Details

Category: บทความการเงิน

Created: Thursday, 14 May 2015 11:37

Hits: 2201

บาทอ่อน ช่วยได้ไม่มาก สภาอุตฯเชื่อส่งออกปีนี้ยังสาหัส

    แนวหน้า : 'อนุสรณ์'ชี้บาทอ่อนกระตุ้นส่งออก จี้แบงก์พาณิชย์ลดดอกเบี้ยตามธปท. ขณะที่ผู้บริหาร สอท.ยังเชื่อส่งออกปีนี้โตสุดแค่ 0% ส่วนบาทอ่อนช่วยได้ไม่มาก ขณะที่ตลาดข้าวยังหั่นราคาสู้กัน ส่งผลให้ 4 เดือนแรกของปีนี้ขายได้เพียง  2.6 ล้านตัน

    นายอนุสรณ์ ธรรมใจ กรรมการ และกรรมการตรวจสอบ ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) แสดงความเห็นเรื่องนโยบายการเงินว่า การลดอัตราดอกเบี้ยของธปท.ได้ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงต่ำสุดในรอบ 5 ปี น่าจะช่วยกระตุ้นการส่งออก การท่องเที่ยวและน่าจะดึงให้ราคาสินค้าเกษตรในรูปเงินบาทปรับตัวสูงขึ้นได้บ้าง น่าจะทำให้เศรษฐกิจไทยไตรมาสสองกระเตื้องขึ้นเมื่อเทียบกับไตรมาสแรก โดยมีแรงกดดันเรื่องเงินเฟ้อน้อยมาก ส่วนนักลงทุนต่างชาติได้ทยอยเทขายหุ้นไทยจากการที่เศรษฐกิจและผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนชะลอตัว และเงินบาทเริ่มอ่อนค่าลง

   “การปรับลดอัตราดอกเบี้ยของ ธนาคารแห่งประเทศไทย น่าจะช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจผ่านการลงทุนและการบริโภคได้ระดับหนึ่ง รวมทั้งช่วยลดต้นทุนทางการเงินลง  หากระบบธนาคารพาณิชย์โดยเฉพาะธนาคารผู้นำตลาดตอบสนองต่อการลดดอกเบี้ยของธปท.ได้” นายอนุสรณ์ กล่าว

    นายวัลลภ วิตนากร รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) มองว่า แนวโน้มการส่งออกตลอดปี 2558 ยังคงโตไม่เกิน 0% เนื่องจากไตรมาสแรกติดลบ 4.69% แล้วและคาดว่าไตรมาส 2 จะโต 0% ที่เหลือไตรมาส 3-4 จะโตเฉลี่ยไตรมาสละ 2-3% เนื่องจากภาพรวมเศรษฐกิจโลกยังไม่ดีขึ้นทำให้ตลาดส่งออกหลักยังคงเผชิญการ แข่งขันโดยมีปัจจัยค่าเงินเข้ามาเกี่ยวข้องโดยเฉพาะตลาดสหภาพยุโรปหรืออียู ที่ค่าเงินยูโรอ่อนค่าส่งผลกระทบต่อการส่งออกไทยยังคงมีทิศทางลดลงต่อเนื่อง จากขณะนี้ติดลบ 3-4%

    ส่วนกรณีที่รัฐบาลได้หนุนมาตรการที่ส่งผลให้ค่าเงินบาทอ่อนค่าลงในช่วงนี้จากทั้งการที่คณะกรรมการนโยบายการเงิน(กนง.)ลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายลงมา อีก 0.25% เป็นรอบ 2 ของปีนี้และมาตรการ ของธปท. ที่ผ่อนคลายมาตรการเงินทุนเคลื่อนย้าย เช่น แต่ในรายละเอียดจะพบว่าเมื่อเทียบกับประเทศคู่แข่งขันทางการค้าที่ผ่านมาค่าเงินบาทไทยแข็งค่าขึ้น 5% เมื่ออ่อนค่าลงก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดีจากเดิมโดยเห็นว่าหากอ่อนค่าในระดับ 33.50บาทต่อเหรียญสหรัฐจะมีส่วนผลักดันการส่งออกได้มากกว่านี้

    นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ กรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และนายกกิตติมศักดิ์สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย  กล่าวว่า ขณะนี้ยังมองไม่เห็นโอกาสที่ดีของข้าวไทย เพราะจากการส่งออกข้าวไปช่วง 4 เดือนแรกของปี(ม.ค.-เม.ย.2558)  ไทยส่งออกข้าวได้เพียง  2.6 ล้านตันเท่านั้น ขณะเดียวกันอินเดียก็มีการส่งออกข้าวเพิ่มขึ้นเยอะมาก อย่างไรก็ดีในปีนี้ไทยน่าจะส่งออกข้าวได้ 8-8.5 ล้านตัน ซึ่งเป็นปริมาณที่ใกล้เคียงกับปี 2553 ขณะที่มูลค่าการส่งออกข้าวปีนี้น่าจะลดลงประมาณ 15% จากมูลค่าการส่งออกรวมของปีที่ผ่านมา แต่หากไทยส่งออกข้าวได้ปริมาณตามที่คาดไว้ ไทยอาจเสียแชมป์การส่งออกข้าวให้อินเดียได้

    “ต่อจากนี้อาจจะเป็นช่วงสงครามราคาข้าวส่งออก เพราะข้าวในตลาดโลกมีมาก ความต้องการขายก็มีมาก และก็คาดว่าสงครามราคาข้าวส่งออกจะยาวไปจนถึงช่วงไตรมาสที่ 3/2558 แต่ทั้งนี้ก็ต้องรอดูข้าวฤดูกาลใหม่ของอินเดียที่จะออกมาในช่วงปลาย ก.ย. ถึง ต.ค. นี้ด้วย ซึ่งหากว่าข้าวของอินเดียที่ออกมา มีผลผลิตไม่ดี ก็อาจจะช่วยเบรกราคาข้าวในตลาดโลกไม่ให้ตกต่ำไปกว่านี้” นายชูเกียรติ กล่าว