Details

Category: วิเคราะห์-เศรษฐกิจ

Published: Sunday, 16 October 2016 10:39

Hits: 4719

TDRI คงเป้าจีดีพีปีนี้โต 3% แต่หวั่นอาจโตไม่ถึง หากส่งออกหดตัวแรง ขณะที่คาดพรุ่งนี้ กนง.คงดอกเบี้ย 1.5%

     นางสาวกิริฎา เภาพิจิตร ผู้อำนวยการวิจัย ด้านการวิจัยและคำปรึกษาระหว่างประเทศ สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (TDRI) เปิดเผยในงานสัมมนา ทิศทางเศรษฐกิจและค่าเงินโลก เตรียมรับมือความผันผวนไตรมาสสุดท้าย ว่า TDRI ยังคงประมาณการจีดีพีของไทยปีนี้ไว้ที่ 3% โดยบนพื้่นฐานการส่งออกที่หดตัว 2% แต่หากการส่งออกหดตัวมากกว่าระดับดังกล่าว จะส่งผลให้จีดีพีขยายตัวต่ำกว่า 3% ได้

  โดยปัจจัยบวกยังคงเป็นการท่องเที่่ยวและการลงทุนของรัฐบาล ขณะที่ปัจจัยลบมาจากภายนอกมกากว่าปัจจัยในประเทศ โดยเฉพาะการประชุมของเฟดในเดือนก.ย. ว่าจะมีการขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ และการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในเดือนพ.ย. ซึ่ง TDRI ประเมินว่าหากเป็นนายโดนัลด์ ทรัมป์ เป็นประธานาธิบดี จะส่งผลกระทบในภูมิภาคเอเชีย เนื่องจากนโยบายของนายโดนัลด์ ทรมป์ จะเน้นปกป้องผลประโยชน์สหรัฐฯ เป็นหลัก ซึ่งหากเป็นนางฮิลลารี่ คลินตั้น จะส่งผลดีต่อการค้าและการลงทุนในเอเชียมากขึ้น แต่อาจเข้มงวดกว่าบารัค โอบามา

  "ปัจจัยในประเทศบ้านเราน้อยกว่าปัจจัยจากภายนอก โดยเฉพาะการเลือกตั้งประธานาธิบดี และนโยบายการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด ตลอดจนเศรษฐกิจในยุโรปว่าจะมีการฟื้นตัวหรือไม่ เพราะตอนนี้เศรษฐกิจคู่ค้าของไทยชะลอตัวลงอย่างต่อเนื่อง เห็นได้จากตัวเลขส่งออกของไทยที่ติดลบเป็นเวลาหลายปีติดต่อกัน ซึ่งมีโอกาสที่จีดีพีปีนี้จะไม่ถึง 3% หากการส่งออกติดลบมากกว่า 2%" นางสาวกิริฎา กล่าว

  สำหรับ การลงทุนภาคเอกชนขณะนี้ยังถือว่าต่ำ โดยเอกชนใช้กำลังการผลิตไม่ถึง 70% ของจีดีพี สะท้อนให้เห็นว่าเศรษฐกิจยังไม่ได้ฟื้นตัวที่จะเอื้อต่อการลงทุนของภาคเอกชน อีกทั้งความต้องการสินค้าในอนาคตยังมีความไม่แน่นอน ประกอบกับขีดความสามารถของไทยยังต่ำเมื่อเทียบกับคู่แข่ง

    ขณะที่การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) TDRI คาดจะคงดอกเบี้ยไว้ที่ 1.5% เนื่องจากกนง. รอดูความชัดเจนถึงแนวโน้มการขึ้นอัตราดอกเบี้ยของเฟด , เศรษฐกิจไทยมีการฟื้นตัวหรือไม่ และมองระดับเงินเฟ้อเป็นหลัก

  "ช่วงนี้จะเห็นว่ากระแสเงินยังไหลเข้าในประเทศ เนื่องจากตลาดรอดูทิศทางการขึ้นดอกเบี้ยของเฟด ซึ่ง 1-2 เดือนจะเห็นเงินไหลเข้ามาบ้าง แต่หากเฟดขึ้นดอกเบี้ยในช่วงเดือนธ.ค. ก็จะมีเงินไหลออกไปอเมริกา ส่งผลต่อตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียและตลาดเกิดใหม่ให้ปรับตัวลง"นางสาวกิริฎา กล่าว

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย