- Details
- Category: USA
- Published: Monday, 04 October 2021 08:29
- Hits: 10731
มาตรวัดเงินเฟ้อ สำคัญที่ธนาคารกลางสหรัฐจับตามองแตะระดับสูงสุดในรอบ 30 ปีอีกครั้ง
CNBC ECONOMY : Jeff Cox @JEFF.COX.7528 @JEFFCOXCNBCCOM
ประเด็นสำคัญ
>>>อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานเพิ่มขึ้น 3.6% ในเดือนสิงหาคมจากปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการก้าวกระโดดครั้งใหญ่ที่สุดในรอบกว่า 30 ปี
>>>การใช้จ่ายส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.8% สูงกว่าประมาณการเล็กน้อย
>>>การใช้จ่ายของผู้บริโภคเพิ่มขึ้น 0.8% เทียบกับประมาณการ 0.7%
อัตราเงินเฟ้อพุ่งแตะระดับสูงสุดในรอบ 30 ปีในเดือนส.ค. เนื่องจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทานและความต้องการที่สูงเป็นพิเศษทำให้เกิดแรงกดดันด้านราคาอย่างต่อเนื่อง กระทรวงพาณิชย์รายงานเมื่อวันศุกร์
ดัชนี ราคาใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลหลัก ซึ่งไม่รวมค่าอาหารและพลังงาน และเป็นตัวชี้วัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐเลือกใช้ เพิ่มขึ้น 0.3% ในเดือนนี้ และเพิ่มขึ้น 3.6% จากปีที่แล้ว กำไรรายเดือนสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ 0.2% ของ Dow Jones เล็กน้อยและคาดการณ์รายปีที่ 3.5%
นั่นสูงที่สุดนับตั้งแต่เดือนพฤษภาคม 2534 และสะท้อนถึงแรงกดดันด้านเงินเฟ้อที่ประธานเฟดเจอโรมพาวเวลล์กล่าวเมื่อต้นสัปดาห์นี้ว่าเขารู้สึก ”ผิดหวัง”
ตามพาดหัวข่าว ราคา PCE เพิ่มขึ้น 0.4% สำหรับเดือนและ 4.3% เมื่อเทียบเป็นรายปี ซึ่งสูงที่สุดนับตั้งแต่มกราคม 2534 ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่าราคาพลังงานเพิ่มขึ้น 24.9% และอาหารเพิ่มขึ้น 2.8%
ราคาสินค้าเพิ่มขึ้น 5.5% ในขณะที่บริการเพิ่มขึ้น 3.6%
อัตราเงินเฟ้อที่เพิ่มขึ้นเกิดขึ้นเนื่องจากรายได้ส่วนบุคคลเพิ่มขึ้น 0.2% ในเดือนนี้ ซึ่งสอดคล้องกับการประมาณการ แต่บ่งชี้ว่ารายได้ที่แท้จริงกำลังลดลงเมื่ออัตราเงินเฟ้อสูงขึ้น การใช้จ่ายเร่งขึ้น 0.8% สูงกว่าการคาดการณ์ 0.7% เล็กน้อย
การออมส่วนบุคคลมีมูลค่า 1.71 ล้านล้านดอลลาร์ ในอัตรา 9.4% และลดลงจาก 10.1% ในเดือนกรกฎาคม อัตราการออมสูงสุดที่ 33.8% ในเดือนเมษายน 2020 ในช่วงเริ่มต้นของการระบาดใหญ่ เนื่องจากรัฐบาลเร่งจ่ายเงินให้กับบุคคลทั่วไปและธุรกิจต่างๆ ถูกปิดตัวลงเพื่อต่อสู้กับการแพร่กระจายของโควิด
รายงานแยกเมื่อเช้าวันศุกร์แสดงให้เห็นว่าการผลิตยังคงขยายตัวอย่างต่อเนื่อง
ดัชนี การผลิตของ ISM ประจำเดือนกันยายนมีการอ่านค่า 61.1 ซึ่งแสดงถึงเปอร์เซ็นต์ของบริษัทต่างๆ ที่กำลังขยายตัว สิ่งที่สูงกว่า 50 หมายถึงการเติบโต ประมาณการดาวโจนส์อยู่ที่ 59.5
การสำรวจยังแสดงให้เห็นว่าราคาเพิ่มขึ้น โดย 81.2% ของผู้ตอบแบบสอบถามรายงานว่าเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ 79.4% ในเดือนสิงหาคม
ยอดค้างสั่งซื้อลดลงเป็น 64.8 ลดลง 3.4 จุดจากเดือนที่แล้ว แต่บริษัทโดยรวมยังคงรายงานความล่าช้า
“ความกังวลเกี่ยวกับซัพพลายเชนมีมากขึ้นนอกเหนือจากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์และชิปในสินค้าอื่นๆ ส่วนใหญ่ เวลารอคอยสินค้ากำลังขยาย ช่องทางเดินเรือช้าลง และเราจะไม่เห็นจุดจบของสิ่งนี้ในปี 2564” ผู้ตอบแบบสอบถามรายหนึ่งในอุตสาหกรรมอุปกรณ์ไฟฟ้า เครื่องใช้ และส่วนประกอบกล่าว .
นอกจากนี้ ความเชื่อมั่นผู้บริโภคยังปรับตัวดีขึ้น ตามดัชนีของมหาวิทยาลัยมิชิแกน ซึ่งเพิ่มขึ้นเป็น 72.8 ในเดือนกันยายน เทียบกับ 70.8 ในเดือนสิงหาคมและประมาณการที่ 71
******************************************
