WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

12308 CIMBT Dragon puzzle

ปริศนามังกร: โจทย์ที่เศรษฐกิจไทยต้องแก้ไขให้ฝ่าด่านปี 2567

          ดร.อมรเทพ จาวะลา ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสำนักวิจัย ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เปิดเผยว่า สถานการณ์เศรษฐกิจโลกผันผวน ซับซ้อน และคาดเดายากขึ้นเรื่อยๆ การจะทำให้เศรษฐกิจไทยฟื้นตัวและเติบโต ท่ามกลางภูมิรัฐศาสตร์โลกที่เต็มไปด้วยความเสี่ยงและความท้าทาย ต้องอาศัยนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจที่เหมาะสม ปี 2567 จึงเปรียบได้กับ ปริศนามังกร ที่มีปริศนาต้องแก้ไขฝ่าด่านเต็มไปหมด คำถามที่ยากที่สุดคือ ไทยจะรักษาสมดุลอย่างไร ระหว่างทิศทางดอกเบี้ยขาลงในตลาดการเงินโลก กับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศ โดยไม่ส่งผลให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งสูงหรือเงินไหลออก 

          การคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจ:

          เศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มขยายตัว 3.1% ในปี 2567 หลังการฟื้นตัวที่อัตรา 2.4% ในปี 2566 แนวโน้มการเติบโตที่ดีนี้ได้รับแรงสนับสนุนจากการฟื้นตัวใน 3 ภาคส่วนสำคัญ ได้แก่ ภาคการท่องเที่ยว ภาคการเกษตร และภาคการผลิต สะท้อนความแข็งแกร่งของตลาดภายในของไทยและการบูรณาการเข้ากับเศรษฐกิจโลก

          ความเสี่ยงด้านลบที่เพิ่มขึ้น:

          ในปี 2567 คาดว่าความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในภูมิภาคต่างๆ ที่มีความเปราะบางและเสี่ยงสูง พร้อมปะทุได้ทุกเมื่อ เสี่ยงต่อการลดลงของอุปสงค์ทั่วโลกและการเปลี่ยนแปลงของห่วงโซ่อุปทาน โดยเฉพาะความขัดแย้งที่ยังดำรงอยู่ทั้งในยูเครนและอิสราเอล ความตึงเครียดระหว่างสหรัฐฯและจีนที่ทวีความรุนแรงขึ้น และการชะลอตัวของเศรษฐกิจจีนอันเนื่องมาจากหนี้สินของบริษัทที่เพิ่มขึ้นและราคาอสังหาริมทรัพย์ที่ตกต่ำ แม้สหรัฐฯจะสามารถหลีกเลี่ยงภาวะเศรษฐกิจถดถอยทางเทคนิคได้ แต่ดอกเบี้ยที่สูงขึ้น ทำให้ตลาดการเงินมีความไม่แน่นอน ขณะเดียวกัน ธนาคารกลางของประเทศเศรษฐกิจหลักอาจเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงภายในกลางปี 2567 เพื่อฟื้นเศรษฐกิจที่อ่อนแอ และเงินเฟ้อเริ่มชะลอตัว

          ความท้าทายของการกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัล:

          ด่านทดสอบที่สำคัญสำหรับเศรษฐกิจไทยในปี 2567 คือ การออกแพ็กเกจกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านกระเป๋าเงินดิจิทัลหรือดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ซึ่งมีจุดมุ่งหมายเพื่อกระตุ้นการบริโภคทั่วทุกภูมิภาคของประเทศโดยเฉพาะผู้มีรายได้น้อย แม้ว่านโยบายนี้สามารถส่งเสริมการเติบโตทางเศรษฐกิจได้ (โดยอาจเพิ่มเป็น 3.6% เทียบกับ 3.1% กรณีไม่มีนโยบายนี้) แต่ยังทำให้เกิดความกังวลต่อการเพิ่มขึ้นของหนี้สาธารณะ ซึ่งอาจนำไปสู่การปรับลดอันดับเครดิตและการไหลออกของเงินทุน ทั้งนี้ ความไม่แน่นอนเกี่ยวกับการดำเนินการและความจำเป็นของนโยบายนี้อาจต้องพิจารณาสถานการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2567 ใน 2 สถานการณ์ด้วยกัน คือ กรณีที่มีดิจิทัลวอลเล็ต และกรณีที่ไม่มีดิจิทัลวอลเล็ต

          แนวโน้มนโยบายการเงินและอัตราแลกเปลี่ยน:

          จากคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อจะอยู่ต่ำกว่า 2% ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) จึงมีแนวโน้มมุ่งเน้นไปที่การกระตุ้นการเติบโตทางเศรษฐกิจ การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวนี้อาจรวมถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายจาก 2.50% เป็น 2.00% ในช่วงไตรมาสที่ 3 ของปี 2567 ซึ่งสอดคล้องกับแนวโน้มการผ่อนคลายนโยบายทางการเงินทั่วโลก อย่างไรก็ตาม ธปท.อาจเลือกคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิมจนถึงสิ้นปีเพื่อรักษาเสถียรภาพตลาดเงินในกรณีที่มีการออกดิจิทัลวอลเล็ต

          ในส่วนของอัตราแลกเปลี่ยน คาดว่าเงินบาทจะแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐฯ โดยเฉพาะหลังธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนพฤษภาคม 2567 ตามการคาดการณ์ ควบคู่ไปกับราคาน้ำมันที่ทรงตัว และรายได้จากการท่องเที่ยวที่มีแนวโน้มฟื้นตัวได้ดีขึ้น ซึ่งจะสนับสนุนให้ไทยมีฐานะเกินดุลบัญชีเดินสะพัดมากขึ้น และเอื้อให้เงินบาทกลับมาแข็งค่าและมีเสถียรภาพได้ ทั้งนี้ คาดว่าเงินบาทจะแตะ 33.50 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐฯภายในสิ้นปี 2567

          ปัจจัยขับเคลื่อนการเติบโตของแต่ละภาคส่วน:

          ภาคการท่องเที่ยวและบริการ: เป็นภาคหลักของการฟื้นตัว โดยคาดว่าจะมีนักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาถึง 34 ล้านคนในปี 2567 ส่วนใหญ่เป็นนักท่องเที่ยวจากภูมิภาคอาเซียน รัสเซีย และยุโรป โดยนักท่องเที่ยวจีนอาจเพิ่มขึ้นช้ากว่าคาด ทั้งนี้ แรงส่งเศรษฐกิจปีหน้าจึงยังอยู่ที่ภาคการท่องเที่ยว 

          ภาคเกษตรกรรมและอุตสาหกรรมเกษตร: คาดว่าผลผลิตทางการเกษตรจะเพิ่มขึ้นจากสภาพภูมิอากาศที่เอื้ออำนวย และได้แรงหนุนจากราคาที่ทรงตัวหรือสูงขึ้น ช่วยฟื้นฟูการบริโภคและการลงทุนในผลิตภัณฑ์อาหารแปรรูปและสินค้าเกษตร

          ภาคการผลิต: คาดการณ์ว่าการส่งออกจะเติบโต 2.5% ในปี 2567 โดยเฉพาะการผลิตยานยนต์ อิเล็กทรอนิกส์ และอาหารแปรรูป แม้จะมีความท้าทาย แต่สัญญาณของการฟื้นตัวยังปรากฏชัดในอิเล็กทรอนิกส์และส่วนประกอบสำคัญ

          บทสรุป: การไขปริศนามังกร:

          เศรษฐกิจไทยคาดว่าจะเติบโตอย่างต่อเนื่อง ตั้งแต่ปลายปี 2566 ถึงกลางปี 2567 โดยได้รับแรงหนุนจากการฟื้นตัวของการส่งออกและการเพิ่มขึ้นของจำนวนนักท่องเที่ยว อย่างไรก็ตาม กำลังซื้อของครัวเรือนที่มีรายได้น้อยถึงปานกลางอาจยังคงที่ นโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจของรัฐบาลที่มุ่งเน้นเพิ่มการใช้จ่ายของผู้เสียภาษีอาจช่วยกระตุ้นการบริโภคได้ชั่วคราว ทั้งนี้ กุญแจสำคัญในการไข 'ปริศนามังกร' อยู่ที่ไทยจะรักษาสมดุลทิศทางดอกเบี้ยขาลงของตลาดการเงินโลกกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในประเทศได้อย่างราบรื่นมากน้อยแค่ไหน โดยไม่ส่งผลกระทบให้อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่งสูงหรือให้เงินไหลออก เพราะเชื่อว่าเศรษฐกิจไทยมีแนวโน้มสดใสมากขึ้นในช่วงครึ่งปีหลัง จากทิศทางอัตราดอกเบี้ยขาลงซึ่งเราคงเห็นความชัดเจนมากขึ้นในช่วงกลางปี 2567 นี้

 

 

12308

Click Donate Support Web 

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

MTL 720x100

kbank 720x100 66

SME 720x100 66QIC 720x100

วิริยะ 720x100AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

ais 720x100

iconmotor

gen 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!