WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1ฝรงเศสบอมบ

ฝูงบินฝรั่งเศสบอมบ์ ขยี้ 22 จุด ชำระแค้นไอเอส ถล่มราพณาสูร! ฐานลับในซีเรีย ผนึก'เบลเยียม'ล่าผู้ก่อการร้าย บิ๊กป้อมสั่งเข้ม สถานทูตในไทย

    ฝรั่งเศสเปิดชื่อ 7 ก่อการร้ายที่ร่วมกันโจมตีปารีสแฉวางแผนร่วมกันมาจากซีเรีย ลุยเอาคืน ไอเอสแล้ว ส่งเครื่องบินรบ 10 ลำของ กองทัพอากาศ บินจากฐานทัพสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และจอร์แดน ทิ้งระเบิด 22 ลูก ใส่ฐานตั้งมั่นกองกำลังไอเอสในเมืองอัร-ร็อกเกาะฮ์ ทางตอนเหนือของซีเรีย ระบุสามารถทำลายล้างฐานบัญชาการกองกำลัง ศูนย์จัดหานักรบ คลังอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมถึงค่ายฝึกกองกำลังก่อการร้ายได้อย่างราบคาบ ด้านอียูเตรียมประชุมหารือป้องกันภัยก่อ การร้าย ลั่นพร้อมอยู่เคียงข้างฝรั่งเศส บิ๊กป้อม-บิ๊กตู่ประสานเสียงสั่งหน่วยความมั่นคง เข้มงวด

วันที่ 17 พฤศจิกายน พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9120 ข่าวสดรายวัน


ยังสลด - ประชาชนพร้อมใจจุดเทียนไว้อาลัยเหยื่อ 129 ราย ในกรุงปารีส ขณะที่ทางการฝรั่งเศสออกหมายจับนายซาเลห์ อับเดลสลาม (รูปเล็ก) ผู้ต้องสงสัยร่วมก่อเหตุ ซึ่งหลบหนีไปยังเบลเยียม


ฝรั่งเศสส่ง 10 บินรบถล่มไอเอส
    วันที่ 16 พ.ย. เอเอฟพีรายงานความ คืบหน้าของเหตุการณ์โจมตีนองเลือดในปารีส ประเทศฝรั่งเศส คร่าชีวิตอย่างน้อย 129 ราย และบาดเจ็บอีกกว่า 350 คน เป็นความสูญเสียร้ายแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ฝรั่งเศส นับจากสงครามโลกครั้งที่ 2 ว่า ฝรั่งเศสเริ่มแสดงการตอบโต้กองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส ผู้ประกาศตัวก่อการร้ายครั้งนี้ ด้วยการโจมตีทางอากาศต่อไอเอส ในประเทศซีเรียอย่างเข้มข้น ด้วยการ ส่งเครื่องบินรบ 10 ลำของกองทัพอากาศฝรั่งเศส ออกจากฐานทัพสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์และจอร์แดน ทิ้งระเบิด 22 ลูกใส่ฐานตั้งมั่นกองกำลังรัฐอิสลาม หรือไอเอส ในพื้นที่เมืองอัร-ร็อกเกาะฮ์ ที่ถือเป็นเมืองหลวงของไอเอส ทางตอนเหนือของซีเรีย เมื่อค่ำวันอาทิตย์ที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา
    กระทรวงกลาโหมฝรั่งเศสระบุว่า ภารกิจดังกล่าวสามารถทำลายล้างฐานบัญชาการกองกำลังไอเอส ศูนย์จัดหานักรบ โกดังเก็บอาวุธยุทโธปกรณ์ รวมถึงค่ายฝึกกองกำลังก่อการร้ายของไอเอส การโจมตีดังกล่าวเกิดขึ้น หลังประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศส ประกาศว่าจะตอบโต้กลุ่มก่อการร้ายที่กระทำการอุกอาจอย่างไร้ความปรานี

บอมบ์ฐานที่มั่นไอเอสในซีเรีย
     นายมิคาเอล โซเรีย ที่ปรึกษาฝ่ายสื่อมวลชน ของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งประเทศฝรั่งเศส ระบุว่า เครื่องบิน 12 ลำ ในจำนวนนี้ เป็นเครื่องบินรบ 10 ลำ ทะยานออกจากฐานทัพในสหรัฐอาหรับ เอมิเรตส์และจอร์แดน ปฏิบัติการโจมตีทางอากาศถล่มฐานที่มั่นกลุ่มไอซิส โดยทิ้งระเบิดโจมตี 20 ลูก ทำลายเป้าหมายทั้งหมด ซึ่ง รวมถึง ศูนย์บัญชาการ, ศูนย์รับสมัครนักรบ, คลังกระสุน และค่ายฝึกของกลุ่มไอซิส
     ทั้งนี้ การโจมตีดังกล่าวถือเป็นการโจมตีกลุ่มไอเอสในซีเรียครั้งรุนแรงที่สุดของฝรั่งเศส โดยเกิดขึ้นไม่ถึง 24 ชั่วโมง หลังประธานาธิบดีออลลองด์ประกาศจะเอาชนะบดขยี้กลุ่มมุสลิมหัวรุนแรงติดอาวุธให้ราบคาบ หลังจากเกิดการก่อการร้ายหลายจุดในกรุงปารีส เมื่อวันศุกร์ ที่ 13 พ.ย.

ออกหมายจับอีก 1-คนเช่ารถ
    ขณะเดียวกันเจ้าหน้าที่ตำรวจยังนำกำลังบุกตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยเป็นแหล่งซ่องสุมและซ่อนตัวของเครือข่ายผู้ต้องสงสัยทั่วประเทศฝรั่งเศส 150 แห่ง
     ส่วนที่สำนักงานตำรวจประเทศฝรั่งเศส ออกหมายจับระหว่างประเทศ นายซาเลห์ อับเดลสลาม อายุ 26 ปี ชาวฝรั่งเศสที่เกิด ในประเทศเบลเยียม ผู้ต้องหาเชื่อมโยงกับเหตุโจมตีนองเลือด หลังพบข้อมูลว่านายอับเดลสลามเป็นผู้เช่ารถยนต์โฟล์กสวาเกน โปโล ในเบลเยียม จากนั้นขับข้ามประเทศมายังฝรั่งเศสเพื่อก่อเหตุ และจอดทิ้งไว้ด้านนอกโรงละครบาตากล็อง ซึ่งมีผู้บริสุทธิ์ถูกสังหารกว่า 89 ราย ก่อนหลบหนีออกนอกประเทศไปกับพวกอีก 2 คนด้วยรถยนต์อีกคัน
      การสอบสวนพบว่า เจ้าหน้าที่ด่านตรวจชายแดนประเทศเบลเยียม อนุญาตให้ผ่าน ได้โดยง่าย เนื่องจากนายอับเดลสลามถือหนังสือ เดินทางฝรั่งเศส พร้อมระบุว่า นาย อับเดลสลาม เป็น 1 ใน 3 พี่น้องที่ร่วมก่อเหตุ ซึ่งนายบราฮิม อับเดลสลาม อายุ 31 ปี พี่ชาย เป็น ผู้ระเบิดพลีชีพด้านนอกร้านคาเฟ่ บนถนนบูเลอวาร์ด วอลแตร์ ทางตะวันออกของกรุงปารีส
   ส่วนอีกคนคาดว่าอยู่ในกลุ่มผู้ต้องสงสัย 7 คนที่ตำรวจเบลเยียมบุกจับในเมืองโมเลนบีก โดยนายอับเดลสลามถือเป็นบุคคลอันตรายมาก ห้ามเข้าใกล้โดยพลการ และขอให้ประชาชนรีบแจ้งตำรวจทันทีที่พบเจอ

อียูเตรียมถก-เคียงข้างฝรั่งเศส
      ด้านอัยการฝรั่งเศสกล่าวเชื่อว่า การก่อการร้ายครั้งนี้ คนร้ายมีด้วยกัน 3 กลุ่ม เบื้องต้นทราบแล้วว่าผู้ก่อเหตุระเบิดพลีชีพอย่างน้อย 3 รายถือสัญชาติฝรั่งเศส ในจำนวนนี้ 2 รายอาศัยอยู่ในกรุงบรัสเซลส์ ประเทศเบลเยียม และอีก 1 รายระบุชื่อ จากหลักฐานนิ้วมือขาดซึ่งพบในโรงละครบาตากล็อง คือ นายโอมาร์ อิสมาอิล มอสเตเฟ อายุ 29 ปี ชาวฝรั่งเศสซึ่งมีประวัติอาชญา กรรมลหุโทษรวม 8 คดี โดยตำรวจได้จับกุมสมาชิกครอบครัว และคนใกล้ชิดกับนายมอสเตเฟ จำนวน 6 คนไปสอบสวนขยายผลแล้ว
       ขณะเดียวกัน นายเอเตียน ชไนเดอร์ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีกระทรวงความมั่นคงภายในของลักเซมเบิร์ก เปิดเผยว่าจะจัดการประชุมวิกฤตความมั่นคงร่วมระหว่างรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และกระทรวงยุติธรรมของสมาชิกสหภาพยุโรป (อียู) รวม 28 ประเทศ ที่กรุงลักเซมเบิร์กในวันที่ 20 พ.ย.นี้ เพื่อเร่งหามาตรการเผชิญหน้ากับการก่อการร้าย และการกระทำอันป่าเถื่อน พร้อมย้ำว่ายุโรปจะยืนเคียงข้างฝรั่งเศส ทั้งนี้ การประชุมดังกล่าวจะเน้นความร่วมมือภายในภูมิภาค รวมถึงการใช้ระบบบันทึกชื่อผู้โดยสาร (พีเอ็นอาร์) เพื่อเก็บข้อมูลผู้เดินทางเข้าออกประเทศอียู

ผู้ดีเฝ้าระวัง-ปารีสระทึกอีก
      ด้านเว็บไซต์เทเลกราฟระบุว่า นายเดวิด คาเมรอน นายกรัฐมนตรีอังกฤษ แถลงเพิ่มเจ้าหน้าที่จากหน่วยความมั่นคงแห่งชาติอังกฤษ (เอ็มไอ 5) หน่วยข่าวกรองอังกฤษ (เอ็มไอ 6) และสำนักงานข่าวกรองของอังกฤษ (จีซีเอชคิว) รวมกว่า 1,900 นาย เพื่อเฝ้าระวังสถานการณ์ก่อการร้าย ถือเป็นการตรึงกำลังมากที่สุดในรอบ 10 ปี นับตั้งแต่เหตุก่อการร้าย 7 ก.ค. 2548 ในกรุงลอนดอน ซึ่งมีผู้เสียชีวิต 56 ราย

       วันเดียวกัน เกิดเหตุโกลาหลระหว่างประชาชนจำนวนมากร่วมไว้อาลัย จุดเทียน และวางดอกไม้ให้เหยื่อเหตุโจมตีกรุงปารีส บริเวณลานกว้างเพลส เดอ ลา รีพับลิก หลังประทัดระเบิด ทำให้ผู้ชุมนุมวิ่งหนีด้วยความหวาดกลัว แต่ไม่มีรายงานชี้ชัดว่ามีประทัดปะทุขึ้นได้อย่างไร
       นอกจากนี้ ห่างออกไปไม่ไกล มีเหตุอุปกรณ์ทำความร้อนหรือหลอดไฟบนระเบียงอาคารหลังหนึ่ง เกิดระเบิดขึ้นเสียงดัง คาดว่าเป็นเพราะร้อนจัด ส่งผลให้ผู้คนวิ่งหนีแตกตื่นหาที่หลบภัย บางคนวิ่งเข้าไปรวมตัวกันในร้านค้า อีกหลายคนพากันกระโดดลงคลอง อ็อก เพราะคิดว่ามีการโจมตีอีกครั้ง

ปินส์สั่งอารักขาเข้มผู้นำเอเปก
      เอเอฟพีรายงานบรรยากาศการเตรียมความพร้อมในการประชุมสุดยอดผู้นำกลุ่มความร่วมมือทางเศรษฐกิจ ภาคพื้นเอเชีย-แปซิฟิก หรือเอเปก ที่กรุงมะนิลา ประเทศฟิลิปปินส์ ว่า ประธานาธิบดีเบนิกโน อาคีโน ที่ 3 ผู้นำฟิลิปปินส์ สั่งการให้เฝ้าระวังความปลอดภัยอย่างเข้มงวดในช่วงจัดการประชุม ซึ่งจะมีผู้นำชาติสมาชิก เข้าร่วมทั้งหมด 21 ประเทศ รวมถึงประธานา ธิบดีบารัก โอบามา แห่งสหรัฐอเมริกา ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ผู้นำจีน นายกรัฐมนตรีชินโซ อาเบะ ของญี่ปุ่น และประธานาธิบดีปาร์ก กึนเฮ ผู้นำเกาหลีใต้ ระหว่างวันที่ 18-19 พ.ย.นี้
      ด้านเว็บไซต์ฟิลสตาร์ระบุว่า นายเจโจมาร์ บิเนย์ รองประธานาธิบดีฟิลิปปินส์ ต้อนรับนางมิเชล บาเชอเลต ประธานาธิบดีหญิงแห่งชิลี ซึ่งเดินทางถึงเป็นคนแรก ก่อนทำพิธีต้อนรับอย่างเป็นทางการที่พระราชวังมาลากันญัง ทำเนียบประธานาธิบดี อย่างสมเกียรติ อาคีโนสั่งการด้วยตนเองให้เจ้าหน้าที่ความมั่นคง ทหาร และตำรวจ พร้อมปฏิบัติหน้าที่ดูแลรักษาความสงบเรียบร้อย และความปลอดภัยระหว่างการประชุม พร้อมย้ำว่านอกจากผู้นำชาติสมาชิกทั้ง 21 ประเทศจะมีความยินดีในการร่วมมือทางเศรษฐกิจแล้ว ยังยืนหยัดต่อต้านการก่อการร้ายด้วย

วางแผนจากซีเรีย-จับได้ 14 คน
      นายมานูเอล วาลส์ นายกรัฐมนตรีฝรั่งเศสกล่าวว่า นับจากช่วงดึกของวันอาทิตย์จนถึงเช้าวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ตำรวจนำกำลังบุกตรวจค้นสถานที่ต้องสงสัยกว่า 168 จุดและจับผู้ต้องสงสัยก่อการร้ายในหลายเมืองใหญ่กว่า 23 คน ในขณะที่การสอบสวนพบว่ากลุ่มผู้ก่อการร้ายวางแผนก่อการร้ายกันมาจากประเทศซีเรีย และ ไม่เพียงมีแผนก่อการเฉพาะในประเทศฝรั่งเศสเท่านั้น ยังรวมถึงประเทศอื่นๆ ในสหภาพยุโรปด้วย
     แหล่งข่าววงในระบุว่า ปฏิบัติการในฝรั่งเศส เจ้าหน้าที่ยึดอาวุธของกลางได้จำนวนมาก อาทิ เครื่องปล่อยจรวด ปืนอาก้า ปืนพก เสื้อเกราะกันกระสุน และอุปกรณ์ต่อสู้ครบมือ ในเมืองลียง ทางตะวันออกตอนกลางของจังหวัดโรน และเมืองโบบิกนี ภาคตะวันออกของกรุงปารีส มีผู้ต้องหาถูกจับกุม 5 คน ส่วนเมืองตูลูซ แคว้นมีดี-ปีเรเน ทางตะวันตกเฉียงใต้ เจ้าหน้าที่จับกุมผู้ต้องสงสัย 3 คน และเมืองเกรโนเบิล พื้นที่ติดเทือกเขาแอลป์ ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ จับกุมได้อย่างน้อย 6 คน

ตร.ฝรั่งเศสเปิดชื่อ 7 ผู้ก่อการร้าย
     ส่วนความคืบหน้าในเบลเยียม ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษติดอาวุธหนักบุกเข้าตรวจค้นพื้นที่ต้องสงสัยในกรุงบรัสเซลส์ เมืองหลวง อย่างเข้มข้น โดยเฉพาะในเขต โมเลนบิก ขานรับกับปฏิบัติการในฝรั่งเศส หลังผลการสอบสวนชี้ว่า ผู้ก่อการส่วนหนึ่งเป็นผู้ที่อาศัยอยู่ในเบลเยียม หลังมีการเปิดชื่อผู้ก่อการร้ายบางส่วนออกมา ดังนี้
     1.นายซาลาห์ อับเดสลาม อายุ 26 ปี เกิดในเบลเยียม อยู่ระหว่างการหลบหนี 2.นายโมฮัมเหม็ด อับเดสลาม ถูกจับในเบลเยียม 3.นายบราฮิม อับเดสลาม อายุ 31 ปี เสียชีวิตในโรงละครบาตากล็อง 4.นาย โอมาร์ อิสมาอิล มอสเตไฟ อายุ 29 ปี ผู้อาศัยอยู่ใกล้กรุงปารีส เสียชีวิตในบาตากล็อง
     5.นายบิลัล ฮัดฟี อายุ 20 ปี เสียชีวิตที่สนามสต๊าด เดอ ฟรองซ์ 6.นายอาหมัด อัล-มูฮัมหมัด อายุ 25 ปี จากเมืองอิดลิบ ประเทศซีเรีย ตายที่สนามสต๊าด เดอ ฟรองซ์ ลายนิ้วมือของศพตรงกับข้อมูลการเข้าเมืองที่ด่านตรวจชายแดนประเทศกรีซ ทำให้สันนิษฐานในเบื้องต้นว่านายโมฮัมหมัดเดินทางเข้ามาจากกรีซตั้งแต่เดือนต.ค. 7.นายซามี อมีมูร์ อายุ 28 ปี อาศัยอยู่ในเมืองดร็องซี จังหวัดแซน-แซงต์-เดอนีส์ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของกรุงปารีส และมีประวัติเคยถูกจับกุมฐานพัวพันการก่อการร้ายวางแผนโจมตีเยเมนเมื่อปี 2555 ก่อนเดินทางไปซีเรียปี 2556 เสียชีวิตที่บาตากล็อง ส่วนอีก 2 รายเสียชีวิตในตัวเมืองของกรุงปารีส

เบลเยียมก็มีกองกำลังไอเอส
     หนังสือพิมพ์เดอสแตนดาร์ดของเบลเยียม ระบุว่านายบราฮิม อับเดสลาม พี่ชายของนายซาเลห์ อับเดสลาม ซึ่งถูกทางการฝรั่งเศสประกาศจับ อาจเป็นผู้บงการกลุ่มกองกำลังไอเอสในเบลเยียม ทั้งยังมีประวัติเกี่ยวข้องกับอาชญากรรมเมื่อปี 2553 และ 2554 รวมถึงกรณีเจ้าหน้าที่ตำรวจวิสามัญฆาตกรรมผู้ต้องสงสัยก่อการร้าย 2 รายในเมืองแวร์วิเยร์ เมื่อเดือนม.ค.ที่ผ่านมา หลังเกิดเหตุกลุ่มคนร้ายบุกสังหารที่กองบรรณาธิการนิตยสารชาร์ลี เอบโด เมื่อ 7 ม.ค.
     นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่สอบสวนของฝรั่งเศสยังระบุว่านายอับเดลฮามิด อบาอูด อายุ 27 ปี ผู้ต้องสงสัยชาวเบลเยียม ซึ่งเชื่อว่าเป็นผู้บงการเหตุก่อการร้ายหลายครั้งในฝรั่งเศส โดยนาย อบาอูดมีเชื้อสายโมร็อกโก แต่ครอบครัวอพยพมายังเมืองโมเลนบีกของเบลเยียม


ปล่อยตัว 5 ใน 7 ผู้ต้องสงสัย
     ต่อมาโฆษกอัยการเบลเยียมเปิดเผย ว่า ตำรวจปล่อยตัวผู้ต้องสงสัย 5 ใน 7 คน ซึ่งถูกจับกุมไปสอบสวนตั้งแต่สุดสัปดาห์ ที่ผ่านมา รวมถึงนายโมฮาเหม็ด อับเดสลาม น้องชายนายบราฮิม อับเดสลาม ผู้ก่อเหตุระเบิดพลีชีพใกล้ร้านคาเฟ่บนถนนบูเลอวาร์ด วอลแตร์ และนายซาเลห์ อับเดสลาม ผู้ต้องสงสัยอีกคนที่กำลังหลบหนี โดยไม่มีการตั้งข้อหาดำเนินคดีใดๆ
      วันเดียวกัน บรรยากาศการไว้อาลัย ผู้เสียชีวิตยังเต็มไปด้วยความโศกเศร้า เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 16 พ.ย. ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปพร้อมใจกันยืนสงบนิ่งนาน 1 นาที เพื่อแสดงความเสียใจแก่เหยื่อโศกนาฏกรรมนองเลือด ซึ่งประธานาธิบดีฟรังซัวส์ ออลลองด์ ผู้นำฝรั่งเศส นำคณะรัฐมนตรี นักศึกษา และประชาชนจำนวนมาก ยืนไว้อาลัยที่มหาวิทยาลัยซอบอนในกรุงปารีส ส่วนที่ลานเพลา เดอ ลา รีพับลิก ซึ่งใกล้จุดเกิดเหตุ มีประชาชนเกือบพันคนร่วมพิธี

ผู้นำจี 20 ยืนไว้อาลัยฝรั่งเศส
      ขณะที่เวทีการประชุมสุดยอดกลุ่มผู้นำประเทศเศรษฐกิจขนาดใหญ่ จี 20 ณ เมืองอันทาลยา ประเทศตุรกี นายกรัฐมนตรีเดวิด คาเมรอน ผู้นำอังกฤษ พร้อมด้วยนาง แองเกลา แมร์เคิล นายกรัฐมนตรีเยอรมนี นายกรัฐมนตรีมัตเตโอ เรนซี แห่งอิตาลี นายโดนัลด์ ทัสก์ ประธานสภายุโรป และนายฌอง-โคล้ด ยุงเกอร์ ประธานคณะกรรมาธิการยุโรป ยืนไว้อาลัย
     จากนั้น นายคาเมรอนร่วมแถลงกับนางแมร์เคิลว่า อังกฤษ เยอรมนี นอร์เวย์ และคูเวต จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมว่าด้วยกรณีซีเรียในปี 2559 ซึ่งการประชุมนัดแรกจะจัดในวันที่ 4 ก.พ. ที่กรุงลอนดอน
     ด้านสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร และวุฒิสภาของสเปนหลายร้อยคนร่วมยืนไว้อาลัยด้านหน้ารัฐสภาในกรุงมาดริด ส่วนกรุงเบอร์ลิน ประเทศเยอรมนี มีประชาชนจำนวนมากยืนสงบนิ่งหน้าสถานเอกอัคร ราชทูตฝรั่งเศสประจำเยอรมนี และชาวเนเธอร์แลนด์ยืนไว้อาลัยเหยื่อเหตุโจมตีกรุงปารีสที่จัตุรัสดามสแควร์ ในกรุงอัมสเตอร์ดัม อย่างคับคั่ง นอกจากนี้เจ้าหน้าที่รัฐ ส.ส. ส.ว. และนักการเมืองนอร์เวย์ ร่วมพิธีสงบนิ่ง 1 นาทีที่รัฐสภากรุงออสโล เช่นเดียวกับรัฐสภาสวีเดนในกรุงสตอกโฮล์ม

แอโนนิมัสประกาศสงคราม
    นอกจากนี้ กลุ่มแฮ็กเกอร์ชื่อดังในนาม "แอโนนิมัส" หรือนิรนาม เครือข่ายแฮ็กเกอร์ ซึ่งเคยโจมตีบริษัทขนาดใหญ่ ทั้งวีซ่า มาสเตอร์การ์ด และเพย์พอล รวมถึงประกาศต่อต้านโครงการซิงเกิลเกตเวย์ของไทย โพสต์คลิปวิดีโอผ่านเว็บไซต์ยูทูบ ประกาศทำสงครามกับกองกำลังไอเอส
     คลิปแสดงให้เห็นชายคนหนึ่งซึ่งสวมหน้ากากกาย ฟอกส์ สัญลักษณ์ของการประท้วง กล่าวว่า "สมาชิกแอนโนนิมัส ทั่วโลกจะตามล่าผู้อยู่เบื้องหลังเหตุการณ์โจมตีในกรุงปารีส ขอให้มั่นใจว่าพวกเราจะหาคุณเจอ และเราจะไม่มีทางปล่อยคุณไป เครือข่ายจารกรรมแอโนนิมัสจะร่วมปฏิบัติการครั้งใหญ่ในการต่อต้านกองกำลังไอเอส จงคาดหวังว่าจะถูกโจมตีบนโลกไซเบอร์ เราได้ประกาศสงครามต่อต้านพวกคุณแล้ว จงเตรียมตัว ประชาชนชาวฝรั่งเศสเข้มแข็งกว่า ที่คิด และจะยิ่งแข็งแกร่งขึ้นหลังเหตุการณ์นี้"

'โอบามา'เดินทางถึงมะนิลาแล้ว
      ขณะที่นางซูซาน ไรซ์ ที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติของสหรัฐอเมริกา เปิดเผยว่า ประธานาธิบดีบารัก โอบามา ผู้นำสหรัฐ เดินทางถึงกรุงมะนิลาเพื่อเตรียมตัวเข้าร่วม การประชุมเอเปกแล้ว โดยก่อนหน้าที่จะเกิดเหตุก่อการร้ายในกรุงปารีส นายโอบามา มองว่าการประชุมดังกล่าวจะช่วยสร้างความร่วมมือ รวมถึงโอกาสขยายตัวด้านการค้าและเศรษฐกิจ อย่างไรก็ตาม คาดว่านายโอบามา จะนำประเด็นความขัดแย้งในซีเรีย อิรัก และกองกำลังไอเอสเข้าสู่ที่ประชุม

ประวิตร สั่งเอกซเรย์ด่านภาคใต้
     เมื่อเวลา 09.00 น.วันเดียวกัน ที่กระทรวงกลาโหม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รอง นายกฯ ฝ่ายความมั่นคงและรมว.กลาโหม ให้สัมภาษณ์ถึงกลุ่มไอเอสก่อการร้ายที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส และเลบานอนว่า บ่ายวันเดียวกันนี้ จะเรียกประชุมหน่วยงานด้านการข่าว เพื่อบูรณาการการทำงาน และสอบถามข่าวสารของแต่ละหน่วยงาน ก่อนหน้านี้ได้สั่งการไปยังผู้บัญชาการเหล่าทัพและสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ให้ดูแล เข้มงวดในการป้องกันให้มากยิ่งขึ้น
     ทั้งนี้ ขอให้ประชาชนเป็นหูเป็นตาช่วยสอดส่อง หากพบสิ่งผิดปกติให้แจ้งเจ้าหน้าที่ โดยคสช.ได้วางกำลังดูแลในทุกพื้นที่ ไม่มีอะไรน่าห่วง พร้อมสั่งการให้ตรวจเข้ม การผ่านเข้า-ออกบริเวณด่านตรวจคนเข้าเมืองตามแนวชายแดน โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนไทย-มาเลเซีย ที่มีกลุ่มไอเอสอาศัยอยู่ ทั้งนี้อยากให้ทุกคนช่วยกันดูแล ส่วนหน่วยงานความมั่นคงก็พร้อมดูแลได้
     เมื่อถามว่ากลุ่มไอเอสมักใช้ช่องทาง สื่อ สารทางอินเตอร์เน็ต จะดูแลเรื่องไซเบอร์อย่างไร พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า มีกองบัญชา การกองทัพไทยดูแลอยู่แล้ว พร้อมบูรณาการกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
     เมื่อถามว่านอกจากดูแลความปลอดภัยสถานทูตฝรั่งเศสในไทยแล้ว สถานทูตอื่นๆ เช่น อังกฤษ และสหรัฐจะเพิ่มมาตรการดูแลหรือไม่ พล.อ.ประวิตรกล่าวว่า เจ้าหน้าที่ตำรวจนครบาลดูแลอยู่แล้ว โดยเฉพาะ สถานทูตประเทศยุโรปที่ประจำอยู่ในไทย

บิ๊กตู่ให้สตรองเกอร์ทูเกเตอร์ทั่วโลก
      พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ให้สัมภาษณ์ถึงเหตุการณ์ก่อการร้ายที่ประเทศฝรั่งเศส และมาตรการดูแลความปลอดภัยของประเทศไทยว่า ปรับมนุษย์ปรับคนเพื่อให้ทุกคนช่วยกันดูแลและเฝ้าระวัง เรามีทุกมาตรการอยู่แล้วตั้งแต่ การป้องปราม การเฝ้าระวัง สืบสวน ปราบปราม จับกุม การใช้เครื่องมือทางเทคโนโลยีมีเท่าไหร่ก็ใช้เท่านั้น แต่สิ่งสำคัญประชาชน ทุกคนต้องเฝ้าระวังเป็นหูเป็นตา คนไทยมีทั้งหมด 70 ล้านคน ถ้าช่วยกันดูคนละนิดคนละหน่อยก็จะปลอดภัย แต่ไอ้นี่ดูก็ไม่ดู เจ้าหน้าที่ก็ไม่ชอบ มันจะทำอะไรได้
     "ผมได้สั่งมาตรการทางตำรวจ ทหาร สภาความมั่นคงแห่งชาติ ไปเต็มที่แล้ว ก็เหลืออยู่ที่ว่ามันจะเกิดได้หรือไม่ได้ วันนี้ทุกคนก็ต้องรู้ว่าบ้านเมืองทุกประเทศนี้มันมีความเสี่ยงในทุกๆสถานการณ์ในโลกใบนี้ ทั้งความยากจน ความเหลื่อมล้ำ ความขัดแย้ง โรคระบาด เศรษฐกิจ สุดโต่ง ก็รู้อยู่ ไม่มีใครปลอดภัย 100% ถ้าประชาชนไม่ร่วมมือกัน ทั้งนี้ก็เสียใจกับชาวฝรั่งเศส โดยเฉพาะผู้เสียชีวิตและผู้สูญเสียทั้งหมด ซึ่งไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นอยู่แล้ว และเราต้องเป็นกำลังใจให้กันและกัน เราคงไม่ใช่ Stronger Together ในไทยอย่างเดียวต้องทั้งโลก" นายกฯ กล่าว

เผยผบ.ทบ.สั่งเพิ่มมาตรการรปภ.
     ที่กองบัญชาการกองทัพบก พ.อ.หญิงศิริจันทร์ งาทอง รองโฆษกคณะรักษาความสงบแห่งชาติ เปิดเผยว่า ในการประชุมสำนักงานเลขาธิการคสช. พล.อ.ธีรชัย นาควานิช ผบ.ทบ.ในฐานะเลขาธิการคสช. สั่งการให้เพิ่มมาตรการรักษาความปลอดภัยในรูปแบบการป้องปรามและดูแลพื้นที่ที่มีประชาชนมาใช้บริการจำนวนมาก สถานที่ท่องเที่ยวของชาวไทยและชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นการทำงานร่วมกันของตำรวจ ฝ่ายปกครอง และกองกำลังรักษาความสงบเรียบร้อย ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของรัฐบาล ส่งเสริมอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในช่วงฤดูการท่องเที่ยวนี้
    รองโฆษกทบ.กล่าวต่อว่า เลขาธิการคสช.ได้กำชับให้ใช้ข้อมูลด้านการข่าวที่ ทุกหน่วยงานมีเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว พิจารณาเข้าดำเนินการต่อกลุ่มผู้มีอิทธิพลในทุกพื้นที่ทันที และให้สอดคล้องกับมาตรการทางกฎหมาย รวมถึงการตรวจสอบเจ้าหน้าที่ของรัฐด้วยว่า มีส่วนเกี่ยว ข้องหรือมีพฤติกรรมในเรื่องดังกล่าวหรือไม่

ผบ.ตร.ห่วงแหล่งท่องเที่ยวชื่อดัง
      วันเดียวกัน พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. กล่าวว่าหลังจากเกิดเหตุการณ์ขึ้น ที่ประเทศฝรั่งเศส ทางการไทยก็เพิ่มความ เข้มงวดในเรื่องความปลอดภัยเพื่อดูแลประชาชนเช่นกัน แต่ยืนยันว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้งกับใคร และบ้านเราไม่มีกลุ่มก่อการร้ายรัฐอิสลาม หรือไอเอส แต่ที่ผ่านมาเจ้าหน้าที่มีการดูแลความปลอดภัย ทั้งประเทศอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นประชาชน คนไทยและนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติ เรา ต้องดูแลทั้งหมดในภาพรวมแน่นอน
      ผู้สื่อข่าวถามว่าทางตำรวจเป็นห่วงจุดไหนเป็นพิเศษหรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า เป็นห่วงทุกจุด โดยเฉพาะจุดที่มี ชาวต่างชาติและพี่น้องคนไทยอาศัยอยู่จำนวนมาก โดยเฉพาะในแหล่งท่องเที่ยวที่นิยม ก็จะต้องดูแลเป็นพิเศษ
       ถามถึงได้เพิ่มการรักษาความปลอดภัยสถานทูตประเทศให้เป็นพิเศษในช่วงนี้ หรือไม่ พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า ก็มีหลายประเทศที่ต้องเพิ่มความเข้มงวดมากขึ้น ซึ่งหากทางสถานทูตมีการขอกำลังตำรวจไปดูแลก็ต้องดำเนินการอยู่แล้ว

ประสานทหาร-กทม.ร่วมดูแล
    ผบ.ตร.กล่าวว่า ล่าสุด พล.อ.ประวิตร สั่งการเพิ่มเติมให้เจ้าหน้าที่ตำรวจประสานกับทหาร และกรุงเทพมหานคร (กทม.) ในการ บูรณาการกำลังออกตรวจสถานที่ ชุมชน และสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ เพื่อสร้างความ เชื่อมั่นและเฝ้าระวังในเรื่องความปลอดภัย ขณะเดียวกันทางผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ยังกำชับให้เพิ่มความเข้มงวดในการคัดกรองบุคคลเข้าออกประเทศ ทั้งช่องทางปกติและช่องทางธรรมชาติ ตลอดจนสืบสวนหาข่าวเชิงรุก รักษาความปลอดภัยสถานที่สำคัญๆ เพิ่มความถี่ ของตำรวจสายตรวจ และเฝ้าระวังความเคลื่อนไหวทางโซเชี่ยลมีเดีย โดย กำชับว่า ทุกหน่วยต้องปฏิบัติงานอย่างเต็มที่ และสมบูรณ์ที่สุด
     นอกจากนี้ ก็ขอให้ประชาชนช่วยเป็นหูเป็นตาเฝ้าระวังสังเกตสิ่งผิดปกติ โดยขอให้ติดตามข่าวสารอย่างใกล้ชิด ยอมรับว่าเหตุการณ์ก่อการร้ายที่เกิดขึ้นเป็นการส่งสัญญาณเตือนว่าให้ทุกประเทศเฝ้าระวังภัยก่อการร้าย แต่ไม่อยากให้ประชาชนตื่นตระหนก หากพบสิ่งผิดปกติให้รีบแจ้งเจ้าหน้าที่ทางสายด่วน 191 หรือ 1599 ตลอด 24 ชั่วโมง

5 องค์กรศาสนาในไทยเสียใจปารีส
     ที่กระทรวงวัฒนธรรม นายกฤษศญพงษ์ ศิริ อธิบดีกรมการศาสนา พร้อมผู้นำศาสนา 5 ศาสนาในประเทศไทย ประกอบด้วย ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ ร่วมกันแถลงในนาม "คณะกรรมการศาสนิกสัมพันธ์" ว่า ตามที่ได้เกิดเหตุการณ์ความรุนแรงที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส เมื่อวันศุกร์ที่ 13 พ.ย. ที่ผ่านมา มีผู้เสียชีวิตและบาดเจ็บจำนวนมากนั้น คณะกรรมการศาสนิกสัมพันธ์ ประกอบด้วย ศาสนาพุทธ ศาสนาอิสลาม ศาสนาพราหมณ์-ฮินดู และศาสนาซิกข์ ขอแสดงความเสียใจต่อการสูญเสียชีวิตและผู้ที่ได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์ดังกล่าว จึงขอร้องให้ทุกฝ่ายยุติความรุนแรงในทุกวิถีทาง โดยใช้หลักศาสนา ด้วยความรักความเมตตา ด้วยสันติวิธี ขอให้ทุกฝ่ายร่วมมือร่วมใจเยียวยา สร้างขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบเหตุ ขอสิ่งศักดิ์สิทธิ์ของแต่ละศาสนา อำนวยพรให้สังคมโลกประสบความสุขสงบตลอดไป
     นายกฤษศญพงษ์ กล่าวว่า นอกจากนี้ เพื่อเป็นการแสดงความเสียใจต่อผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บ พร้อมทั้งสร้างขวัญกำลังใจแก่ประชาชน กรมการศาสนา กระทรวงวัฒนธรรรม ขอความร่วมมือผู้นำศาสนา 5 ศาสนา จัดพิธีทางศาสนาตามหลักศาสนา ณ ศาสนสถานของแต่ละศาสนา พร้อมทั้งเชิญชวนศาสนิกชนของแต่ละศาสนาร่วมกิจกรรมดังกล่าวด้วย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!