- Details
- Category: CHINA
- Published: Sunday, 14 January 2024 00:14
- Hits: 9606
ไหล ชิงเต๋อ ผู้ขี้ระแวงจากจีน ชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีไต้หวัน
CNBC CHINA POLITICS : Clement Tan @CLEMTAN
ประเด็นสำคัญ
Lai Ching-te จาก DPP ได้รับคะแนนนิยมมากกว่า 40% ในขณะที่คู่แข่งของเขายอมรับ
ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีมีแนวโน้มที่จะทำให้ปักกิ่งโกรธเคือง
ปักกิ่งตราหน้าไหลหลายครั้งว่าเป็น “คนหัวแข็งเพื่อเอกราชของไต้หวัน” และเป็นผู้แบ่งแยกดินแดนที่เป็นอันตราย
นอกจากนี้ ยังมีความกังวลว่าสิ่งนี้อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์และความมั่นคงที่หนาวจัดระหว่างจีน-สหรัฐฯ ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่กว้างขึ้น
ก๊กมินตั๋งหรือ KMT ซึ่งเป็นหุ้นส่วนทางการเมืองที่ปักกิ่งชื่นชอบ ได้รับคะแนนเสียงประมาณ 33%
ผู้สนับสนุนพรรคประชาธิปไตย ก้าวหน้า (DPP) รอการประกาศผลอย่างเป็นทางการในการชุมนุมเมื่อวันที่ 13 มกราคม 2567 ที่กรุงไทเป ประเทศไต้หวัน
แอนนาเบลล์ ชิห์ | เก็ตตี้อิมเมจข่าว | เก็ตตี้อิมเมจ
ไทเป - พรรคประชาธิปไตยก้าวหน้าที่ปกครองไต้หวันชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีติดต่อกันเป็นสมัยที่ 3 อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน ขณะที่ผู้นำคนใหม่ ไหล ชิงเต๋อ ให้คำมั่นที่จะเปิดใจกว้างในแนวทางการปกครอง ขณะเดียวกันก็มุ่งมั่นที่จะสร้างฉันทามติในสภานิติบัญญัติที่แตกแยก
ผลการเลือกตั้งประธานาธิบดีเมื่อวันเสาร์นี้มีแนวโน้มจะสร้างความโกรธเคืองให้กับปักกิ่ง ซึ่งกล่าวซ้ำแล้วซ้ำเล่าว่า ไล ว่าเป็น ‘คนหัวแข็งเพื่อเอกราชของไต้หวัน’ และเป็นผู้แบ่งแยกดินแดนที่เป็นอันตราย ยังมีความกังวลว่าสิ่งนี้อาจส่งผลต่อความสัมพันธ์และความมั่นคงที่หนาวจัดระหว่างจีน-สหรัฐฯ ในภูมิภาคอินโดแปซิฟิกที่กว้างขึ้น โดยจีนได้เพิ่มกิจกรรมทางทหารในช่องแคบไต้หวันและน่านน้ำอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียง
“ในฐานะประธานาธิบดี ผมมีความรับผิดชอบสำคัญในการรักษาสันติภาพและเสถียรภาพในช่องแคบไต้หวัน” ไลกล่าวในการแถลงข่าว ในการแปลความคิดเห็นของเขาเป็นภาษาจีนกลางของพรรคอย่างเป็นทางการ
“ผมจะปฏิบัติตามคำสั่งตามรัฐธรรมนูญที่เป็นประชาธิปไตยและเสรีของเรา ในลักษณะที่สมดุลและรักษาสถานะข้ามช่องแคบที่เป็นอยู่” เขากล่าวเสริม “ภายใต้หลักการของศักดิ์ศรีและความเท่าเทียม เราจะใช้การแลกเปลี่ยนเพื่อแทนที่การกีดขวาง การเจรจาเพื่อแทนที่การเผชิญหน้า และนำเสนอการแลกเปลี่ยนและความร่วมมือกับจีนอย่างมั่นใจ”
พรรคคอมมิวนิสต์จีน ปฏิเสธที่จะมีส่วนร่วมกับประธานาธิบดีไช่ อิงเหวินที่กำลังจะพ้นตำแหน่งนับตั้งแต่เธอเข้ารับตำแหน่งในปี 2559 DPP ยังไม่ยอมรับสิ่งที่เรียกว่า ‘ฉันทามติปี 1992’ โดยโต้แย้งข้อตกลงโดยปริยายสำหรับ ‘จีนเดียว’ ระหว่าง KMT ในขณะนั้น รัฐบาลและเจ้าหน้าที่พรรคคอมมิวนิสต์จีน ซึ่งปักกิ่งถือเป็นพื้นฐานสำหรับการสู้รบข้ามช่องแคบ
Lai จาก DPP ซึ่งเป็นรองประธานคนปัจจุบันของไต้หวัน ได้รับคะแนนนิยมมากกว่า 40% ในการเลือกตั้งประธานาธิบดีครั้งที่ 8 ของไต้หวัน DPP เป็นพรรคแรกที่ชนะตำแหน่งประธานาธิบดี 3 ครั้งติดต่อกันนับตั้งแต่มีการเลือกตั้งประธานาธิบดีโดยตรงในปี 1996 ปักกิ่งวางกรอบการเลือกตั้งว่าเป็นทางเลือกระหว่าง’สันติภาพกับสงคราม ความเจริญรุ่งเรือง และความเสื่อมถอย’
ก๊กมินตั๋งหรือเคเอ็มที ซึ่งเป็นหุ้นส่วนทางการเมืองที่ปักกิ่งชื่นชอบ ได้รับคะแนนเสียงประมาณ 33% โดยมีโหว โหยวอี้ อยู่ในอันดับต้นๆ โค เหวินเจ อดีตนายกเทศมนตรีไทเปพูดตรงและบูดบึ้ง ซึ่งทำงานภายใต้ร่มธงของพรรคประชาชนไต้หวันที่ก่อตั้งในปี 2019 เท่านั้น ได้รับคะแนนเสียงเพียง 26%
ไหล ชิงเต๋อ ประธานาธิบดีผู้มีสิทธิเลือกตั้งของไต้หวัน (ซ้าย) ชูนิ้วโป้งข้างรองผู้สมัครชิงตำแหน่ง เซียว บีคิม ระหว่างการชุมนุมนอกสำนักงานใหญ่ของพรรคประชาธิปไตยก้าวหน้า (DPP) ในกรุงไทเป เมื่อวันที่ 13 มกราคม พ.ศ. 2567 หลังชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดี
ยาสุโยชิ ชิบะ | เอเอฟพี | เก็ตตี้อิมเมจ
แม้ว่า ผลลัพธ์ของการแข่งขันเพื่อควบคุมสภานิติบัญญัติ 113 ที่นั่งของไต้หวันยังไม่มีความชัดเจนมากนัก รัฐบาลใหม่ของไต้หวันก็จะเข้ามาจัดการอย่างเต็มที่ โดยผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่กังวลกับปัญหาเรื่องขนมปังและเนย โดยเฉพาะอย่างยิ่งค่าแรงที่ซบเซาในช่วงเวลาที่ค่าเช่าที่สูงขึ้นและราคาบ้านที่เลวร้ายลงจากอัตราเงินเฟ้อที่สูง
ปฎิบัติ
จำนวนผู้ลงคะแนนเสียงดูเหมือนจะน้อยเป็นอันดับสองนับตั้งแต่การเลือกตั้งประธานาธิบดีโดยตรงเริ่มขึ้นในไต้หวันเมื่อปี 2539 ในปีนี้ 71.9% ของผู้มีสิทธิเลือกตั้งทั้งหมดลงคะแนนเสียงสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดี ตามข้อมูลเบื้องต้นจากคณะกรรมการการเลือกตั้งกลางของไต้หวัน
จีนไม่เคยละทิ้งการอ้างสิทธิ์เหนือไต้หวัน ซึ่งปกครองตนเองมาตั้งแต่พรรคชาตินิยมจีนหรือก๊กมินตั๋ง หนีไปยังเกาะแห่งนี้ภายหลังความพ่ายแพ้ในสงครามกลางเมืองของจีนในปี 1949
ประธานาธิบดีสี จิ้นผิง ของจีน มองว่าการรวมตัวกับแผ่นดินใหญ่เป็น’สิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ทางประวัติศาสตร์’ สีบอกกับ โจ ไบเดนรัฐมนตรีต่างประเทศสหรัฐฯนอกรอบการประชุมสุดยอดผู้นำเอเปคเมื่อเดือนพฤศจิกายนว่า ไต้หวันเป็นประเด็นที่ ‘สำคัญและอ่อนไหวที่สุด ‘มาโดยตลอดในความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ
ไบเดนให้คำมั่นว่าจะปกป้องไต้หวันในกรณีที่จีนรุกราน ซึ่งเป็นจุดยืนที่สร้างความรำคาญให้กับปักกิ่ง
แนนซี เปโลซี อดีตประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ เยือนไต้หวันในปี 2565 และกลายเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงของสหรัฐฯ ที่ไปเยือนเกาะแห่งนี้ในรอบกว่า 2 ทศวรรษ การเดินทางของเธอเป็นเหตุผลหนึ่งที่การสื่อสารระหว่างสองมหาอำนาจชั้นนำของโลกต้องหยุดชะงักก่อนที่ จะเริ่มต้นใหม่อีกครั้งเมื่อไม่กี่เดือนก่อน
https://www.cnbc.com/2024/01/13/taiwan-2024-election-dpps-lai-ching-te-wins.html
