- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Friday, 30 December 2022 20:37
- Hits: 3244
พาณิชย์ เปิดรับฟังความคิดเห็น 1-31 ม.ค.66 นำพัฒนากฎหมายการทุ่มตลาดและการอุดหนุน
กรมการค้าต่างประเทศเปิดรับฟังความคิดเห็น พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ.2542 ระหว่างวันที่ 1-31 ม.ค.66 ตั้งเป้านำความคิดเห็นที่หลากหลายจากทุกภาคส่วน เพื่อนำไปสู่การปรับปรุงกฎหมายให้ตอบโจทย์ความต้องการของทุกภาคส่วนในสังคม
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า พ.ร.บ.หลักเกณฑ์การจัดทำร่างกฎหมายและการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมาย พ.ศ.2562 กำหนดให้ต้องมีการประเมินผลสัมฤทธิ์ของการบังคับใช้กฎหมายทุก 5 ปี กรมฯ จึงได้ดำเนินการประเมินผลสัมฤทธิ์ของกฎหมายการทุ่มตลาดและการอุดหนุน
โดยจะเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อ พ.ร.บ. การตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมระหว่างวันที่ 1–31 ม.ค.2566 เพื่อนำความคิดเห็นจากผู้ที่เกี่ยวข้องไปประกอบการประเมินผลสัมฤทธิ์ของการบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการทุ่มตลาดและการอุดหนุนว่าได้ผลตรงตามวัตถุประสงค์หรือไม่ คุ้มค่ากับภาระที่เกิดขึ้นแก่รัฐและประชาชนหรือไม่ หรือมีผลกระทบอื่นที่ก่อให้เกิดความไม่เป็นธรรมแก่ประชาชนหรือไม่
ทั้งนี้ พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ.2542 ประกอบด้วย 3 ประเด็นหลักๆ คือ หลักเกณฑ์เงื่อนไขที่จะนำไปสู่การกำหนดมาตรการตอบโต้ ลักษณะของมาตรการ รวมถึงกรอบเวลาการบังคับใช้มาตรการ และขั้นตอนกระบวนการไต่สวนเพื่อนำไปสู่การพิสูจน์ข้อมูลข้อเท็จจริงว่ามีการทุ่มตลาด หรือการอุดหนุนหรือไม่ และการทุ่มตลาดและการอุดหนุนนั้น ก่อให้เกิดความเสียหายแก่อุตสาหกรรมภายในหรือไม่
โดย พ.ร.บ.ดังกล่าวอ้างอิงมาจากองค์การการค้าโลก (WTO) ซึ่งให้สิทธิแก่ประเทศสมาชิกที่จะดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันหรือเยียวยาความเสียหายที่เกิดจากพฤติกรรมการทุ่มตลาดหรือการอุดหนุน ซึ่งถือเป็นพฤติกรรมการค้าที่ไม่เป็นธรรม
“การเปิดรับฟังความคิดเห็นต่อกฎหมายการทุ่มตลาดและการอุดหนุนในครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีแก่ผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องกับกฎหมายดังกล่าวโดยตรงไม่ว่าจะเป็นผู้ผลิตภายในประเทศ ผู้นำเข้า ผู้บริโภค สมาคม กลุ่มอุตสาหกรรม สมาคมการค้า หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง รวมถึงนักวิชาการด้านกฎหมาย ได้นำเสนอข้อคิดเห็นของตนเอง
โดยกรมฯ คาดหวังว่าความหลากหลายของความเห็นที่ได้รับจากการรับฟังความคิดเห็นครั้งนี้ จะเป็นประโยชน์ต่อการนำไปพัฒนากฎหมายการทุ่มตลาดและการอุดหนุนของไทยให้มีประสิทธิภาพ และสร้างความเป็นธรรมให้แก่ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องต่อไป”นายรณรงค์กล่าว
สำหรับ ผู้สนใจสามารถเข้าร่วมแสดงความคิดเห็นต่อ พ.ร.บ.การตอบโต้การทุ่มตลาดและการอุดหนุนซึ่งสินค้าจากต่างประเทศ พ.ศ.2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติมได้ระหว่างวันที่ 1–31 ม.ค.2566 ผ่านช่องทางระบบกลางทางกฎหมาย www.law.go.th และระบบเทคโนโลยีสารสนเทศของกรมฯ ที่ www.dft.go.th