WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

11ผบ.ตร

สมยศ ส่งไม้บิ๊กแปะ รับหน้าที่ผบ.ตร. จักรทิพย์ลุยทันที แบ่งงานรองผบ.

    'บิ๊กอ๊อด'สมยศส่งมอบ ตำแหน่งผบ.ตร.ให้'บิ๊กแป๊ะ' จักรทิพย์ด้วยบรรยากาศสุดอบอุ่น ผบ.ตร.คนใหม่ฟิตจัดแบ่งงานรองผบ.ตร.-ผู้ช่วยผบ.ตร.เพื่อเดินหน้าองค์กรตำรวจได้ทันที 'พงศพัศ'เป็นรองปป.1 ดูแลบช.น. ภาค 1, 2, 7 และบช.ก. ควบผอ.ศูนย์ปราบยาเสพติด-ละเมิดลิขสิทธิ์ 'เฉลิมเกียรติ'เป็นรองปป.2 ดูแลภาค 3, 5, 8 ควบผอ.ศูนย์งานทรัพยากรธรรมชาติ 'สุพร พันธุ์เสือ'เป็นรองบร.1 ดูแลงานบริหาร

วันที่ 01 ตุลาคม พ.ศ. 2558 ปีที่ 25 ฉบับที่ 9073 ข่าวสดรายวัน


คนที่ 11 - พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ซึ่งครบเกษียณอายุราชการ ส่งมอบตำแหน่งผู้บัญชาการสำนักงานตำรวจแห่งชาติคนที่ 11 ให้แก่พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร. เมื่อวันที่ 30 ก.ย.

     เมื่อเวลา 15.00 น.วันที่ 30 ก.ย.ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ (ตร.) พล.ต.อ.สมยศ พุ่มพันธุ์ม่วง ผบ.ตร. ซึ่งครบกำหนดเกษียณอายุราชการ ทำพิธีส่งมอบตำแหน่งให้กับพล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา รองผบ.ตร. ที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯเป็นผบ.ตร.คนใหม่ โดยพล.ต.อ.สมยศ และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ขึ้นแท่นรับความเคารพจากกองเกียรติยศจากนักเรียนนายร้อยตำรวจ บริเวณหน้าอาคาร 1 จากนั้นเดินตรวจแถวกองเกียรติยศ

พล.ต.อ.สมยศ และพล.ต.อ.จักรทิพย์ วางพานประดับพุ่มดอกไม้สักการะพระบรมราชานุสาวรีย์รัชกาลที่ 4 โดยมีนายตำรวจ ระดับรองผบ.ตร. ผู้ช่วยผบ.ตร. ร่วมพิธี ต่อมาทำพิธีรับ-ส่งตำแหน่งผบ.ตร.ภายในห้องประชุมศรียานนท์ โดย พล.ต.อ.สมยศ และพล.ต.อ.จักรทิพย์ ลงนามหนังสือรับ-ส่งมอบหน้าที่พร้อมกับแลกเปลี่ยนของที่ระลึก

      พล.ต.อ.สมยศ กล่าวว่า ก่อนอื่นต้องขอแสดงความยินดีกับพล.ต.อ.จักรทิพย์ด้วยความจริงใจ ในโอกาสที่ได้รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ดำรงตำแหน่งผบ.ตร. ตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.นี้เป็นต้นไป ตนยืนยันและมั่นใจในตัวผบ.ตร.คนใหม่ เพราะพล.ต.อ.จักรทิพย์เป็นคนมีความรู้ความสามารถ มีคุณสมบัติ มีศักยภาพที่จะนำพาสำนักงานตำรวจแห่งชาติ และผู้ใต้บังคับบัญชา ไปสู่ความก้าวหน้าในวันข้างหน้าได้ สิ่งที่ตนอยากจะฝากพล.ต.อ.จักรทิพย์ คืออยากขอให้สานต่อนโยบายของตนที่จะทำให้ประชาชนรู้สึกพึงพอใจ รักใคร่ และเชื่อมั่น ศรัทธา ในข้าราชการตำรวจ

     พล.ต.อ.สมยศ กล่าวต่อว่า ในส่วนของคดีความต่างๆ ไม่จำเป็นต้องฝากพล.ต.อ. จักรทิพย์ เพราะว่าคดีต่างๆ ที่สามารถคลี่คลายได้หรือทำให้เป็นที่ประจักษ์ หรือสรุปคดีความทุกคดีได้ก็เพราะความสามารถของพล.ต.อ.จักรทิพย์ และทีมงาน ตนเป็นเพียง ผู้มอบนโยบายเท่านั้น ผู้ปฏิบัติอย่างแท้จริง ผู้ดำเนินการคือพล.ต.อ.จักรทิพย์ ทีมงาน และผู้ใต้บังคับบัญชาคนอื่นๆ ตนต้องขอขอบคุณพล.ต.อ.จักรทิพย์ กองบัญชาการตำรวจ นครบาล (บช.น.) กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง (บช.ก.) ตลอดจนผบช.ทุกภาคที่ได้ร่วมมือร่วมใจกันทำงาน รวมทั้งเพื่อนข้าราชการตำรวจที่ได้ตั้งใจปฏิบัติหน้าที่อย่างเต็มที่จนทำให้ภารกิจหรือนโยบายของตนลุล่วงและสำเร็จ คดีความต่างๆ ตนเชื่อมั่นว่าพล.ต.อ.จักรทิพย์จะทำให้ดียิ่งขึ้นไป คดีต่างๆ ที่ค้างคาจะต้องเรียบร้อยให้จนได้

      ด้านพล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวว่า วันที่ 4 ต.ค.นี้จะมอบนโยบายให้กับข้าราชการตำรวจ ในส่วนของตนมีแค่ 6 ข้อนโยบายในการบริหารราชการสำนักงานตำรวจแห่งชาติในพ.ศ.2559 ทั้งนี้นโยบายของตนตามแนวทางของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ส่วนใหญ่เน้นเรื่องของประชาชนทั้งสิ้น เราถือว่าเราเป็นตำรวจดูแลทุกข์สุขของประชาชน วันนี้ตนเชื่อว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจทุกคนเมื่อชี้แจงนโยบายไปแล้วต้องนำไปขับเคลื่อนให้เป็นรูปธรรม ส่วนการปราบปรามอาชญากรรม ในฐานะที่เติบโตมาด้านนี้ เมื่อมาดำรงตำแหน่ง ผบ.ตร. จะทำให้ครบทุกมิติ ไม่ว่าเรื่องความมั่นคง การถวายความปลอดภัย การป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ปัญหายา เสพติด แม้กระทั่งความสามัคคีและบำรุงขวัญผู้ใต้บังคับบัญชาด้านสวัสดิการ

       พล.ต.อ.จักรทิพย์กล่าวอีกว่า วันที่ 1 ต.ค.เป็นวันแรกที่ได้ดำรงตำแหน่งผบ.ตร.อย่างเป็นทางการ จะเดินทางมาทำงานที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติตามปกติ และ ประชุมรองผบ.ตร. และผู้ช่วยผบ.ตร. เพื่อรับฟังการแบ่งหน้าที่ในการทำงาน ทั้งนี้ปัญหาอุปสรรคในการดำรงตำแหน่งคงมีอยู่ เมื่อเกิดปัญหาใดขึ้นก็ต้องแก้ไข ตนไม่ได้เป็นคนหนีปัญหา ทั้งนี้การนำเจ้าหน้าที่ตำรวจแยกออกจากการเมือง ตนทำแน่นอน ตนบอกทุกครั้งที่ถูกสัมภาษณ์ว่า คนเราอยู่กันเป็นหมู่คณะ อยู่กันอย่างยาวนานก็มีการรวมกัน สักพักก็แตกกัน อยู่กันไปอีกก็กลับมารวมกันอีก หลังจากนี้จะทำให้ตำรวจกลับมารวมกันอีกครั้ง

      จากนั้นพล.ต.อ.สมยศพร้อมด้วยนายตำรวจที่เกษียณอายุราชการ อาทิ พล.ต.อ. วรพงษ์ ชิวปรีชา พล.ต.อ.เรืองศักดิ์ จริตเอก รองผบ.ตร. พล.ต.อ.อำนาจ อันอาตม์งาม ที่ปรึกษา สบ 10 เดินจากห้องจัดเลี้ยงสารสิน เข้าสู่บริเวณห้องโถงที่มีนายตำรวจทั้งชายและหญิงยืนตั้งแถวมอบดอกกุหลาบ บรรยากาศเต็มไปด้วยความอบอุ่น ทั้งนี้ก่อนที่พล.ต.อ. สมยศจะขึ้นรถออกจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ พร้อมกับนางพจมาน พุ่มพันธุ์ม่วง ภริยา นางบุษบา ภริยา พล.ต.อ.จักรทิพย์ มอบดอกกุหลาบที่ถืออยู่ในมือทั้งหมดให้กับพล.ต.อ. สมยศ ซึ่งพล.ต.อ.สมยศกล่าวแซวกลับว่า ไม่ให้พล.ต.อ.จักรทิพย์ บ้าง ระหว่างนั้นพล.ต.อ. สมยศหยิบดอกกุหลาบที่นางบุษบามอบให้ขึ้นมา 1 ดอก ยื่นให้กับพล.ต.อ.จักรทิพย์ ท่ามกลางรอยยิ้มและเสียงหัวเราะ

     ขณะที่ ว่าที่พล.ต.อ.ประวุฒิ ถาวรศิริ ผู้ช่วยผบ.ตร. ที่ได้รับแต่งตั้งเป็นที่ปรึกษา สบ 10 เข้าโอบกอดพล.ต.อ.สมยศ ผู้บังคับบัญชาที่เป็นเพื่อนร่วมรุ่นนรต.31 ด้วยอาการน้ำตาคลอ ก่อนจับมือกัน จากนั้นนายตำรวจร่วมกันยืนส่งพล.ต.อ.สมยศขึ้นรถออกไปจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดยมีเจ้าหน้าที่ตำรวจยืนปรบมือส่งอดีตผบ.ตร.อย่างสมเกียรติ จนลับตาจากประตูสำนักงานตำรวจแห่งชาติ

      ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา ผบ.ตร. มอบหมายหน้าที่หรือแบ่งงานให้รองผบ.ตร.ถึงผู้ช่วยผบ.ตร.และเทียบเท่า โดยแบ่งงานเป็น 10 สายงาน คือ งานบริหาร 1(บร.1) ด้านพัสดุ พลาธิการ กำลังพล มอบหมายพล.ต.อ.สุพร พันธุ์เสือ รรท.รองผบ.ตร. เป็นรองผบ.ตร.บร.1, พล.ต.ท.เจษฎา อินทรสถิตย์ รรท.ที่ปรึกษา(สบ 10) บร.11, พล.ต.ท.รุ่งโรจน์ แสงคร้าม เป็นผู้ช่วยผบ.ตร.บร.12, พล.ต.ท.ธรรมศักดิ์ วิชชารยะ เป็นรรท.ผู้ช่วยผบ.ตร.บร.13, พล.ต.ท.ศักดา ชื่นภักดี เป็นรรท.ผู้ช่วยผบ.ตร.บร.14

       สายงาน บร. 2 ด้านการเงิน อบรม และวินัย มอบหมายพล.ต.อ.ชัยยง กีรติขร รรท.รองผบ.ตร. เป็นรองผบ.ตร.บร.2, พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา รรท.ที่ปรึกษา(สบ10) บร.21, พล.ต.ท.สุวิระ ทรงเมตตา ผู้ช่วยผบ.ตร. บร.22, พล.ต.ท.พิสิฏฐ์ พิสุทธิศักดิ์ รรท.ผู้ช่วยผบ.ตร. บร.23 และพล.ต.ท.ปิยะ สอนตระกูล รรท.ผู้ช่วยผบ.ตร. บร.4

      สายงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม (ปป.1) ดูแลบช.น., บช.ภาค 1, 2, 7 และบช.ก. เว้นบก.ทท., บก.ทล. และบก.ปอท. รวมทั้งงานยาเสพติดในพื้นที่ มอบหมายพล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ เป็นรองผบ.ตร.ปป.1, พล.ต.ท.ปัญญา มาเม่น รรท.ที่ปรึกษา(สบ10) ปป.11, พล.ต.ท.สุวิระ ผู้ช่วยผบ.ตร.ปป. 12, พล.ต.ท.คำรบ ปัญญาแก้ว ผู้ช่วยผบ.ตร. ปป.13 และพล.ต.ท.อนันต์ ศรีหิรัญ รรท.ผู้ช่วยผบ.ตร.ปป.14

      สายงาน ปป.2 ดูแล บช.ภาค 3, 5 และ 8 กองแผนงานอาชญากรรม สยศ.ตร., งานสพฐ. และยาเสพติดในพื้นที่ มอบหมายพล.ต.อ. เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน เป็นรองผบ.ตร.ปป.2, พล.ต.ท.หาญพล นิตย์วิบูลย์ รรท.ผู้ช่วยผบ.ตร.ปป.21, พล.ต.ท.พิสิฏฐ์ รรท.ผู้ช่วยผบ.ตร.ปป.22, พล.ต.ท.ปิยะ รรท.ผู้ผบ.ตร.ปป.23, พล.ต.ท.เดชา ชวยบุญชุม รรท.ผู้ช่วยผบ.ตร.ปป.24

       สายงาน ปป.3 ดูแลบช.ภาค 6, งานสพฐ. และยาเสพติดในพื้นที่ มอบหมายพล.ต.ท.วินัย ทองสอง รรท.รองผบ.ตร.ปป.3, พล.ต.ท.กวี สุภานันท์ ผู้ช่วยผบ.ตร.31, พล.ต.ท.โสภณ พิสุทธิวงษ์ ผู้ช่วยผบ.ตร.ปป.32, พล.ต.ท.ธีระศักดิ์ กลิ่นพงษา ผู้ช่วยผบ.ตร.ปป.33 และ พล.ต.ท.สุชาติ ธีระสวัสดิ์ รรท.ผู้ช่วยผบ.ตร.34

       งานสายกฎหมาย(กม.) มอบหมายพล.ต.อ.สุพร รรท.รองผบ.ตร.กม., พล.ต.ท. สุเทพ เดชรักษา รรท.ที่ปรึกษา(สบ10)กม.1, พล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล รรท.ผู้ช่วยผบ.ตร.กม.2, พล.ต.ท.กวี ผู้ช่วยผบ.ตร. กม.3 และพล.ต.ท.ธีระศักดิ์ ผู้ช่วยผบ.ตร.กม. 4

       งานความมั่นคง(มค.) กำกับกดูแลสตม., ตชด., ศชต., บช.ส., ศปก.ตร.สน.จ.ยะลา, บก.อารักขาและการฝึก บช.น. มอบหมายพล.ต.ท.เดชณรงค์ รรท.เป็นที่ปรึกษา(สบ10)มค., พล.ต.ท.ศรีวราห์ รรท.ผู้ช่วยผบ.ตร.มค.1, พล.ต.ท.สุชาติ รรท.ผู้ช่วยผบ.ตร.มค.2 และผบ.ศปก.ตร.สน. มอบหมายพล.ต.ท.ธรรมศักดิ์ รรท.ผู้ช่วยผบ.ตร.มค.3, พล.ต.ท.อรรถชัย เกิดมงคล รรท.ผู้ช่วยผบ.ตร.มค.4 และพล.ต.ท.เดชา รรท.ผู้ช่วยผบ.ตร.มค.5

        งานต่างประเทศ กำกับตท., ไอเลีย บก.จร., บก.ทล.(ในงานอาเซียน และต่างประเทศ), บก.ทท. มอบหมายพล.ต.อ.วุฒิ ลิปตพลลภ เป็นรองผบ.ตร.ตท., พล.ต.ท.สุเทพ เป็นรรท.ที่ปรึกษาสบ10 ตท.1, พล.ต.ท.คำรบ ผู้ช่วยผบ.ตร.ตท.2, พล.ต.ท.นเรศ นันทโชติ รองจตช. งานตท.3 และพล.ต.ท.ศักดา รรท.ผู้ช่วยผบ.ตร.ตท.4

       งานกิจการพิเศษ และจราจร กำกับบก.จร., บก.อคฝ., บก.ป.(ในงานถวายความปลอดภัย), บก.ทล. และบก.ปอท. มอบหมายพล.ต.ท.ประวุฒิ รรท.ที่ปรึกษา(สบ.10)กศ., พล.ต.ท.คำรบ ผู้ช่วยผบ.ตร.กศ.1, พล.ต.ท.โสภณ ผู้ช่วยผบ.ตร.กศ.2, พล.ต.ท.นเรศ รองจตช.กศ.3 และพล.ต.ท.อนันต์ รรท.ผู้ช่วยผบ.ตร.กศ. 4

      งานนรป. มอบหมายพล.ต.อ.ไตรรัตน์ อมาตยกุล หน.นรป., พล.ต.ท.ศตวรรษ หิรัญบูรณะ รองหน.นรป.

     งานศปก.ตร. มอบหมายพล.ต.ท.เดชณรงค์ เป็นหัวหน้า, พล.ต.ท.รุ่งโรจน์, พล.ต.ท.อรรถชัย และพล.ต.ท.ศักดา เป็นผู้ช่วย

       งานจเรตำรวจ มอบหมายพล.ต.อ.ชัยยะ ศิริอำพันธ์กุล รรท.จตช.เป็นหัวหน้า, พล.ต.ท.นเรศ และพล.ต.ท.อนุรุต เป็นรองจตช.

       นอกจากนี้ พล.ต.อ.จักรทิพย์ยังมอบหมายให้รองผบ.ตร.-ผู้ช่วยผบ.ตร. กำกับดูแลศูนย์ปราบปรามอาชญากรรมพิเศษ ดังนี้ พล.ต.อ. พงศพัศเป็นผอ.ศูนย์ปราบปรามการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และศูนย์อำนวยการปราบปรามยาเสพติด ตร., พล.ต.อ.วุฒิเป็นผอ.ศูนย์ปฏิบัติการปราบปรามคนร้ายข้ามชาติ และศูนย์อาเซียน, พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติเป็นผอ.ศูนย์ปราบปรามการกระทำผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, พล.ต.อ. สุพรเป็นผอ.ศูนย์คนหายและศพนิรนาม, พล.ต.อ.ชัยยงเป็นผอ.ศูนย์ปราบปรามสินค้าทางน้ำ, พล.ต.อ.ชัยยะเป็นผอ.ศูนย์ปราบปรามน้ำมันเถื่อน, พล.ต.ท.วินัยเป็นผอ.ปราบปราบการโจรกรรมรถ, พล.ต.ท.หาญพลเป็นผอ.ศูนย์ปราบปรามผู้มีอิทธิพล และพล.ต.ท.ศรีวราห์ เป็นผอ.ศูนย์ปราบปรามการค้ามนุษย์

จับเข่า-เปิดใจ ผบ.ตร.ป้ายแดง เพิ่มต้นทุนให้ตร.

  • มติชนออนไลน์ :
  •      พล.ต.อ.จักรทิพย์ ชัยจินดา หรือ 'บิ๊กแป๊ะ' คือผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ขึ้นแท่น'ผู้นำเหล่าสีกากี' เต็มตัวตั้งแต่วันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ด้วยวัยเพียง 55 ปี'มติชน' มีโอกาสสัมภาษณ์พิเศษถึงแนวทางการทำงาน

    @เน้นนโยบายใดเป็นสำคัญ

        เอาประชาชนเป็นตัวตั้ง แต่การพิทักษ์ปกป้อง เทิดพระเกียรติ จงรักภักดีต่อสถาบันต้องทำเป็นอันดับแรก ผมให้ความสำคัญที่สุด วันที่ 4 ตุลาคม จะมอบนโยบายที่ส่วนใหญ่เน้นว่าเราต้องทำเพื่อประชาชน ตำรวจเป็นอาชีพที่มีต้นทุนทางสังคมต่ำมาก เพราะฉะนั้นจะทำอย่างไรให้ตำรวจมีจุดยืนในสังคม ต้องทำทุกวิถีทางแก้ปัญหาทุกอย่าง อะไรที่เป็นภาพลบต่อองค์กร พยายามทำเต็มที่ในเรื่องป้องกันปราบปรามอาชญากรรม ยาเสพติด ทุกๆ เรื่องที่เกี่ยวข้องกับประชาชน 

    @สังคมคาดหวังกับฉายามือปราบมือสืบสวน

        ผมไม่อยากให้ทุกคนคาดหวังสูงขนาดนั้น แต่จะทำให้ดีที่สุด ผมเลือกรอง ผบ.ตร. ที่ปรึกษา (สบ 10) แต่ละท่านมารับผิดชอบหน้างานต่างๆ ด้วยตัวเอง ให้รองฯ แต่ละคนไปเลือกผู้ช่วยของแต่ละแท่ง แต่ละหน้างาน เขาจะได้รู้มือ วางใจ บริหารจัดการกันได้คล่องตัว เพราะฉะนั้นเวลาตำหนิ ผมตำหนิรอง ผบ.ตร.แต่ละคน

        ผมดูแลภาพรวมอย่างเดียวพอแล้ว งานด้านยาเสพติด ยุบไปอยู่กับงานป้องกันปราบปรามอาชญากรรม (ปป.) เพราะต้องเดินคู่กันไป ขณะนี้ผมแยกหน้างานออกมา 10 ด้าน คือ บริหาร (บร.) 1 บร.2 ปป.1 ปป.2 ปป.3 จเรตำรวจแห่งชาติ ความมั่นคง ต่างประเทศ จราจร และกฎหมาย 

        สาย ปป.1 วางตัว พล.ต.อ.พงศพัศ พงษ์เจริญ รอง ผบ.ตร. มีความอาวุโส และเชื่อว่ามีศักยภาพ มีความรู้ ประสบการณ์ ที่เกี่ยวข้องกับพี่น้องประชาชนอยู่แล้ว 

         รู้วิธีจะบริหารจัดการหน่วย ให้ พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน เป็นรอง ผบ.ตร. ปป.2 พล.ต.ท.วินัย ทองสอง เป็นรอง ผบ.ตร. ปป.3 

         ด้านความมั่นคงให้ พล.ต.ท.เดชณรงค์ สุทธิชาญบัญชา ว่าที่ที่ปรึกษา (สบ 10) จริงๆ ผมต้องควบความมั่นคงเองด้วยซ้ำ เมื่อพล.ต.ท.ศรีวราห์ รังสิพราหมณกุล ผบช.น. ขึ้นมาเป็นรอง ผบ.ตร. จะรับผิดชอบด้านความมั่นคงแทน ให้ พล.ต.ท.ประวุฒิ ถาวรศิริ ว่าที่ที่ปรึกษา (สบ 10) ดูด้านจราจร พล.ต.อ. วุฒิ ลิปตพัลลภ รอง ผบ.ตร. ที่ดูแลเรื่องการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียนมาตลอด ดูงานแท่งใหม่ ด้านต่างประเทศ สิ่งที่มอบนโยบายไปรองทุกคนต้องไปขับเคลื่อน ไปไล่บี้กองบัญชาการ กองบังคับการ 

         ผมมีความคิดไม่เหมือนคนอื่นๆ ดูตัวคนแล้วผมรู้ว่าจะทำอะไร ผมได้เปรียบ คือผมรู้จักคน รู้ตัวคน ผมรู้ว่าใครถนัดอะไร ผมไม่ได้ดูว่าใครอยู่ฝั่งไหน ไม่ใช่นะ ยุคนี้ไม่เอา ผมต้องรับผิดชอบองค์กร ต้องให้โอกาสผมทำงาน ชัดเจน จะตำหนิมาตำหนิที่ผม เมื่อวางตัวนักกีฬาแล้วต้องทำประตูให้ได้ เหมือนรักบี้ฟุตบอลต้องทำประตู ในทีมกีฬานี้ผมเป็นผู้จัดการทีม เป็นเจ้าของ เป็นโอว์นเนอร์ ท่านพงศพัศท่านอื่นๆ เป็นผู้จัดการทีม ผบช. ผบก. เป็นนักกีฬา ไม่รู้ใครแพ้-ชนะแต่อีก 6 เดือน 3 เดือนต้องรู้ ใครขับเคลื่อนนโยบายได้หรือไม่ต้องรู้

    @งานจราจรสร้างทั้งภาพบวกและภาพลบมานาน

         ทราบมานานแล้วว่า ภัยคุกคามของอาชีพตำรวจ มี 2-3 ส่วน คือ งานสอบสวน งานจราจรในงานสอบสวน พบว่าคนที่ได้รับความทุกข์มาโรงพัก ทำไมติดต่อยาก นัดพนักงานสอบสวนเช้ามาบ่าย อันนี้เสียภาพลักษณ์ ต้องปรับแก้ ผมตั้งใจมอบนโยบายในส่วนนี้ในวันที่ 4 ตุลาคม ให้ลงไปกำกับดูแลให้เข้มข้น ไปโรงพักทำไมต้องฝาก ให้ทุกคนได้รับบริการเสมอภาค นี่ไงจึงต้องให้รอง ผบ.ตร. ที่ดูด้าน ปป. ดูพื้นที่ต่างๆ เช่น พล.ต.อ.พงศพัศไปปรับทัศนคติว่าควรจะเดินแบบไหนในยุคปัจจุบัน เชื่อว่าที่ผ่านมาเป็นปัญหาส่วนบุคคล จากนี้ต้องปรับทัศนคติเน้นการบริการประชาชนเป็นหลัก 

         อีกภัยคุกคาม คือ ด้านจราจร นโยบายผมอันไหนถ้าผิดจริง ผิดชัดให้จับเลย แต่กรณีที่ 50/50 ก้ำกึ่ง คาบลูกคาบดอก ควรตักเตือน ไม่ให้เกิดภาพลักษณ์ไม่ดีว่าถูกจับอีกแล้ว เสียตังค์อีกแล้ว สิ่งเหล่านี้จะกำชับจราจรทุกโรงพัก ทุกหน่วย อะไรที่ตักเตือนได้เอาประชาชนมาเป็นพวก ให้เขารู้ว่าตำรวจโอเค ไม่มีภาพลักษณ์เดิมๆ ดักจับ สุ่มจับก็อีกปัญหาหนึ่ง จริงๆ ไม่อยากให้มี จะสั่งการให้ลด 

         ภัยคุกคามอีกเรื่องคือการเรียกรับผลประโยชน์ เป็นพฤติกรรมส่วนตัว ต้องเรียกมาปรับทัศนคติ เดี๋ยวเข้าประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน ต่างชาติเข้ามาโอกาสมันเยอะ ล่อแหลม เป็นภัยคุกคามที่จะทำให้เราเสียชื่อเสียง มีต้นทุนทางสังคมต่ำอยู่แล้ว อยากให้อยู่อย่างมีศักดิ์ศรี มีที่ยืน ให้เขาเห็นบ้างว่าตำรวจดีก็แบบที่เห็นอกเห็นใจกัน

    @รอง ผบ.ตร. ผู้ช่วย ผบ.ตร. ผบช. ส่วนใหญ่ล้วนเป็นรุ่นพี่จะบริหารอย่างไร

          ศักยภาพของผม ผมปกครองรุ่นพี่มาตลอด สมัยเป็น ผบช.น. รุ่นพี่อยู่ในการดูแลทั้งนั้น เป็นผู้ใต้บังคับบัญชา ปกครองหน่วยมาไม่มีปัญหา ผมอยู่กับพี่ๆ ผมมี 2 สถานะ สถานะที่ 1 เป็นผู้บังคับบัญชาพี่ สถานะที่ 2 ผมเป็นน้องพี่ ในสถานะที่ 1 เมื่อเป็นผู้บังคับบัญชาพี่ ผมสั่งการอะไรไป มอบนโยบายไป พี่ๆ ต้องทำ สถานะที่ 2 ผมเป็นน้องพี่ ผมให้ความเคารพ ในทำนองเดียวกันพี่ก็ควรเกรงใจ ช่วยผมทำงาน ผมมีเท่านั้นในการปกครอง ให้พี่ๆ ทุกคนได้เลือกตัว หยิบคนไปทำงาน เพราะฉะนั้นเชื่อว่าการปกครองบังคับบัญชาองค์กรตำรวจในยุคที่ผมจะเป็นผู้นำไม่น่าจะมีปัญหา เน้นเรื่องความสามัคคี เขียนไว้ในนโยบาย 

    @ในฐานะเป็น สนช.ด้วยมีแนวคิดต่อการปฏิรูปตำรวจอย่างไร

          ควรเลิกพูดได้แล้ว เรื่องนี้รัฐบาลรับผิดชอบดำเนินการอยู่ ไม่ควรจะพูดแล้ว รอรับนโยบายมาสานต่อ

    @ตำรวจส่วนหนึ่งไม่ยอมรับการปฏิรูปโดยคนนอก อยากปฏิรูปตัวเอง

          การปฏิรูปตำรวจต้องแฟร์ ผมรับฟังความเห็นคนนอก แต่คนนอกอย่าเอาเรื่องส่วนตัวของตำรวจที่ทำผิดเล็กๆ น้อยๆ แล้วมาปฏิรูป ทำเรื่องเล็กเป็นเรื่องใหญ่ เช่นตำรวจเรียกรับผลประโยชน์ บริการช้า แล้วมาปรับโครงสร้าง โครงสร้างตำรวจหากไม่ดีมันเจ๊งไปนานแล้ว ยังเชื่อว่าโครงสร้างตำรวจอาจปรับได้ เล็กๆ น้อยๆ แต่ควรปรับพฤติกรรมตำรวจเสียส่วนใหญ่ 

    @แนวทางปราบปรามผู้มีอิทธิพล มาเฟีย ขาใหญ่

          พวกนี้ไม่กล้ายุ่งกับผมอยู่แล้ว ผมทำงานมาตลอด พวกนี้รู้จักผม เขาควรรู้ว่าเมื่อผมอยู่ตรงนี้เขาควรทำอะไร รองแป๊ะขึ้นมา เขาต้องทำอะไร เขารู้ว่าผมเอาจริง เมื่อได้รับความไว้วางใจ ต้องทำให้ดี ผมรับผิดและชอบและไม่เคยหนีปัญหา มีแต่แก้ปัญหา ปัญหาทุกทางมีทางออก ไม่ใช่ทางออกทุกทางมีปัญหา

    @เป็น ผบ.ตร.เต็มตัว จะพูดอะไรกับตำรวจกับประชาชนให้เชื่อมั่น

         อยากพูดให้กำลังใจตำรวจ การรับราชการอาชีพตำรวจมันหนักอยู่แล้ว สิ่งที่ตำรวจต้องการคือกำลังใจ ดุด่าว่ากล่าวได้ แต่ต้องให้กำลังใจกัน ไม่ใช่จ้องจับผิด สิ่งที่ประชาชนอยากได้จากตำรวจคือการเอื้ออาทรกัน ไม่ใช่เป็นศัตรูกัน อันไหนที่ผิดก็ดำเนินการไป ไม่ผิดก็อะลุ้มอล่วย ตักเตือนพูดจากัน 

          อยากให้ตำรวจเป็นที่รักของประชาชน เพียงแต่ต้นทุนของตำรวจค่อนข้างต่ำ ผมพยายามเพิ่มต้นทุนทางสังคมให้ สิ่งที่คิดไว้หลายโครงการ ขณะนี้กำลังรวบรวมข้อมูลว่าโรงพยาบาลในกรุงเทพฯ มีรถพยาบาล

          ทั้งสิ้นกี่คัน เพื่อให้มาอยู่สารบบสายด่วน 191 เช่น บ้านโซนบางแค โทรเข้า 191 ตำรวจช่วยประสานรถพยาบาลบางแค ไปช่วยได้ทันที นี่คืองานบริการที่ผมพยายามทำเพื่อประชาชนทั้งนั้น 

          ผมถึงให้ พล.ต.อ.พงศพัศมาดูงานปราบปราม เพราะท่านมีประสบการณ์ ศักยภาพส่วนตัว และมีภาพลักษณ์ที่ชาวบ้านโอเค

    apm

     

     

    Facebook

    5 ข่าวฮอตนิวส์!