Details

Category: พาณิชย์

Published: Friday, 16 May 2014 10:05

Hits: 3864

พาณิชย์ขออีก 2-4 หมื่นล.จ่ายจำนำข้าวเตรียมชงเรื่องให้กกต.เซ็นอนุมัติ

      แนวหน้า : พาณิชย์ขออีก 2-4 หมื่นล.จ่ายจำนำข้าว เตรียมชงเรื่องให้กกต.เซ็นอนุมัติ ยืมจากงบกลางเพิ่มเติมให้ชาวนา

    พาณิชย์เตรียมยืมเงินงบกลางอีก 2-4 หมื่นล้านบาท จ่ายหนี้จำนำข้าวให้ชาวนา หลังคืนงบกลาง 2 หมื่นล้านหมดภายในเดือนพฤษภาคมนี้  พร้อมยืนยันการเร่งระบายข้าวของภาครัฐไม่ใช่สาเหตุที่ทำให้ราคาข้าวในตลาดตกต่ำ

       นายยรรยง พวงราช รักษาการรมช.กระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า กระทรวงพาณิชย์มีแผนที่จะยืนเรื่องขอยืมงบกลางเพิ่มเติมอีกประมาณ 2-4 หมื่นล้านบาท เพื่อนำมาชำระหนี้ให้ชาวนาที่ยังไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวก่อน ซึ่งคาดว่าการดำเนินการดังกล่าวนายนิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีจะมีการนำเรื่องเข้าหารือกับคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.)ก่อนเพื่อพิจารณาว่าสามารถกระทำได้หรือไม่  สำหรับการคืนงบกลางจำนวน 20,000 ล้านบาทที่มีกำหนดคืนภายในวันที่ 31 พฤษภาคม 2557ขณะนี้กระทรวงพาณิชย์คืนเงินจำนวนดังกล่าวให้กระทรวงการคลังไปแล้วกว่า 15,400 ล้านบาท และเชื่อว่าจะสามารถคืนเงินได้ครบภายในเดือนนี้แน่นนอน

         นายยรรยง กล่าวว่าการพิจารณาเตรียมขอยืมงบกลางของรัฐบาลเพิ่มเติมทางกระทรวงพาณิชย์จะมีกรอบในการกำหนดจำนวนเงินที่ยืมว่าขณะนี้รัฐบาลยังค้างจ่ายเงินให้กับชาวนาอีกเท่าไหร่ และรัฐบาลรักษาการจะอยู่ได้นานแค่ไหน ซึ่งจะต้องเป็นจำนวนที่กระทรวงมั่นใจว่าจะสามารถคืนได้เบื้องต้นคาดว่าหากกกต.ยังมีกำหนดการวันเลือกตั้งเดิมภายในเดือนกรกฎาคม 2557 รัฐบาลอาจจะยืมเงินจากงบกลางเพิ่มเติมประมาณ 2 หมื่นล้านบาท เพื่อนำเงินมาใช้หนี้ค่าข้าวให้กับเกษตรกรที่ยังไม่ได้รับเงินจากโครงการรับจำนำข้าวที่เหลืออยู่กว่า 7 หมื่นล้านบาทแต่หากกกต.มีการกำหนดวันเลือกตั้งล่าช้าไปกว่ากำหนดเดิมก็จะทำให้สามารถขอยืมเงินจากงบกลางในสัดส่วนที่มากขึ้นกว่าเดิม

      อย่างไรก็ตาม มองว่าการที่กระทรวงพาณิชย์มีการระบายข้าวอย่างต่อเนื่องไม่ได้เป็นสาเหตุให้ราคาข้าวมีราคาตกต่ำเหมือนที่หลายฝ่ายกล่าวอ้างแต่เป็นเพราะช่วงฤดูกาลของข้าวที่มีปริมาณผลผลิตออกมากในช่วงต้นฤดูเก็บเกี่ยวแต่ทั้งนี้เชื่อว่าหลังจากนี้ราคาจะกลับมาเป็นปกติเพราะจากภัยแล้งทำให้ปริมาณข้าวลดลงจากปีก่อนในหลายพื้นที่โดยในส่วนของประเทศไทยเองอาจจะมีผลผลิตน้อยกว่าปีก่อน 2 ล้านตันและยังเชื่อว่าการระบายข้าวที่มีการทำอย่างต่อเนื่องแต่มีผู้สนใจเข้าร่วมเพิ่มขึ้นแสดงให้เห็นว่าความต้องการข้าวในตลาดยังมีมากดังนั้นขอยืนยันว่ารัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจและการระบายข้าวในแต่ละช่องทางทั้งการประมูลทั่วไปหรือการประมูลผ่านตลาดสินค้าเกษตรล่วงหน้า(เอเฟท)

       ก่อนหน้านี้ นายกุลิศ สมบัติสิริ ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการปิดบัญชีโครงการรับจำนำข้าว  เปิดเผยว่า คณะการทำงานปิดบัญชีจำนำข้าวได้ประชุมเพื่อวางกรอบทางบัญชีและเก็บข้อมูลจากหน่วยงานที่เกี่ยว เพื่อทำการปิดบัญชีเป็นรายไตรมาสให้เป็นปัจจุบันที่สุด จากที่มีการปิดไว้ล่าสุดเมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2556 ที่มีน.ส.สุภาปิยะจิตติ รองปลัดกระทรวงการคลัง เป็นประธานอนุกรรมการปิดบัญชีทำไว้ ซึ่งมีผลขาดทุน 3.3 แสนล้านบาท

      โดยคณะทำงานปิดบัญชีล่าสุดได้ตั้งตัวแทนจากกรมสรรพากรที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านบัญชีภาคเอกชน และตัวแทนจากกรมบัญชีกลางที่มีความเชี่ยวชาญด้านบัญชีภาครัฐเข้ามาอยู่ในคณะทำงานปิดบัญชีล่าสุด โดยการปิดบัญชีข้าวในแต่ฤดูกาลผลิตจะต้องใช้กรอบเดียวกันทั้งหมด ซึ่งจะต้องมีการปิดบัญชีรอบวันที่ 30 กันยายน 2556 และรอบวันที่ 31 ธันวาคม 2556 รวมถึงรอบวันที่ 31 มีนาคม 2557 ซึ่งจะทำไปพร้อมกันทั้งหมดเลย ซึ่งแนวโน้มจะต้องมีผลขาดทุนมากขึ้น แต่เป็นเท่าไรยังไม่สามารถบอกได้

        ทั้งนี้ คณะทำงานปิดบัญชีจะต้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการจำนำข้าว ทั้ง องค์การคลังสินค้า (อคส.) และองค์การตลาดเพื่อเกษตรกร (อ.ต.ก.) ที่เป็นผู้รับจำนำข้าว ต้องส่งข้อมูลปริมาณข้าวทั้งหมดให้กับคณะทำงาน รวมถึงกรมการค้าภายในและกรมการค้าต่างประเทศ จะต้องให้ข้อมูลการระบายข้าว มาให้คณะทำงานปิดบัญชี เพื่อให้การปิดบัญชีสะท้อนความเป็นจริงของโครงการรับจำนำมากที่สุด