอดคล้องค่าใช้จ่ายตามปีงบนั้นๆ ห้ามนำงบประมาณค่าสาธารณูปโภคที่ได้รับไปใช้จ่ายอย่างอื่นเด็ดขาด

     พลโทสรรเสริญ แก้วกำเนิด โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี หรือ ครม. ในวันนี้ว่า ครม.มีมติเห็นชอบแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินค้างจ่ายสาธารณูปโภคที่หน่วยงานของรัฐ และรัฐวิสาหกิจค้างชำระ เช่น ค่าน้ำประปา ค่าไฟฟ้า ค่าโทรศัพท์ เป็นต้น

     โดยทางพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ยังได้สั่งการให้ เพิ่มแนวทางในการแก้ไขกำหนดให้ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2560 ของส่วนราชการ รัฐวิสาหกิจ และหน่วยงานอื่นๆ มาชำระหนี้ค่าธารณูปโภคค้างชำระได้ 

     นอกจากนี้ ยังให้หน่วยงานราชการ รัฐวิสาหกิจ นำเงินนอกงบประมาณ เช่น เงินรายได้หรือเงินที่ได้รับไว้เพื่อเป็นสวัสดิการหน่วยงาน มาชำระหนี้สาธารณูปโภคไม่น้อยกว่า 25% ของค่าสาธารณูปโภคปีนั้นๆ ให้แล้วเสร็จภายใน 30 วัน และตั้งแต่ปีงบประมาณ 2560 เป็นต้นไป ให้ทุกหน่วยงานชำระค่าสาธารณูปโภคให้แล้วเสร็จภายในปีงบประมาณนั้นๆ 

      ทั้งนี้ ตั้งแต่ปีงบประมาณ 2560 เป็นต้นไป ห้ามทุกหน่วยงานนำงบประมาณค่าสาธารณูปโภคที่ได้รับไปใช้จ่ายอย่างอื่นเด็ดขาด และหากงบประมาณที่ตั้งไว้สำหรับการเบิกจ่ายสาธารณูปโภคไม่เพียงพอชำระ และมีงบประมาณเหลือจ่ายหรือมีงบประมาณในส่วนใดเพียงพอให้นำมาพิจารณาเพื่อโอนเปลี่ยนแปลงไปชำระค่าสาธารณูปโภคเป็นลำดับแรกก่อน  

    นอกจากนี้ ที่ประชุม ครม.ยังรับทราบการร้องขอความเป็นธรรมจากศูนย์ดำรงธรรม ในกรณีที่พี่น้องประชาชนอยากให้รัฐบาลแก้หนี้นอกระบบ ซึ่งในที่ประชุม นายอภิศักดิ์ ตันติวรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังได้รายงานว่า การแก้ไขปัญหาหนี้นอกระบบ ดำเนินการแล้ว แต่ประชาชนบางพื้นที่ โดยเฉพาะต่างจังหวัดยังไม่ทราบ สะท้อนว่า การประชาสัมพันธ์ยังไม่ทั่วถึง โดยการแก้ไขปัญหาจะประกอบด้วยคณะอนุกรรมการไกล่เกลี่ยและประนอมหนี้ และคณะอนุกรรมการฟื้นฟูในการหารายได้ของลูกหนี้

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!