Details
Category: บทความการเงิน
Created: Tuesday, 22 July 2014 13:28
Hits: 3651
อย่าลืม!...กดไลน์-แชร์กันด้วยนะครับ
SME เชื่อมั่นอนาคตธุรกิจจะดีขึ้น หลังการเมืองนิ่ง
ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี หรือ TMB Analytics เปิดเผยผลการจัดทำ ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ ประกอบการขนาดย่อม-ทีเอ็มบี พบว่า ผู้ประกอบการ SME เชื่อมั่นในอนาคตเพิ่มขึ้นหลั งวิกฤตการเมืองจบ แม้ยังต้องเผชิญภาวะธุรกิ จและเศรษฐกิจที่ยังชะลอตัวอยู่ ในปัจจุบัน
นายเบญจรงค์ สุวรรณคีรี ผู้อำนวยการ ศูนย์วิเคราะห์เศรษฐกิจ ทีเอ็มบี เปิดเผย “ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ ประกอบการขนาดย่อม-ทีเอ็มบี” (TMB-SME Sentiment Index) ไตรมาส 2/2557จากการสำรวจความเชื่อมั่นของผู้ ประกอบการ SME กว่า 1,000 กิจการ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นของผู้ ประกอบการในปัจจุบัน ทรงตัวจากไตรมาสก่อน โดยล่าสุดอยู่ที่ 36.6 นับว่าอยู่ในระดับค่อนข้างต่ำ เนื่องจากผู้ประกอบการยังเผชิ ญภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตั วต่อเนื่องในไตรมาสที่ผ่านมา
อย่างไรก็ตาม ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ ประกอบการในอีก 3 เดือนข้างหน้า เพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 55.7จากไตรมาสก่อนที่ 51.1 นับเป็นการเพิ่มขึ้นครั้งแรกนั บตั้งแต่เกิดปัญหาความขัดแย้ งทางการเมืองในเดือนตุลาคม 2556 เป็นต้นมา สะท้อนให้เห็นถึงการฟื้นตั วของความเชื่อมั่นในอนาคต โดยเฉพาะความเชื่อมั่นในด้ านรายได้ของธุรกิจในอีก 3 เดือนข้างหน้านั้น มีการปรับตัวขึ้นอย่างชัดเจน
“หลังจากที่มีการยึ ดอำนาจการปกครอง เมื่อวันที่ 22 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา เราได้ติดตามผลการสำรวจความเชื่ อมั่นผู้ประกอบการอย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทราบถึงมุมมองของผู้ ประกอบการ SME หลังการเปลี่ยนแปลงดังกล่าว และพบว่าความเชื่อมั่นผู้ ประกอบการเพิ่มขึ้นในเดือนมิถุ นายน โดยดัชนีขึ้นมาอยู่ที่ 37.6 จากระดับ 32.8 ในเดือนก่อนที่นับว่าเป็นจุดต่ ำสุดในปีนี้ ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นผู้ ประกอบการในอีก 3 เดือนข้างหน้า พุ่งสูงขึ้นอย่างมาก มาอยู่ที่ 62.2 ในเดือนมิถุนายน จากระดับ 51.7 ในเดือนก่อนหน้า นับเป็นระดับความเชื่อมั่ นรายเดือนที่สูงที่สุดในรอบ 9 เดือน และเป็นการปรับเพิ่มขึ้นสูงที่ สุดในห้วงเวลาหนึ่งเดือนตั้งแต่ เริ่มทำการสำรวจมา”
เมื่อวิเคราะห์ถึงการเปลี่ ยนแปลง ที่ทำให้ความเชื่อมั่นผู้ ประกอบในอีก 3 เดือนข้างหน้าเพิ่มขึ้นอย่ างรวดเร็ว พบว่า ธุรกิจ SME คาดหวังผลประกอบการในอีก 3 เดือนข้างหน้าจะดีขึ้นกว่าปัจจุ บัน สอดคล้องกับที่คณะรั กษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ได้มีมาตรการกระตุ้นและขับเคลื่ อนเศรษฐกิจออกมาอย่างเร่งด่วนตั ้งแต่ช่วงปลายเดือนพฤษภาคมเป็ นต้นมา เป็นการสร้างบรรยากาศและมุ มมองที่เป็นบวกต่อภาคธุรกิ จและเศรษฐกิจในประเทศที่ชะลอตั วมาตั้งแต่ปีก่อนและไม่มี มาตรการกระตุ้นใดๆ ออกมานับตั้งแต่เกิดความวุ่ นวายทางการเมืองในช่วงปลายปี 2556
เมื่อสอบถามถึงปัจจัยความกั งวลที่เจ้าของธุรกิจ SME กังวลมากที่สุด “การเมือง” ยังคงครองอันดับ 1 ต่อเนื่องเป็นไตรมาสที่ 2 ติดต่อกัน คือ ร้อยละ 37.8 ของผู้กังวลทั้งหมด โดยเพิ่มขึ้นเล็กน้อยจากร้อยละ 36.0 ในไตรมาส 1 ปีนี้ อย่างไรก็ตาม เมื่อพิจารณาเฉพาะผลสำรวจในเดื อนมิถุนายน หลังการยึดอำนาจการปกครอง พบว่า ผู้ประกอบการมีความกังวลในเรื่ องของปัจจัยทางการเมืองลดลงค่ อนข้างมาก คือจากร้อยละ 45.6 ในเดือนพฤษภาคม เหลือที่ร้อยละ 24.9 ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดในรอบ 6 เดือน นับตั้งแต่เดือนธันวาคมที่ผ่ านมา และกลับมาให้ความสำคัญกับภาวะธุ รกิจและเศรษฐกิจชะลอตัวมากขึ้น
“แม้ว่า SME จะมีความกังวลในปัจจัยการเมื องน้อยลงและมีความเชื่อมั่ นมากขึ้น สะท้อนได้จากผลสำรวจในเดือนมิถุ นายนที่แตกต่างจากเดือนก่อนหน้ านี้อย่างชัดเจน เรายังต้องติ ดตามผลการสำรวจในไตรมาส 3 อย่างใกล้ชิด เพื่อให้ทราบถึงมุมมองของผู้ ประกอบการ SME ต่อภาวะ
เศรษฐกิจในประเทศ ซึ่งปัจจุบันได้กลับมาเป็ นประเด็นกังวลหลักอีกครั้งในเดื อนมิถุนายน” นายเบญจรงค์สรุป