WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

7043 CIMBT 4Risks

4 ปัจจัยเสี่ยงฉุดเศรษฐกิจโตช้า กับ 4 ปัจจัยเร่งฟื้นตัวปีหน้า 

Slow But S.U.R.E.

CIMBTอมรเทพ4          ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ สำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า จากการระบาดของโควิด -19 ระลอก 3 ที่มีแนวโน้มยาวนาน ประกอบกับการฉีดวัคซีนล่าช้า หรือวัคซีนยังมีประสิทธิภาพไม่เต็มที่ มีผลต่อเนื่องให้การระบาดของโควิด-19 ระลอกอื่นๆ กำลังจะเกิดขึ้นตามมา

          ขณะเดียวกัน ไวรัสกลายพันธุ์ และปัจจัยการฟื้นตัวของตลาดโลก สำนักวิจัยฯ จึงได้ปรับประมาณการเศรษฐกิจปี 2564 ลงจาก 1.9% เหลือ 1.3% และปี 2565 ลงจาก 5.1% เหลือ 4.2%

          นอกจากเศรษฐกิจไทยจะเติบโตช้า (Slow) ยังเผชิญ 4 ปัจจัยเสี่ยงเสริมเข้ามา ได้แก่ 1. Stagnant 2. Uneven 3. Reverse 4. Effective จึงขอเรียกเศรษฐกิจไทยช่วงนี้ว่า Slow But S.U.R.E. 

          S = Stagnant นิ่ง เพราะการใช้จ่ายที่ ซึมและนิ่ง

          การบริโภคภาคเอกชนโตช้า จากความมั่นใจที่อยู่ระดับต่ำ คนไม่กล้าจับจ่ายใช้สอย จากความระมัดระวัง การเดินทางในประเทศยังซึม เพราะขาดความมั่นใจ และการแพร่ระบาดที่สูง

          U = Uneven ความไม่เท่าเทียม การฟื้นตัวในระดับที่ต่างกัน

          กลุ่มคนรายได้น้อย กลุ่ม SME กลุ่มคนประกอบอาชีพอิสระ ฟื้นตัวช้า ขณะที่มนุษย์เงินเดือน กลุ่มคนทำงานภาคอุตสาหกรรม ฟื้นตัวตามตลาดโลก ตามภาคการส่งออก ส่วนภาคการผลิต ฟื้นตัวได้มากกว่าภาคบริการ สำหรับประเทศไทยในภาพรวม ฟื้นตัวตามการส่งออก ได้มากกว่าอุปสงค์ในประเทศ

          R = Reverse กลับด้าน การเปลี่ยนมุมมองด้านโลกาภิวัตน์ (reversed globalization)

          สงครามการค้าสหรัฐ-จีน ทวีความกดดันขึ้นอีกครั้ง หลังเศรษฐกิจยักษ์ใหญ่ G7 ร่วมมือกันกดดันจีน ไม่ให้จีนเติบโตเป็นยักษ์ใหญ่แทนที่สหรัฐ และขยับจากสงครามการค้ารูปแบบภาษี เป็นกดดันการเติบโตทางเทคโนโลยีของจีน อีกทั้งขีดเส้นให้ชาติอื่นๆ ต้องเลือกข้าง ระหว่างสหรัฐ ชาติพันธมิตรสหรัฐ หรือจีน ส่งผลให้ประเทศตลาดเกิดใหม่ เผชิญปัญหาต้นทุนการผลิต ต้นทุนทางเทคโนโลยีสูงขึ้น เรามองว่า ประเทศไทยต้องระมัดระวัง ไม่เลือกข้าง และควรสานสัมพันธ์ความร่วมมือกับทั้ง 2 ชาติ มหาอำนาจ

          E = Effective ประสิทธิภาพของวัคซีน

          การวางแผนฉีดวัคซีนให้ถึง 100 ล้านโดส สิ่งที่ต้องติดตามเพิ่มเติมคือ วัคซีนที่เราได้รับวันนี้ สามารถป้องกันไวรัสกลายพันธุ์ได้หรือไม่ และหากฉีดครบ 2 โดสแล้ว จำเป็นต้องฉีดโดสที่ 3 ที่ 4 หรือโดสอื่นๆ เพื่อกระตุ้นต่อเนื่องไหม เราจึงอยากเห็นการวางแผนเพิ่มเติมในจุดนี้ รวมถึงเร่งดำเนินการเชิงรุกในการกระจายความเสี่ยงของชนิดวัคซีน เพราะนอกจากมีความสำคัญทางการแพทย์ วัคซีนยังมีผลต่อเศรษฐกิจด้วย วัคซีนสะท้อนความเชื่อมั่นของคน หากคนไม่มั่นใจในประสิทธิภาพ แม้ฉีดแล้วยังไม่กล้าเดินทาง หรือยังถอดหน้ากากไม่ได้ เดิมคาดว่ากิจกรรมเศรษฐกิจจะกลับมาเปิดได้ในเดือนสิงหาคมนี้ อาจถูกเลื่อนออกไป

          “4 ข้อนี้เป็นปัจจัยเสี่ยงที่จะทำให้เศรษฐกิจไทยปีนี้ ปีหน้า โตช้า กว่าที่คาดไว้ก่อนหน้า แต่ไม่รุนแรงถึงขั้นพาเศรษฐกิจไทยกลับไปสู่ภาวะวิกฤตดร.อมรเทพ กล่าว

          อย่างไรก็ดี ยังมีความหวังว่าเศรษฐกิจไทยจะฟื้นเร็วกว่าที่คาด หากมี 4 ปัจจัยเร่ง ได้แก่ 1. Confidence 2. Agriculture 3. Return of tourists 4. Expenditure 

          C = Confidence สร้างความเชื่อมั่น หากมีการเร่งฉีดวัคซีนโดยเร็ว ควบคู่ไปกับเอกชนเข้าถึงวัคซีนทางเลือกรวดเร็ว คนจะกลับมามีความเชื่อมั่นอีกครั้ง

          A = Agriculture ฟื้นแรงงานภาคเกษตร หลังปิดกิจกรรมเศรษฐกิจคนย้ายถิ่นฐานกลับบ้าน หากเร่งการฟื้นตัวของแรงงานกลุ่มนี้โดยเสริมการจ้างงานในชนบทให้สร้างสาธารณูปโภคในพื้นที่เพื่อกักเก็บน้ำและป้องกันน้ำท่วมได้ จะยิ่งเป็นแรงหนุน เพราะเป็นโชคดีที่รายได้ภาคเกษตรปีนี้ถือว่าดี จากราคาที่สูงและผลผลิตมาก​ 

          R = Return of Tourists เตรียมแผนรับนักท่องเที่ยวปีหน้าเร่งทำ​ Bubble Tourism กับต่างประเทศเพื่อลดการกักตัวสำหรับผู้ได้รับวัคซีนแม้ปีนี้เราจะเตรียมความพร้อมและทดลองผ่าน​ Sandbox แต่ปีหน้าหลังมีวัคซีนที่ดีพร้อมเราจะสามารถมีรายได้การท่องเที่ยวเป็นตัวหลักฟื้นเศรษฐกิจได้

          E = Expenditure เร่งการใช้จ่ายภาครัฐให้ตรงจุดบรรเทาปัญหาแรงงานด้วยการเร่งประกันสังคมชดเชยรายได้ดูแล SME ให้สามารถจ่ายเงินเดือนพนักงานมีค่าชดเชยรายได้ที่หายหรือเครดิตเงินคืนภาษีในปีต่อๆไป พร้อมเร่งอัดฉีด​ Soft Loan เสริมสภาพคล่องไม่ให้ธุรกิจต้องปิดตัวหากรัฐกังวลหนี้ชนเพดานก็ให้หาทางเพิ่มรายได้เช่นปล่อยเช่าทรัพย์สินหรือใช้ตลาดทุนในการขายหุ้นรัฐวิสาหกิจบางส่วนแล้วพอเศรษฐกิจฟื้นมีรายได้ค่อยมาซื้อคืน

          “ทั้ง 4 ปัจจัยนี้ สร้างความเชื่อมั่น เตรียมแผนล่วงหน้า คู่ขนานไปกับงบประมาณใช้จ่ายภาครัฐ จะช่วยประคองกำลังซื้อของคนที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจ และช่วยฟื้นเศรษฐกิจไทยได้ในปีหน้าดร.อมรเทพ กล่าวทิ้งท้าย

 

A7043

COREHOON

******************************************

line logotwitterLike1 Share3Like1 Share1กด Like - Share  เพจ Corehoon-Power Time เพื่อติดตามเคล็ดลับ ข่าวสาร เทรนด์ และบทวิเคราะห์ดีๆ อัพเดตทุกวัน คัดสรรมาเพื่อท่านนักลงทุนโดยเฉพาะ

 Click Donate Support Web

FBS728

BITKUB Ad

SAM720x100px bgGC 790x90

SME720 x 100banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!