WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

วิษณุแจงทูต-สื่อนอก มาตรา 44 ไม่ใหม่ ใช้มาแล้วตั้งแต่ยุคสฤษดิ์-ถนอม

เข้าร่วมบรรยายเนื้อหาและรายละเอียดเกี่ยวกับคำสั่งหัวหน้า คสช. ฉบับที่ 3/2558 เรื่อง การรักษาความสงบเรียบร้อยและความมั่นคงของชาติ ให้คณะทูตานุทูตประจำประเทศไทย สื่อมวลชนต่างประเทศ และองค์การระหว่างประเทศได้รับทราบ
 
     นายวิษณุกล่าวว่า ในช่วง 50 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยประสบกับสถานการณ์ไม่ปกติ จึงจำเป็นต้องใช้กฎหมายพิเศษเข้ามาควบคุมและดูแลสถานการณ์ให้เป็นไปด้วยความสงบเรียบร้อย ก่อนที่ประเทศจะเข้าสู่ช่วงเปลี่ยนผ่าน ในการปฎิรูปประเทศอย่างยั่งยืนต่อไป
 
 ในปัจจุบันการใช้มาตรา 44 เป็นเพียงการนำกฎหมายมาใช้แก้ปัญหาในกรณีฉุกเฉิน และสามารถใช้ได้ในระยะยาว โดยรัฐบาลจะใช้มาตรา 44 ในการแก้ไขปัญหาด้วยความระมัดระวังและใช้เท่าที่จำเป็นโดยคำนึงถึงหลักสิทธิมนุษยชน 
 
     มาตรา 44 ไม่ได้เป็นเรื่องใหม่ ซึ่งเคยใช้มาแล้ว 6 ครั้ง ในสมัยรัฐบาลจอมพลสฤษดิ์ ธนะรัชต์ จอมพลถนอม กิตติขจร นายสัญญา ธรรมศักดิ์ นายธานินทร์ กรัยวิเชียร พล.อ.เกรียงศักดิ์ ชมะนันท์ และนายอานันท์ ปันยารชุน อดีตนายกรัฐมนตรี
  
     ด้านพ.อ.วินธัย สุวารี โฆษกคสช. กล่าวว่า เนื่องจากเกิดความขัดแย้งในสังคมอย่างกว้างขวาง เกิดการปลุกระดม ให้เกิดความขัดแย้ง เจ้าหน้าที่จึงต้องใช้กฎหมายในการดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งที่ผ่านมาได้ใช้ด้วยความระมัดระวัง และใช้เท่าที่จำเป็น และมีการปฏิบัติตามหลักสากล คำนึงถึงหลักสิทธมนุษยชน
 
    ทั้งนี้ ในปัจจุบันได้ยกเลิกกฎอัยการศึกแล้ว และได้อาศัยมาตรา 44 ในการให้อำนาจเจ้าหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย และปราบปรามการกระทำผิดใน 4 เรื่อง คือ 1.ต่อสถาบันพระมหากษัตริย์ 2.ความมั่นคงตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 113-118 3.ความผิดว่าด้วยอาวุธสงคราม และ 4.ความผิดต่อการฝ่าฝืนคำสั่งประกาศคสช. 
 
    อย่างไรก็ตามหากทั้ง 4 เรื่องนี้ไม่ได้รับการแก้ไขจะเป็นตัวบั่นทอนการพัฒนาประเทศและขัดขวางความปรองดองของคนในชาติ ด้วยเหตุนี้จึงมีความจำเป็นต้องขอความร่วมมือในการนำเสนอข่าวสาร และการงดการชุมนุมทางการเมือง
 
    ทั้งนี้ รัฐบาลและคสช.มีช่องทางในการเสนอความคิดเห็นทางการเมืองอยู่แล้ว และขอยืนว่าทั้งการใช้กฎอัยการศึก หรือคำสั่งหัวหน้าคสช. ฉบับที่ 3/2558 เรื่อง การใช้มาตรา 44 เป็นเพียงเครื่องมือเสริมพิเศษในการดูแลชีวิตและทรัพย์สิน ของประชาชนเท่านั้น โดยประชาชนทั่วไปจะไม่ได้รับผลกระทบ และสามารถใช้ชีวิตได้ตามปกติ แต่จะมีผลกับคนที่ประสงค์ร้ายและจงใจก่อเหตุความไม่สงบในประเทศไทยเท่านั้น

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!