- Details
- Hits: 1489
ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กร & หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน ‘บ.ภัทรลิสซิ่ง’ ที่ ‘BBB+’แนวโน้ม ‘Stable’
ทริสเรทติ้ง คงอันดับเครดิตองค์กรและหุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกันของ บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) ที่ระดับ ‘BBB+’ ด้วยแนวโน้มอันดับเครดิต ‘Stable’ หรือ’คงที่’ โดยอันดับเครดิตสะท้อนถึงสถานะผู้นำตลาดของบริษัทในธุรกิจให้เช่ารถยนต์และพอร์ตสินทรัพย์ให้เช่าที่มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
นอกจากนี้ อันดับเครดิตยังสะท้อนถึงกระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้ของบริษัทที่ปรับตัวดีขึ้น ตลอดจนภาระหนี้ที่อยู่ในระดับปานกลางและสภาพคล่องที่เพียงพอด้วยเช่นกัน
ประเด็นสำคัญที่กำหนดอันดับเครดิต
มีสถานะเป็นผู้นำตลาดในธุรกิจให้เช่ารถยนต์
ทริสเรทติ้ง คาดว่า บริษัทจะรักษาสถานะผู้นำตลาดในธุรกิจให้เช่ารถยนต์ได้ต่อไปในช่วงเวลา 3 ปีข้างหน้าโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากขนาดธุรกิจของบริษัทที่ค่อนข้างใหญ่และความสัมพันธ์ที่ยาวนานกับลูกค้ารายใหญ่ต่าง ๆ ทั้งนี้ บริษัทเป็นผู้ให้บริการเช่าดำเนินงานที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 ในประเทศไทย ซึ่งอ้างอิงจากฐานข้อมูลของทริสเรทติ้ง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565
โดยสินทรัพย์ให้เช่ารวมของบริษัทอยู่ที่ระดับ 9.6 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.4% จากสิ้นปี 2564 ทริสเรทติ้งคาดการณ์ว่าสินทรัพย์ให้เช่ารวมของบริษัทจะค่อย ๆ ปรับตัวเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 9.7-10.3 พันล้านบาทในระหว่างปี 2565-2567 โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากการฟื้นตัวของธุรกิจให้เช่ารถยนต์ของบริษัทและการขยายตลาดไปยังกลุ่มสินทรัพย์ให้เช่าที่ไม่ใช่รถยนต์
จุดแข็งของบริษัทในด้านขนาดของธุรกิจส่วนหนึ่งถูกลดทอนด้วยความเสี่ยงจากการกระจุกตัวของลูกค้าที่อยู่ในระดับสูงเนื่องจากฐานลูกค้าส่วนใหญ่ของบริษัทนั้นประกอบด้วยบริษัทขนาดใหญ่ที่ใช้บริการให้เช่ารถยนต์ อย่างไรก็ตาม ความเสี่ยงดังกล่าวก็ถูกลดทอนลงด้วยคุณภาพเครดิตที่ดีของลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่และการมีผลิตภัณฑ์และกลุ่มลูกค้าที่หลากหลาย ทั้งนี้ ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 ลูกค้า 20 อันดับแรกของบริษัทมีสัดส่วนคิดเป็นประมาณ 46% ของสินทรัพย์ให้เช่ารวมของบริษัท
ผลิตภัณฑ์มีความหลากหลายมากยิ่งขึ้น
ทริสเรทติ้ง มองว่า ความพยายามอย่างต่อเนื่องของบริษัทในการสร้างความหลากหลายของสินทรัพย์ให้เช่าไปสู่ผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่รถยนต์ในขณะที่ยังคงรักษาความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่สามารถจัดการได้นั้นถือว่าเป็นพัฒนาการในเชิงบวกซึ่งน่าจะยังคงดำเนินต่อไปในระยะปานกลาง กลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ไม่ใช่รถยนต์ของบริษัท ได้แก่ เรือ เครื่องจักรอุตสาหกรรมหนัก และสินทรัพย์ให้เช่าเฉพาะทางอื่นๆ
ทั้งนี้ บริษัทให้บริการเช่าสินทรัพย์ที่ไม่ใช่รถยนต์ภายใต้สัญญาเช่าเงินทุนเป็นหลักเพื่อลดความเสี่ยงจากมูลค่าสินทรัพย์ที่ลดลงและเพื่อเพิ่มผลตอบแทนโดยรวม
ในระยะ 3 ปีข้างหน้าทริสเรทติ้งคาดว่าสัดส่วนของสัญญาเช่าเงินทุนในส่วนที่เป็นสินทรัพย์ที่ไม่ใช่รถยนต์ของบริษัทจะค่อย ๆ เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 40% ของพอร์ตสินทรัพย์ให้เช่าทั้งหมดของบริษัทจากระดับ 31.1% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 โดยสินทรัพย์ประเภทเรือ เครื่องจักรอุตสาหกรรมหนัก และสินทรัพย์ให้เช่าเฉพาะทางใหม่ ๆ จะเป็นแรงขับเคลื่อนการเติบโตหลัก
สำหรับ ธุรกิจให้เช่าดำเนินงานรถยนต์นั้น ทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะยังคงกระจายสินทรัพย์ให้เช่าไปสู่รถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมซึ่งประกอบด้วยรถยนต์ไฮบริดและรถยนต์ไฟฟ้า (Electric Vehicle) ต่อไปในระยะ 3 ปีข้างหน้าโดยคาดว่าสัดส่วนของรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมจะค่อยๆ เพิ่มขึ้นในช่วงเวลาดังกล่าวโดยได้รับแรงหนุนจากความนิยมที่เพิ่มขึ้นของรถยนต์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
ความสามารถในการทำกำไรสูงขึ้น
ความสามารถในการทำกำไรของบริษัทปรับตัวดีขึ้นจากจุดต่ำสุดในปี 2563 และมีแนวโน้มว่าจะดำเนินต่อไปในอีก 1-2 ปีข้างหน้า ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตราส่วนกำไรก่อนหักดอกเบี้ยและภาษี (Earnings Before Interest and Tax Margin – EBIT Margin) ของบริษัทจะอยู่ระหว่าง 11.5%-13.3% ในช่วงปี 2565-2567 เมื่อเทียบกับจุดต่ำสุดที่ระดับ 8.7% ในปี 2563 และระดับ 9.7% ในปี 2564
โดยจะได้รับแรงหนุนหลักจากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นจากการขายสินทรัพย์ที่หมดสัญญาซึ่งได้รับอานิสงส์จากราคารถยนต์มือสองที่ปรับตัวดีขึ้นและกลยุทธ์ของบริษัทที่เน้นการขายปลีกผ่านแพลตฟอร์ม “สบายคาร์” (SA-BUY CAR)
ในการนี้ ทริสเรทติ้งคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจากการขายสินทรัพย์ที่หมดสัญญาของบริษัทจะเพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.1% ในช่วงปี 2565-2567 จากระดับ 2.5% ในปี 2564 ทริสเรทติ้ง เชื่อว่า ราคารถยนต์มือสองน่าจะยังคงอยู่ในระดับสูงต่อไปเนื่องจากอุปสงค์ที่แข็งแกร่งและภาวะขาดแคลนเซมิคอนดักเตอร์ทั่วโลกซึ่งส่งผลกระทบต่ออุปทานรถยนต์ใหม่
นอกจากนี้ ทริสเรทติ้งยังคาดว่าบริษัทจะยังคงเพิ่มสัดส่วนการขายตรงของสินทรัพย์ที่หมดสัญญาผ่านแพลตฟอร์ม ‘สบายคาร์’ซึ่งน่าจะช่วยเพิ่มยอดขายและอัตรากำไรขั้นต้น ในขณะเดียวกันบริษัทยังมีความมุ่งมั่นที่จะลดต้นทุนการดำเนินงานผ่านการใช้ระบบดิจิทัลและลดค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษารถยนต์และค่าใช้จ่ายประกันภัยอีกด้วย
กระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้ปรับตัวดีขึ้น
กระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้ของบริษัทซึ่งวัดจากอัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีต่อดอกเบี้ยจ่ายนั้นปรับตัวดีขึ้นมาอยู่ที่ระดับ 1.8 เท่าในไตรมาสแรกของปี 2565 จากระดับ 1.2-1.5 เท่าในช่วงปี 2563-2564 โดยพัฒนาการดังกล่าวเป็นผลจากกลยุทธ์การเติบโตด้วยการคัดเลือกกลุ่มลูกค้าของบริษัทและการควบคุมต้นทุนการดำเนินงานที่ดี
ทริสเรทติ้ง คาดว่า อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีต่อดอกเบี้ยจ่ายของบริษัทจะคงอยู่ที่ระดับประมาณ 1.5-1.7 เท่าในช่วง 3 ปีข้างหน้าโดยได้รับแรงหนุนจากการที่บริษัทมุ่งเน้นไปยังสินทรัพย์ให้เช่าเฉพาะทางมากยิ่งขึ้น โดยสินทรัพย์ดังกล่าวสร้างอัตรากำไรที่สูงกว่า ในขณะเดียวกัน บริษัทก็ยังคงทำการลดต้นทุนการดำเนินงานอย่างต่อเนื่องต่อไป
ภาระหนี้อยู่ในระดับปานกลาง
ทริสเรทติ้ง คาดว่า ภาระหนี้ของบริษัทจะยังคงอยู่ในระดับปานกลางในอีก 2-3 ปีข้างหน้าด้วยอัตราส่วนหนี้สินทางการเงินต่อเงินทุนที่ระดับ 70%-71% ทั้งนี้ อัตราส่วนดังกล่าวลดลงมาอยู่ที่ระดับ 69.3% ณ สิ้นปี 2564 จากระดับก่อนเกิดการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อโคโรนาไวรัส 2019 (โรคโควิด 19) ซึ่งอยู่ที่ระดับ 75.9% ณ สิ้นปี 2562 จากผลของการหดตัวของสินทรัพย์ให้เช่าในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา ซึ่งส่งผลให้บริษัทลดปริมาณเงินกู้ยืมเงินเพื่อเป็นทุนดำเนินธุรกิจ
อย่างไรก็ตาม ด้วยการเติบโตที่แข็งแกร่งของธุรกิจให้เช่าสินทรัพย์ที่ไม่ใช่รถยนต์ของบริษัท อัตราส่วนดังกล่าวกลับคืนสู่ระดับ 70.1% ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 ทริสเรทติ้ง ยังคาดว่า อัตราส่วนหนี้สินต่อทุนของบริษัทจะยังคงอยู่ที่ระดับประมาณ 3 เท่าในระยะปานกลาง ซึ่งต่ำกว่าอย่างมีนัยสำคัญเมื่อเทียบกับเงื่อนไขทางการเงินของหุ้นกู้ที่ระดับ 7 เท่า ทั้งนี้ บริษัทมีอัตราส่วนดังกล่าวอยู่ที่ 2.5 เท่า ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 ซึ่งเป็นระดับเดียวกับ ณ สิ้นเดือนธันวาคม 2564
โครงสร้างเงินทุนที่แข็งแกร่งและสภาพคล่องที่เพียงพอ
ทริสเรทติ้ง ประเมินว่า สถานะเงินทุนของบริษัทอยู่ในระดับที่แข็งแกร่งโดยมีปัจจัยสนับสนุนจากความเสี่ยงต่ำในการบริหารจัดการสินทรัพย์และหนี้สิน ทั้งนี้ บริษัทใช้เงินกู้ยืมระยะยาวเป็นแหล่งเงินทุนหลักเพื่อให้สอดคล้องกับอายุของสัญญาเช่า
โดยเงินกู้ยืมระยะยาวของบริษัท (รวมเงินกู้ยืมระยะยาวที่ครบกำหนดชำระภายในหนึ่งปี) คิดเป็นสัดส่วน 97.8% ของเงินกู้ยืมทั้งหมด ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 โดยทริสเรทติ้งคาดว่าบริษัทจะมีสภาพคล่องเพียงพอจากการที่บริษัทมีวงเงินสินเชื่อที่ยังสามารถเบิกใช้ได้ทั้งสิ้นจำนวน 980 ล้านบาทจากสถาบันการเงินหลายแห่ง ณ สิ้นเดือนมีนาคม 2565 นอกจากนี้ ความยืดหยุ่นทางการเงินของบริษัทยังมีปัจจัยสนับสนุนจากความสามารถในการเข้าถึงแหล่งเงินทุนทั้งจากตลาดเงินและตลาดทุนเมื่อมีความจำเป็นอีกด้วย
สมมติฐานกรณีพื้นฐาน
สมมติฐานกรณีพื้นฐานของทริสเรทติ้งสำหรับการดำเนินงานของบริษัทในระหว่างปี 2565-2567 มีดังนี้
- สินทรัพย์ให้เช่ารวมจะเติบโตที่ระดับ 6%-4.1%
- อัตรากำไรขั้นต้นของธุรกิจเช่าดำเนินงานจะอยู่ที่ระดับประมาณ 12%
- อัตรากำไรขั้นต้นของการขายสินทรัพย์ที่หมดสัญญาจะอยู่ที่ระดับประมาณ 1%
- ต้นทุนทางการเงินจะอยู่ที่ระดับประมาณ 9%-3.3%
แนวโน้มอันดับเครดิต
แนวโน้มอันดับเครดิต ‘Stable’ หรือ ‘คงที่’ สะท้อนการคาดการณ์ของทริสเรทติ้ง ว่า บริษัทจะยังคงรักษาสถานะในการแข่งขัน รวมถึงศักยภาพในการสร้างรายได้ และความสามารถในการทำกำไรในธุรกิจหลักของบริษัทเอาไว้ได้เพื่อที่จะรักษาผลประกอบการทางการเงินและกระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้ให้อยู่ในระดับปัจจุบันเอาไว้
ปัจจัยที่อาจทำให้อันดับเครดิตเปลี่ยนแปลง
อันดับเครดิตของบริษัทอาจได้รับการปรับเพิ่มขึ้นหากความสามารถในการทำกำไร และกระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้ของบริษัทปรับตัวดีขึ้นโดยที่อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีต่อดอกเบี้ยจ่ายเพิ่มสูงขึ้นเกินกว่าระดับ 1.7 เท่าอย่างต่อเนื่อง
ในทางกลับกัน อันดับเครดิตและ/หรือแนวโน้มอันดับเครดิตอาจได้รับการปรับลดลงหากความสามารถในการทำกำไรหรือกระแสเงินสดเพื่อการชำระหนี้ของบริษัทปรับตัวลดลงจากระดับปัจจุบันโดยที่อัตราส่วนกำไรก่อนดอกเบี้ยจ่ายและภาษีต่อดอกเบี้ยจ่ายลดลงต่ำกว่าระดับ 1.3 เท่าอย่างต่อเนื่อง
เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตที่เกี่ยวข้อง
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตธุรกิจทั่วไป, 15 กรกฎาคม 2565
- เกณฑ์การจัดอันดับเครดิตตราสารหนี้, 15 มิถุนายน 2564
บริษัท ภัทรลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (PL)
อันดับเครดิตองค์กร: |
BBB+ |
อันดับเครดิตตราสารหนี้: |
|
PL232A: หุ้นกู้ไม่ด้อยสิทธิ ไม่มีหลักประกัน 200 ล้านบาท ไถ่ถอนปี 2566 |
BBB+ |
แนวโน้มอันดับเครดิต: |
Stable |
บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด/ www.trisrating.com
ติดต่อ santaya@trisrating.com โทร. 0-2098-3000 อาคารสีลมคอมเพล็กซ์ ชั้น 24 191 ถ. สีลม กรุงเทพฯ 10500
© บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด สงวนลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2564 ห้ามมิให้บุคคลใด ใช้ เปิดเผย ทำสำเนาเผยแพร่ แจกจ่าย หรือเก็บไว้เพื่อใช้ในภายหลังเพื่อประโยชน์ใดๆ ซึ่งรายงานหรือข้อมูลการจัดอันดับเครดิต ไม่ว่าทั้งหมดหรือเพียงบางส่วน และไม่ว่าในรูปแบบ หรือลักษณะใดๆ หรือด้วยวิธีการใดๆ โดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษรจาก บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ก่อน การจัดอันดับเครดิตนี้มิใช่คำแถลงข้อเท็จจริง หรือคำเสนอแนะให้ซื้อ ขาย หรือถือตราสารหนี้ใดๆ แต่เป็นเพียงความเห็นเกี่ยวกับความเสี่ยงหรือความน่าเชื่อถือของตราสารหนี้นั้นๆ หรือของบริษัทนั้นๆ โดยเฉพาะ ความเห็นที่ระบุในการจัดอันดับเครดิตนี้มิได้เป็นคำแนะนำเกี่ยวกับการลงทุน หรือคำแนะนำในลักษณะอื่นใด การจัดอันดับและข้อมูลที่ปรากฏในรายงานใดๆ ที่จัดทำ หรือพิมพ์เผยแพร่โดย บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดทำขึ้นโดยมิได้คำนึงถึงความต้องการด้านการเงิน พฤติการณ์ ความรู้ และวัตถุประสงค์ของผู้รับข้อมูลรายใดรายหนึ่ง ดังนั้น ผู้รับข้อมูลควรประเมินความเหมาะสมของข้อมูลดังกล่าวก่อนตัดสินใจลงทุน บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้รับข้อมูลที่ใช้สำหรับการจัดอันดับเครดิตนี้จากบริษัทและแหล่งข้อมูลอื่นๆ ที่เชื่อว่าเชื่อถือได้
ดังนั้น บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด จึงไม่รับประกันความถูกต้อง ความเพียงพอ หรือความครบถ้วนสมบูรณ์ของข้อมูลใดๆ ดังกล่าว และจะไม่รับผิดชอบต่อความสูญเสีย หรือความเสียหายใดๆ อันเกิดจากความไม่ถูกต้อง ความไม่เพียงพอ หรือความไม่ครบถ้วนสมบูรณ์นั้น และจะไม่รับผิดชอบต่อข้อผิดพลาด หรือการละเว้นผลที่ได้รับหรือการกระทำใดๆโดยอาศัยข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ รายละเอียดของวิธีการจัดอันดับเครดิตของ บริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด เผยแพร่อยู่บน Website: http://www.trisrating.com/th/rating-information-th2/rating-criteria.html