- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 11 February 2023 10:13
- Hits: 1754
จุรินทร์ นำโลจิสติกส์ไทยจับมือ DP World ยักษ์ใหญ่ขนส่งดูไบ สร้างเครือข่ายเรือ อากาศ
จุรินทร์ เป็นสักขีพยานการลงนาม MOU ระหว่างบริษัท DP World บริษัทขนส่งยักษ์ใหญ่ดูไบ กับผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทย เพื่อสร้างแต้มต่อและสร้างเครือข่ายการขนส่งทางเรือ อากาศ 318 จุดทั่วโลก มั่นใจช่วยเพิ่มมูลค่าการส่งออกให้ไทยได้เพิ่มขึ้น
นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานสักขีพยานการลงนาม MOU ระหว่าง บริษัท DP World โดยสุลต่านอาเหม็ด บิน สุไลยเอ็ม ประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม DP World กับสมาพันธ์ผู้ให้บริการโลจิสติกส์ไทย สภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย บริษัท โปรเฟรทอินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด และบริษัท ทิฟฟ่า โลจิสติกส์ เซ็นเตอร์ จำกัด บนเรือบริเวณโรงแรม Anantara Dubai the Palm ว่า ความร่วมมือหรือความตกลง MOU กับ DP World ของดูไบด้านโลจิสติกส์ ที่มีเครือข่ายท่าเรือและสนามบินครอบคลุมทั่วโลก 78 ท่าเรือ ใน 6 ทวีปและ 240 สนามบิน มีจุดหมายปลายทาง 318 จุด เมื่อลงนามแล้ว จะสามารถใช้บริการเครือข่ายของ DP World ได้รับสิทธิพิเศษ จะเป็นประโยชน์ในการขนส่งสินค้าและบริการอื่น ๆ จากไทยไปสู่จุดหมายปลายทางทั่วโลก เพิ่มมูลค่าการส่งออกที่เป็นรูปธรรมในอนาคต
“ปีนี้เศรษฐกิจโลกบางประเทศถดถอย ภาพรวมชะลอตัว เติบโตน้อยกว่าปีก่อน จะเป็นอุปสรรคสำคัญ ทำให้การส่งออกของทุกประเทศในโลกทำได้ยากขึ้น ส่วนไทย ในปี 2566 ประเมินว่าเป็นบวก 1-2% ตั้งใจจะทำให้ได้มากกว่านี้ ต้องมุ่งเน้นตลาดที่ยังมีศักยภาพ เพื่อเพิ่มตัวเลขส่งออก พบว่า มี 3 ตลาด คือ CLMV เอเชียใต้ และตะวันออกกลาง จึงต้องนำคณะมาเพื่อใช้ยูเออีเป็นประตูสู่ตะวันออกกลาง เร่งตัวเลขการส่งออกให้ได้ตามเป้าที่ตั้งไว้”นายจุรินทร์กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานจากกระทรวงพาณิชย์ ว่า บริษัท DP World เป็นหน่วยงานปฏิบัติการท่าเรือและท่าเทียบเรือชั้นนำ รวมไปถึงให้บริการ Supply Chain Solution ด้านโครงสร้างพื้นฐานระดับโลก จัดตั้งขึ้นในปี 2005 มีหน่วยธุรกิจในเครือทั้งหมดกว่า 140 แห่ง 136 แห่ง ในกว่า 60 ประเทศทั่วโลก ครอบคลุม 6 ทวีป และที่ผ่านมา บริษัท DP World ได้ร่วมมือกับบริษัท Dubai Logistics World (DLW) บริษัท Dubai national Air Transport Association (DNATA) บริษัท Emirates SkyCargo และ The Ports , Customs and Free Zone Corporation (PCFC) ก่อตั้งโครงการ World Logistics Passport (WLP) ในเดือนก.ค.2562
โครงการ WLP เป็นส่วนหนึ่งของยุทธศาสตร์ Dubai Silk Road Initiative ซึ่งชีคมุฮัมมัด บิน รอชิด อาล มักตูม นายกรัฐมนตรีแห่งสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ และเจ้าผู้ครองรัฐดูไบ มีพระประสงค์ให้พัฒนาดูไบเป็นศูนย์กลางการขนส่งสินค้าทางเรือและทางอากาศครบวงจร และเป็นจุดเชื่อมต่อการขนส่งสินค้าที่สำคัญแห่งหนึ่งของโลก (Multimodal Mega-Hub)
โดยร่วมมือกับภาครัฐและเอกชนของประเทศต่าง ๆ มากกว่า 30 ประเทศ เช่น เอเซียและโอเชียเนีย เช่น ไทย เวียดนาม มาเลเซีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ จีน ฮ่องกง อินเดีย และออสเตรเลีย แอฟริกา เช่น อียิปต์ เคนยา โมร็อกโก ไนจีเรีย เซเนกัล แอฟริกาใต้ เอธิโอเปีย บอสวานา ซิมบับเว โมซัมบิก บูร์กินาฟาโซ กินี ลาตินอเมริกา เช่น บราซิล ชิลี โคลัมเบีย เม็กซิโก อุรุกวัย ปารากวัย เอกวาดอร์ CIS เช่น คาซัคสถาน
ทั้งนี้ โครงการ WLP เป็นโครงการในลักษณะ Loyalty Program ซึ่งผู้ประกอบการโลจิสติกส์ไทยจะได้รับผลประโยชน์ต่างๆ ตามมูลค่าสินค้าที่ส่งผ่านดูไบภายใต้โครงการนี้ โดยแบ่งผลตอบแทนออกเป็นสามระดับ คือ เงิน ทอง และ แพลตตินัม โดยผลประโยชน์ที่ได้รับจากโครงการนี้ ได้แก่ 1.ระยะเวลาขนส่งสินค้าไปสู่ปลายทางสั้นลงเนื่องจากการตรวจปล่อยสินค้าที่เร็วขึ้นเป็นพิเศษและการใช้ระบบ Single Window เพื่อลดระยะเวลาการตรวจเอกสาร เป็นต้น 2.ค่าใช้จ่ายที่ลดลงจากสิทธิพิเศษต่างๆ ที่ได้รับ เช่น สามารถเก็บสินค้าที่ท่าอากาศยานโดยไม่ต้องเสียค่าธรรมเนียมได้นานขึ้น ค่าดำเนินการที่ท่าอากาศยานต่างๆ ลดลง เป็นต้น
3.สามารถเข้าถึงตลาดปลายทางได้มากขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้นจากการลดกฎระเบียบ ณ จุดปลายทางรวมทั้งการขนส่งผ่านศูนย์กลางการขนส่งสำคัญ (Key Hub) ที่ถูกลงและรวดเร็วขึ้น และ 4.สามารถเข้าถึงตลาดปลายทางได้มากกว่า 30 ประเทศ
โดยหน่วยงานของไทยที่เข้าร่วมโครงการแล้ว เช่น การบินไทย สมาคมผู้รับจัดการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศ (TIFFA) ท่าเรือแหลมฉบัง (LCIT) และบริษัทบริษัทยูนิโค โลจิสติกส์