Details

Category: งานวิจัยเศรษฐกิจ

Published: Wednesday, 27 August 2014 23:21

Hits: 5230

ผลวิจัย TNS ปี 2557 ชี้ Facebook ยังคงเป็นแพลตฟอร์มที่ครองใจคนไทยสูงสุด

    คุณแอร์โรว์ กัว (ที่สามจากซ้าย) หัวหน้ากลุ่มธุรกิจ SMBs กลุ่มประเทศจีน (จีน ไต้หวัน ฮ่องกง) และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Facebook ถ่ายภาพร่วมกับ คุณพอล ศรีวรกุล (ขวา) กรุ๊ปซีอีโอ บริษัท aCommerce, คุณวีรธิป ธนาพิสิทธิกุล (ซ้าย)

    ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Pomelo และคุณกมลวรรณ กอไพศาล (ที่สองจากซ้าย) ผู้อำนวยการการตลาดดิจิตอล บริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน) ภายในกิจกรรมเวิร์กช็อปสำหรับสื่อมวลชน ‘Grow your Business with Facebook’

     Facebook เผยผลวิจัยข้อมูลเชิงลึกภายใต้การดำเนินการสำรวจโดย TNS เกี่ยวกับพฤติกรรมการใช้ Facebook ในประเทศไทย พบว่าคนไทยใช้เวลาบน Facebook มากยิ่งขึ้น เข้าใช้งานจากสถานที่ต่างๆ หลากหลายขึ้นรวมถึงมีการใช้งานระหว่างกิจกรรมต่างๆ ตลอดทั้งวันเพิ่มมากขึ้น โดยเวลาที่ใช้บน Facebook

     ในฐานะแพลตฟอร์มคู่ใจสำหรับการค้นหาสิ่งใหม่ๆ สูงกว่าเวลาในการบริโภคสื่ออื่นๆ ทั้งสื่อดิจิตอล นิตยสาร และโทรทัศน์

 ผลวิจัยสำคัญ ได้แก่:

·   คนไทยส่วนใหญ่ที่ร่วมตอบแบบสำรวจใช้ Facebook (ร้อยละ 96) มากกว่าเครือข่ายสังคมออนไลน์อื่นๆ

·  ผู้ร่วมตอบแบบสำรวจยืนยันว่าพวกเขารู้สึกชอบที่จะติดต่อเพื่อนหรือคนรู้จักผ่าน Facebook มากกว่าการสื่อสารผ่านสื่อรูปแบบเดิมๆ และใช้เวลากับ Facebook โดยเฉลี่ย 2 ชั่วโมง 35 นาที ต่อวัน

·  ร้อยละ 68 ของผู้ใช้คนไทยเห็นหรือค้นหาข้อมูลสินค้าบน Facebook โดยร้อยละ 28 ได้รับคำแนะนำเกี่ยวกับสินค้าบน Facebook ก่อนการตัดสินใจซื้อสินค้า บริการ หรือ การเดินทางท่องเที่ยว

   ผลสำรวจยังแสดงให้เห็นว่า ร้อยละ 57 ของคนไทยผู้ใช้ Facebook ค้นพบหรือรู้จักเกี่ยวกับสินค้า แบรนด์ หรือบริการต่างๆ เป็นครั้งแรกผ่านทาง Facebook ในขณะเดียวกัน มากกว่าร้อยละ 71 รับชมวิดีโอบน Facebook โดยร้อยละ 56 ใช้ Facebook โพสต์วิดีโอหรือลิงค์ของวิดีโออีกด้วย

   คุณแอร์โรว์ กัว หัวหน้ากลุ่มธุรกิจ SMBs กลุ่มประเทศจีน (จีน ไต้หวัน ฮ่องกง) และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Facebook กล่าวถึงผลสำรวจว่า “ด้วยการเข้าถึงการใช้งานโทรศัพท์มือถือกว่าร้อยละ 134[1] และจำนวนผู้ใช้งาน Facebook ในประเทศไทยมากถึง 27 ล้านคนต่อเดือน[2]  ประเทศไทยจึงเป็นตลาดสำคัญที่เปี่ยมไปด้วยโอกาสสำหรับธุรกิจที่ต้องการเพิ่มการเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของพวกเขาบน Facebook”

   ปัจจุบัน ผู้ซื้อโฆษณามีตัวเลือกมากมายเมื่อต้องการช่องทางในการเข้าถึงกลุ่มผู้รับสารเป้าหมาย  Facebook จึงเป็นช่องทางที่เหมาะสมที่สุดสำหรับแบรนด์ต่างๆ ทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ ในการทำการตลาดแบบเฉพาะบุคคลไปยังกลุ่มเป้าหมายของตน

    “คนไทยมีปฏิสัมพันธ์บน Facebook อย่างมากโดยเฉพาะอย่างยิ่งระหว่างการเดินทาง นอกจากนี้ พวกเขายังยินดีที่ได้ค้นพบเรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งใหม่ๆ เป็นครั้งแรกบน Facebook เช่น ภาพยนตร์และสินค้าต่างๆ” แอร์โรว์ กัวกล่าว “สิ่งที่คนไทยเห็นบน Facebook ยังมีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อสินค้าเป็นอย่างมาก พวกเขาจะค้นหาคำแนะนำจากเพื่อนหรือคนรู้จักที่ไว้ใจ รวมทั้งศึกษาข้อมูลสินค้าบนเพจของแบรนด์ เมื่อต้องการค้นหาสินค้าใหม่ๆ หรือเพื่อประกอบการตัดสินใจเลือกซื้อ ข้อมูลเชิงลึกนี้จึงถือเป็นส่วนสำคัญอย่างยิ่งสำหรับการวางกลยุทธ์การตลาดสำหรับธุรกิจเอสเอ็มอี”

    “อุตสาหกรรมธุรกิจอี-คอมเมิร์ซในประเทศไทยมีการเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลา ในขณะเดียวกันยังมีการแข่งขันที่เข้มข้นมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ในอนาคตอันใกล้ แบรนด์ต่างๆ จะต้องการขายสินค้าของพวกเขาในทุกช่องทาง โดยสถานที่ซื้อขายจะย้ายไปอยู่บนโลกออนไลน์ภายใต้ระบบบริหารจัดการเดียวกันทั้งหมด นอกจากนี้ ในอีก 5 ปีข้างหน้า เราจะเข้าสู่ยุคของ O2O คอมเมิร์ซ (Online-to-Offline) ที่ซึ่งร้อยละ 65 ของธุรกรรมทางการเงินจะเกิดขึ้นบนโลกออนไลน์และสิ้นสุดลงที่โลกออฟไลน์ ในขณะเดียวกัน Facebook จะมีความสำคัญมากกว่าการเป็นเครื่องมือที่ใช้สร้างแบรนด์ โดยจะเป็นเสาหลักในการขับเคลื่อนการเติบโตของธุรกิจอี-คอมเมิร์ซของแบรนด์ ผลการสำรวจของเราพบว่า Facebook ช่วยขับเคลื่อนการนำลูกค้าไปสู่ช่องทางการตลาดอื่นๆ โดยร้อยละ 58 ของยอดสั่งซื้อมาจากการโฆษณาบน Facebook” คุณพอล ศรีวรกุล กรุ๊ปซีอีโอ บริษัท aCommerce กล่าว

    คุณวีรธิป หรือ วิน ธนาพิสิทธิกุล ผู้ร่วมก่อตั้งแบรนด์ Pomelo กล่าวว่า “เพื่อเชื่อมต่อกับผู้บริโภคในโลกยุคดิจิตอล แบรนด์จำเป็นต้องเล่าเรื่องราวผ่านการผสมผสานระหว่างรูปภาพที่เตะตา ข้อความที่กระตุ้นความสนใจ และแพลตฟอร์มที่สร้างการเชื่อมโยงเข้าไว้ด้วยกัน จากประสบการณ์ของเรา Facebook ถือเป็นแพลตฟอร์มที่ดีที่สุดในการกำหนดกลุ่มผู้รับสารเป้าหมายอย่างมีประสิทธิภาพทั้งในเชิงคุณภาพและปริมาณการเข้าถึงผู้รับสาร สิ่งที่ทำให้ Facebook แตกต่างจากสื่อดั้งเดิมทั่วไปคือ Facebook ช่วยให้เราสามารถประเมินผลที่ได้รับจากแคมเปญเพื่อนำไปปรับปรุงกลยุทธ์ให้ดียิ่งขึ้นได้”

    “การนำเครื่องมือในการกำหนดกลุ่มเป้าหมายต่างๆ ของ Facebook มาผสมผสานกัน ทำให้เราสามารถระบุและเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายของสินค้าที่เราต้องการขายได้อย่างเฉพาะเจาะจงมากยิ่งขึ้น ซึ่งเราเห็นผลจากแคมเปญพิเศษสำหรับสินค้าในหมวดความงาม ด้วยการเติบโตของผลตอบแทนมากกว่าที่ได้ลงทุนไปถึง 4 เท่า” คุณกมลวรรณ กอไพศาล ผู้อำนวยการการตลาดดิจิตอล บริษัท ออฟฟิศเมท จำกัด (มหาชน) กล่าว

ข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน

ชื่อ                                           Officemate

ประเภทธุรกิจ                          เอเจนซี่ด้านสื่อดิจิตอลของเครือเซ็นทรัล

ผู้บริหาร                  คุณกมลวรรณ กอไพศาล

ปีที่เริ่มธุรกิจ                            2555

Facebook page      https://www.facebook.com/CentralDepartmentStore

เว็บไซต์                   www.central.co.th

ผลิตภัณฑ์ของ Facebook ที่ใช้                              Custom Audience และ Lookalike Audience

เกี่ยวกับแบรนด์

Officemate คือเอเจนซี่ด้านสื่อดิจิตอลของเครือเซ็นทรัล ที่ให้บริการด้านการตลาดออนไลน์แก่เว็บไซต์ www.central.co.th เว็บไซต์อีคอมเมิร์ซของเซ็นทรัล ความท้าทายของ Officemate คือการสร้างความตระหนักในธุรกิจอีคอมเมิร์ซของเซ็นทรัลและเปลี่ยนการรับรู้ในผู้บริโภค เนื่องจากบุคคลทั่วไปและลูกค้าของเซ็นทรัลยังคงมองเซ็นทรัลในฐานะห้างสรรพสินค้าออฟไลน์เท่านั้น โดย Officemate ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือต่างๆ ของ Facebook เพื่อเอาชนะความท้าทายและไปถึงเป้าหมายทางการตลาดที่วางไว้

ทำไมต้อง Facebook

Officemate สร้างเพจ Central Department Store เพื่อสร้างความตระหนักในแบรนด์ ในขณะเดียวกันยังเชื่อมโยงและสร้างปฏิสัมพันธ์กับลูกค้าผ่านเนื้อหาต่างๆ ที่ครอบคลุมทั้งสินค้า โปรโมชั่น และกิจกรรม สำหรับเป้าหมายที่สองที่ต้องการดึงทราฟฟิกไปยังเว็บไซต์อีคอมเมิร์ซและสร้างยอดขายนั้น Officemate ใช้ประโยชน์จากเครื่องมือโฆษณาระดับแอดวานซ์ของ Facebook เช่น Custom Audience เพื่อต่อยอดจากฐานข้อมูลออฟไลน์ของเครือเซ็นทรัล และ Lookalike Audience เพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายไปที่ผู้บริโภคที่มีศักยภาพที่จะเป็นลูกค้าในอนาคตได้แม่นยำมากขึ้น

ผลลัพธ์

สัดส่วนลูกค้าออนไลน์ของเครือเซ็นทรัลเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว สะท้อนถึงประสิทธิภาพของการทำการตลาดออนไลน์ผ่าน Facebook

ข้อมูลสำหรับสื่อมวลชน

ชื่อทางธุรกิจ                                           POMELO

ประเภทธุรกิจ                                          เสื้อผ้าแฟชั่นสตรี

ผู้ก่อตั้ง                                                   คุณวีรธิป ธนาพิสิทธิกุล เดวิด โจว และเคซี่ เหลียง

ปีที่เริ่มธุรกิจ                                            2556

Facebook page                     https://www.facebook.com/pmlofashion 

เว็บไซต์                                   http://www.pomelofashion.com

ผลิตภัณฑ์ของ Facebook ที่ใช้                           Custom Audience

เกี่ยวกับแบรนด์    

ความเป็นเอกลักษณ์ของ Pomelo คือความเชี่ยวชาญด้านไฮสตรีทแฟชั่นจากเกาหลี และความมุ่งมั่นที่จะมอบสินค้าแฟชั่นระดับโลกคุณภาพสูงและความพึงพอใจในการจับจ่ายให้แก่ลูกค้าชาวไทย Pomelo คือแบรนด์เสื้อผ้าแฟชั่นสตรีออนไลน์ที่ประสบความสำเร็จด้วยการผสมผสานการทำงานอย่างใกล้ชิดกับซัพพลายเออร์เพื่อดูแลคุณภาพของสินค้า  การวางตำแหน่งแบรนด์ให้ทันสมัย และการใช้ประโยชน์จากเครื่องมือของแพลตฟอร์มการตลาดอย่าง Facebook

ทำไมต้อง Facebook

Pomelo เริ่มต้นใช้ Facebook เป็นแพลตฟอร์มการตลาดหลัก เพื่อสร้างความตระหนักในแบรนด์และเชื่อมต่อกับลูกค้าผ่านทาง Facebook Page หลังจากที่มีจำนวนแฟนที่ติดตามเพจในจำนวนที่น่าพอใจแล้ว Pomelo หันมาใช้เครื่องมือ  การกำหนดเป้าหมายของ Facebook เพื่อกำหนดกลุ่มเป้าหมายด้วยเพศ อายุ และความสนใจ และโปรโมตโพสต์เกี่ยวกับสินค้าที่ตรงกับความสนใจของลูกค้า และนำลูกค้าไปสู่เว็บไซต์ของแบรนด์

ผลลัพธ์

การโพสต์บน Facebook อย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ ด้วยข้อความที่เป็นกันเองกระตุ้นให้ลูกค้ากลับมาเยี่ยมชมหน้าเพจ   เพื่อติดตามสินค้าใหม่เป็นประจำ Pomelo ยังประสบความสำเร็จในการดึงทราฟฟิกไปยังเว็บไซต์ของแบรนด์ โดยมากถึงร้อยละ 90 ของคนที่เยี่ยมชมเว็บไซต์มาจาก Facebook