WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

อุดหนุน ชาวนา ชาวอื่น ถามหา เงินผัน รัฐบาล

(ที่มา:มติชนรายวัน 9 ตุลาคม 2557)

 

 


ในขณะที่รายได้จากการส่งออกของปี 2557 มีแนวโน้มว่าจะ "ติดลบ"เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา

รายได้จากการท่องเที่ยวก็ลดลงตามไปด้วย จากปัญหาความไม่สงบทางการเมือง การประกาศกฎอัยการศึก และคดีครึกโครมที่สะท้านความรู้สึกของนักท่องเที่ยวต่างประเทศ

ปริมาณการลงทุนของภาคเอกชนก็อยู่ในระดับ "ทรงๆ" เพราะความไม่แน่นอนทางการเมือง

เครื่องมือที่จะสามารถ "กระตุ้นเศรษฐกิจ" ของรัฐบาลก็เหลือแต่ การใช้จ่ายภาครัฐ และการบริโภคในภาคประชาชน

มาตรการด้านเศรษฐกิจที่ออกมาทั้งหมด ไม่พ้นไปจากสองแนวทางนี้

กระนั้นก็ไม่ง่าย และไม่รับประกันว่าจะประสบความสำเร็จ

โดยเฉพาะมาตรการที่ถูกจับตามากที่สุดอย่างการแจกเงินอุดหนุนให้กับชาวนาในอัตราไร่ละ 1,000 บาท

ว่าจะไปถูกที่ถูกคนหรือไม่


พล.ต.สรรเสริญ แก้วกำเนิด รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวภายหลังการประชุมร่วมระหว่างคณะรัฐมนตรี (ครม.) และคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) ว่า พล.อ.ประยุทธ์แสดงความเป็นห่วงและสอบถามเกี่ยวกับมาตรการช่วยเหลือชาวนาผู้มีรายได้น้อยโดยการจ่ายเงินให้กับชาวนาไร่ละ 1,000 บาท รายละไม่เกิน 15 ไร่ เนื่องจากมีกระแสข่าวว่า เงินอาจไม่ถึงมือชาวนาและมีเจ้าของที่ดินมาสวมสิทธิ

โดยสั่งการว่าให้มีการกำหนดหลักเกณฑ์และวางแผนในเรื่องนี้ให้ชัดเจน

ก่อนที่จะถึงวันที่เริ่มจ่ายเงินให้กับชาวนาในวันที่ 20 ต.ค.นี้

ขานรับกันเกรียวกราวจากฝ่ายปฏิบัติ

นายลักษณ์ วจนานวัช ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) กล่าวว่า ธ.ก.ส.จะโอนเงินเข้าบัญชีของเกษตรกรโดยตรงตั้งแต่วันที่ 20 ต.ค.เป็นต้นไป และเตรียมทีมพนักงานสุ่มตรวจสอบการเพาะปลูกข้าวเพื่อให้เกิดความโปร่งใสและเงินถึงมือเกษตรกรจริง

เจ้าหน้าที่สาขาจะเร่งชี้แจงให้เกษตรกรทราบขั้นตอนการดำเนินงาน เช่น การแจ้งขอขึ้นทะเบียนผู้ปลูกข้าวกับเกษตรอำเภอในพื้นที่ เพื่อตรวจสอบข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นผู้ออกใบรับรองให้เกษตรกร จากนั้นจึงไปแจ้งความประสงค์ขอเข้าร่วมโครงการที่ ธ.ก.ส. โดยแนบสำเนาใบรับรองเกษตรกร สำเนาหน้าสมุดบัญชีเงินฝาก สำเนาบัตรประชาชน

"คาดว่าจะมีชาวนาได้รับประโยชน์จำนวน 3.49 ล้านครัวเรือน คิดเป็นพื้นที่ปลูกข้าวนาปีประมาณ 63.8 ล้านไร่ และวงเงินชดเชยประมาณ 40,000 ล้านบาท นอกจากนี้อยู่ระหว่างลดดอกเบี้ยเงินกู้เพื่อการผลิตแก่เกษตรกรผู้ปลูกข้าวนาปี รายละไม่เกิน 50,000 บาท"

นายโอฬาร พิทักษ์ อธิบดีกรมส่งเสริมการเกษตร กล่าวว่า มีชาวนาขึ้นทะเบียนกับกรมแล้วประมาณ 90% ของจำนวนชาวนาทั้งหมดทั่วประเทศ โดยออกใบรับรองพร้อมรับเงินจาก ธ.ก.ส.แล้วประมาณ 700,000 ครัวเรือน

"สำหรับชาวนาที่เช่าที่ทำนาประมาณ 150,000 ครัวเรือน ส่วนใหญ่น่าสงสารเพราะถูกเจ้าของที่ดินลักไก่ แจ้งสวมสิทธิรับเงินเอง โดยเฉพาะเจ้าของที่นาในสุพรรณบุรี และพระนครศรีอยุธยา แยกเป็นการเช่าแบบมีสัญญา แต่ไม่มีโฉนดที่ดินแสดงสิทธิประมาณ 46,000 ครัวเรือน อีกประมาณ 103,000 ครัวเรือน เป็นการเช่าที่ดินปากเปล่า

"ยืนยันว่าการขึ้นทะเบียนชาวนาจะไม่มั่วข้อมูลอย่างแน่นอน เพราะเป็นการขึ้นทะเบียนเกษตรกรตามปกติ ภายใต้กรอบฐานข้อมูลที่กรมวิชาการเกษตรมีอยู่ในมือแล้ว

"การขึ้นทะเบียนชาวนาล่าสุดเมื่อวันที่ 5 ต.ค. ที่ผ่านมามี 2.9 ล้านครัวเรือน ซึ่งกรมออกใบรับรองพร้อมที่จะไปรับเงินจาก ธ.ก.ส."

เฉพาะข้าวอย่างเดียวยังยุ่งเหยิงปานนี้

และเมื่ออุดหนุนชาวนาผู้ปลูกข้าวได้ เกษตรกรผู้เพาะปลูกพืชชนิดอื่นที่ราคาตกต่ำตามแนวโน้มตลาดโลก ก็เริ่มทยอยออกมายื่นข้อเรียกร้องในแบบเดียวกัน

นำหน้าด้วยกลุ่มยางพาราซึ่งขอให้รัฐตั้งราคารับซื้อที่ 80 บาท/กก. จากในปัจจุบันอยู่ที่ 52 บาท/กก. โดยคาดว่า ในช่วงไตรมาส 4/2557 จะมีผลผลิตยางพาราออกสู่ตลาดประมาณ 1 ล้านตัน

โดยรัฐบาลจะต้องใช้เงินอุดหนุนให้กับชาวสวนยางประมาณ 28,000 ล้านบาท

พร้อมไหม จะเดินหน้าต่ออีกไหม........

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!