Details

Category: ปปง.

Published: Saturday, 28 June 2014 16:52

Hits: 12412

วันที่ 28 มิถุนายน พ.ศ. 2557 ปีที่ 24 ฉบับที่ 8613 ข่าวสดรายวัน

บุกยึดทรัพย์สาว โกงภาษี 4 พันล้าน ทั้งบ้าน-โรงแรม

อายัด - ปปง.และตำรวจเข้าตรวจค้นบ้านพักภายในซอยแจ้งวัฒนะ 10 เขตหลักสี่ กทม. ของนางพัชรี ศิริโชติ ล็อบบี้ยิสต์สาว หนึ่งในผู้ต้องสงสัยคดีโกงภาษีกว่า 4,000 ล้านบาท พร้อมยกตู้เซฟไปตรวจสอบ เมื่อวันที่ 27 มิ.ย.

      ปปง.นำตำรวจลุยค้น 4 จุดทั้งกทม.-นนทบุรี-ปากช่อง ล่าตัวสาวเปิดบริษัทล็อบบี้ยิสต์ ร่วมกับพวกโกงภาษีมูลคาเพิ่ม เป็นเงินถึง 4 พันล้านบาท สาวรู้ทันขับรถหนีออกจากบ้านรอดหวุดหวิด เลขาฯ ปปง.เผยอายัดทรัพย์ไว้ตรวจสอบ ทั้งบ้านพัก โรงแรมหรูที่ปากช่อง คอนโดฯ และรถยนต์ คิดเป็นมูลค่า 500 ล้านบาท

     เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. พ.ต.อ.สีหนาท ประยูรรัตน์ เลขาธิการสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) พร้อมเจ้าหน้าที่ ปปง. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ สน.ทุ่งสองห้อง นำหมายศาลอาญา เข้าตรวจค้นบ้านพักเลขที่ 99/699 และเลขที่ 99/499 หมู่ 2 ซอยแจ้งวัฒนะ 10 แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. ซึ่งเป็นที่ตั้ง บริษัท ไฮสแตนดาร์ท มาร์เก็ตติ้ง จำกัด และเป็นบ้านพักของนางพัชรี ศิริโชติ นาง น้ำทิพย์ ซึ่งเป็นมารดา และนางนุชนารถ ศิริโชติ น้องสาว หลังเจ้าหน้าที่สืบทราบ นางพัชรีเป็นเครือข่ายโกงภาษีมูลค่าเพิ่ม ที่ร่วมกับนายวีรยุทธ แซ่หลก ผู้ต้องหาตั้งบริษัทส่งออกเหล็ก แล้วโกงภาษีมูลค่าเพิ่มไปเป็นเงินกว่า 4,300 ล้านบาท ซึ่งเจ้าหน้าที่ ปปง.ได้ยึดอายัดทรัพย์สินของนายวีรยุทธ ไปก่อนแล้ว 2 ครั้ง คิดเป็นมูลค่ากว่า 132 ล้านบาท 

จากการเข้าตรวจค้น เจ้าหน้าที่พบเพียงนางน้ำทิพย์ และบุตรชายของนางพัชรี รวมทั้งคนรับใช้เท่านั้น ส่วนนางพัชรีขับรถหลบหนีออกจากบ้านพักไปก่อนที่คณะ ปปง.และตำรวจจะไปถึง ภายในบ้านพบตู้เซฟขนาดใหญ่ 2 ใบ เครื่องคอมพิวเตอร์ และรถยนต์หรูจอดอยู่ 4 คัน จึงอายัดนำกลับไปตรวจสอบที่สำนักงาน ปปง.

เวลา 11.30 น. วันเดียวกัน พ.ต.อ.สีหนาทพร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ปากช่อง จ.นคร ราชสีมา นำหมายศาลเข้าตรวจค้นโรงแรม เดอะฮิลล์ ปากช่อง หรือชื่อเดิม ปากช่อง แลนด์มาร์ก เลขที่ 151/1 ถนนมิตรภาพ เขตเทศบาลเมืองปากช่อง โรงแรมหรูใจกลางเมืองปากช่อง ที่น.ส.พัชรี และน.ส.นุชนภาเป็นกรรมการบริษัท จดทะเบียนในนาม บริษัท ดีแลนด์ เพอร์เฟต จำกัด ซึ่งจดทะเบียน ตั้งบริษัทเมื่อ วันที่ 5 ม.ค. 2549 มีหนังสือรับรองเลขที่ 0105549000953 เจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นในห้องสำนักงานชั้น 2 พบตู้เซฟขนาดใหญ่ 1 ใบ จึงยึดอายัดไปตรวจสอบ ส่วนบรรยากาศที่โรงแรม ก็ยังมีลูกค้ามาใช้บริการตามปกติ 

พ.ต.อ.สีหนาทเปิดเผยว่า ปปง.พบหลักฐานว่านางพัชรีเปิดบริษัทล็อบบี้ยิสต์ ทำหน้าที่เป็นล็อบบี้ยิสต์ ร่วมกับนายวีรยุทธ โกงภาษีมูลค่าเพิ่ม การเข้าตรวจค้นวันนี้ที่บ้านพักนางพัชรี ได้ยึดอายัดทรัพย์สินประกอบด้วยบ้านพัก 2 หลังที่ปลูกติดกัน เงินฝากในบัญชีธนาคารประมาณ 100 ล้านบาท รถยนต์หรู 4 คัน มีรถยนต์ฟอร์ด รุ่นเฟียสต้า ป้ายแดง สีดำ ทะเบียน ณ 9919 กทม. รถยนต์เมอร์เซเดส-เบนซ์ สีดำ ทะเบียน วว 9000 กทม. รถยนต์ปอร์เช่ สีดำ ทะเบียน ฉย 555 กทม. และรถยนต์ฮอนด้า รุ่นฟรีด สีขาว ทะเบียน ชม 9000 กทม.

พ.ต.อ.สีหนาทกล่าวต่อว่า นอกจากนั้น ยังยึดอายัดตู้เซฟขนาดใหญ่ 2 ตู้ไปตรวจสอบ หลังสอบถามรหัสเปิดตู้เซฟจากเจ้าของบ้านแล้วถูกปฏิเสธ นอกจากการเข้าค้นบ้านพักแล้ว เจ้าหน้าที่ ปปง.ยังเข้าตรวจค้นทรัพย์สินที่ได้มาจากการโกงภาษีอีก 3 จุด คือบ้านพักอาศัยที่ถนนราชพฤกษ์ อ.บางใหญ่ จ.นนทบุรี อาคารชุดคอนโดมิเนียมหรู ย่านสาทร มูลค่าประมาณ 34 ล้านบาท และที่โรงแรมเดอะฮิลล์ ปากช่อง ชื่อเดิมโรงแรมปากช่อง แลนด์มาร์ก มูลค่าประมาณ 100 ล้านบาท โดยอายัดตู้เซฟได้อีก 1 ใบ รวมทรัพย์สินของนางพัชรี ที่ยึดอายัดได้ขณะนี้ทั้งหมด คิดเป็นมูลค่าแล้วประมาณ 300 ถึง 500 ล้านบาท 

พ.ต.อ.สีหนาทยังกล่าวด้วยว่า แนวทางการสืบสวนพบว่า นางพัชรีเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคดีโกงแวต ซึ่งจะมีการขยายผลไปยังบุคคลอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องด้วย คดีนี้ยังไม่จบง่ายๆ เชื่อว่ายังมีผู้เกี่ยวข้องอีก ส่วนจะมีเจ้าหน้าที่เข้าไปเกี่ยวข้องด้วยหรือไม่นั้น จะต้องมีการขยายผลต่อ เนื่องจากคดีของนายวีรยุทธ ที่มีอายุไม่ถึง 30 ปี แต่ใช้เวลาเพียง 2 ปี สามารถ โกงแวตสร้างความเสียหายให้ประเทศได้ถึง 4,000 ล้านบาท

พ.ต.อ.สีหนาทกล่าวต่อว่า คดีนี้ดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษ และออกหมายจับผู้ต้องหา 5 ราย คือ นายวีรยุทธ แซ่หลก หรือนายธนยุทธ ดลธนโกเศศ ผู้ต้องหาที่ 1 น.ส.สายธาร แซ่หลก ผู้ต้องหาที่ 2 นายสุรเชษฐ์ มหารำลึก ผู้ต้องหาที่ 3 นายประสิทธิ์ อัญญโชติ ผู้ต้องหาที่ 4 และนายกิตติศักดิ์ อัญญโชติ ผู้ต้องหาที่ 5 เมื่อวันที่ 31 ก.ค. 2556 ที่ผ่านมา 

พ.ต.อ.สีหนาทยังกล่าวว่า พฤติการณ์กลุ่มผู้ต้องหา จะรวบรวมสำเนาบัตรประชาชน จากชาวบ้านที่มีฐานะยากจน และรายได้น้อย นำไปจัดตั้งนิติบุคคล เปิดบริษัท 6-7 บริษัท โดยเชิญบุคคลอื่นเข้ามาเป็นกรรมการผู้มีอำนาจ จากนั้นก็ไปขึ้นทะเบียนต่อสำนักงานประกันสังคม โดยจ่ายค่าตอบแทนให้นอมินี รายละ 200-500 บาท แล้วออกหรือใช้ใบกำกับภาษีซื้อขายของ โดยไม่มีการซื้อขายกันจริงๆ ก่อนจะมาขอคืนภาษีมูลค่าเพิ่ม โดยมีการทำรายงานภาษีเท็จ ทั้งที่ไม่มีการประกอบกิจการจริง มีการยักย้ายถ่ายเทเงินภาษี ที่ขอคืนไปเข้าบัญชีอื่นๆ อีกหลายทอด เพื่อปกปิดอำพราง