WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

1120 KT Compass

Krungthai COMPASS คาดแนวโน้มเงินเฟ้อปี 67 อยู่ที่ 1% จากแนวโน้มราคาพลังงานที่ปรับลดลง

โดย ชนม์นิธิศ ไชยสิงห์ทอง

Krungthai COMPASS

 

Key Highlights

          ● อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ธ.ค. ติดลบ 0.83%YoY หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 จากราคาหมวดพลังงานและอาหารสด โดยราคาพลังงานหดตัวจากมาตรการลดค่าครองชีพของภาครัฐ และราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกที่ปรับลดลง ขณะที่ราคาอาหารสดลดลงตามราคาเนื้อสุกรและผักสด สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.58%YoY ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2566 อยู่ที่ 1.23% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1.27%

          ● แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบต่อเนื่องแต่ประเมินว่าเศรษฐกิจไม่ได้เข้าสู่ภาวะเงินฝืด เนื่องจาก 1) มาตรการลดภาระค่าครองชีพด้านพลังงานเป็นปัจจัยหลักทำให้อัตราเงินเฟ้อติดลบ และ 2) ผู้ประกอบการเร่งระบายสต๊อกสินค้า และ/หรืออุปทานในตลาดเพิ่มขึ้นในช่วงที่ผ่านมา 

          ● Krungthai COMPASS คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2567 มีแนวโน้มอยู่ที่ 1.0% ชะลอลงจากราคาพลังงานโดยเฉลี่ยที่มีแนวโน้มอยู่ต่ำกว่าปี 2566 ภายใต้สมมติฐานที่ภาครัฐขยายระยะเวลาการพยุงราคาน้ำมันขายปลีกออกไป ประกอบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเฉลี่ยทั้งปีมีแนวโน้มทรงตัว

 

          อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ธ.ค. อยู่ที่ -0.83% ติดลบจากหมวดพลังงานและหมวดอาหารสด

          อัตราเงินเฟ้อทั่วไปเดือน ธ.ค. ติดลบ -0.83%YoY หดตัวต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 3 และต่ำกว่านักวิเคราะห์คาดไว้ที่ -0.3%[1] จากหมวดพลังงานที่หดตัว -5.12%YoY ติดลบมากขึ้นเมื่อเทียบกับเดือนก่อนที่ -4.52%YoY ตามนโยบายการลดภาระค่าของชีพด้านพลังงานของภาครัฐทั้งค่ากระแสไฟฟ้าและราคาน้ำมันเชื้อเพลิง ประกอบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกปรับตัวลดลง ขณะที่เงินเฟ้อหมวดอาหารสดหดตัวติดต่อกันเป็นเดือนที่ 5 ที่ -2.3%YoY เปรียบเทียบเดือนก่อนที่ -0.76%YoY ตามราคาเนื้อสุกรที่ลดลงเนื่องจากปริมาณเนื้อสุกรในระบบเพิ่มขึ้น และราคาผักสดลดลงจากผลผลิตที่เพิ่มขึ้น

          สำหรับอัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 0.58%YoY ชะลอตัวต่อเนื่องจากสินค้าที่หดตัว ได้แก่ เครื่องประกอบอาหาร ขณะที่ราคาสินค้าที่ขยายตัวชะลอลง ได้แก่ เครื่องดื่มไม่มีแอลกอฮอล์ อาหารบริโภคในบ้าน เครื่องนุ่มห่มและรองเท้า เป็นต้น ทั้งนี้ อัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2566 อยู่ที่ 1.23% ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานอยู่ที่ 1.27%

 

1120 KT Compass 1 2

 

Implication:

          ● แม้อัตราเงินเฟ้อทั่วไปติดลบต่อเนื่อง แต่ประเมินว่าเศรษฐกิจยังไม่ได้เข้าสู่ภาวะเงินฝืดเนื่องจาก 

          1) ภาครัฐมีมาตรการลดภาระค่าครองชีพด้านพลังงานอย่างต่อเนื่อง เป็นปัจจัยหลักทำให้อัตราเงินเฟ้อติดลบ ได้แก่ ลดค่าไฟฟ้าตั้งแต่เดือน ก.ย. ลดราคาน้ำมันดีเซลในเดือน ต.ค. และลดราคาน้ำมันเบนซินในเดือน พ.ย. ส่งผลให้อัตราเงินเฟ้อหมวดพลังงานในไตรมาสที่ 4/2566 หดตัว -3.7%YoY 

          2) ราคาสินค้าบางรายการขยายตัวชะลอลงเนื่องจากผู้ประกอบการเร่งระบายสต๊อกสินค้า และ/หรืออุปทานในตลาดเพิ่มขึ้น สอดคล้องกับข้อมูลรายงานของสภาพัฒน์ที่สินค้าคงคลังปรับลดลงต่อเนื่องในช่วงที่ผ่านมา สะท้อนถึงผู้ผลิตนำสินค้าในสต๊อกมาขายและอาจปรับลดราคาลงเพื่อเร่งระบายสินค้า นอกจากนี้อุปทานของสินค้าบางชนิดมีปริมาณเพิ่มขึ้นในตลาดทำให้ราคาปรับลดลง เช่น ปริมาณเนื้อสุกรในระบบที่มีมากขึ้นในช่วงที่ผ่านมาทำให้ราคาเนื้อสุกรปรับลดลงต่อเนื่อง อย่างไรก็ดี คาดว่าราคาสินค้าในกลุ่มนี้จะมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นหลังอุปทานทยอยกลับเข้าสู่ภาวะปกติ

          ● Krungthai COMPASS ประเมินอัตราเงินเฟ้อทั่วไปปี 2567 เฉลี่ยอยู่ที่ 1.0% ชะลอลงจากปี 2566 ที่ 1.23% จากราคาหมวดพลังงานที่มีแนวโน้มอยู่ต่ำกว่าปี 2566 โดยปรับลดลงตามราคาน้ำมันขายปลีกทั้งดีเซลและเบนซิน ภายใต้สมมติฐานที่ภาครัฐตรึงราคาน้ำมันดีเซลไว้ไม่เกิน 30 บาทต่อลิตร ซึ่งลดลงจากราคาในปี 2566 เฉลี่ย 32.1 บาทต่อลิตร และราคาน้ำมันเบนซินมีแนวโน้มปรับลดลง ส่วนหนึ่งจากการลดภาษีสรรพสามิตที่คาดว่าจะภาครัฐขยายระยะเวลาออกไป (ที่จะสิ้นสุด 31 ม.ค. 67) ประกอบกับราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกเฉลี่ยทั้งปีมีแนวโน้มทรงตัว สำหรับค่าไฟฟ้ามีแนวโน้มปรับลดลงเล็กน้อย อย่างไรก็ตาม ต้องจับตาความเสี่ยงด้านความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ โดยเฉพาะในทะเลแดงที่ส่งผลให้ต้นทุนค่าระวางเรือขยับขึ้น รวมทั้งแรงกดดันที่มีต่อราคาน้ำมันดิบให้ปรับสูงขึ้นกว่าที่คาดได้

 

[1] อ้างอิงจาก Reuter Polls (as of January 2024)

 

 

1120

Click Donate Support Web 

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

MTL 720x100

kbank 720x100 66

SME 720x100 66QIC 720x100

วิริยะ 720x100AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

ais 720x100

iconmotor

gen 720x100

TOA 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!