- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Monday, 28 August 2023 18:07
- Hits: 1592
คต. เตรียมยก (ร่าง) กฎที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกกาแฟ 3 ฉบับ ก่อนออกประกาศกระทรวงพาณิชย์
กรมการค้าต่างประเทศเตรียมยก (ร่าง) กฎกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การขออนุญาตและการขอหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าสำหรับการส่งออกกาแฟ 3 ฉบับ ก่อนเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พิจารณาลงนามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้กาแฟเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตและมีหนังสือรับรองในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. 2566 เพื่อให้การขออนุญาตและขอหนังสือรับรองในการส่งออกกาแฟเป็นไปด้วยความเรียบร้อยและทันสมัยยิ่งขึ้น
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่าหลังจาก (ร่าง) ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้กาแฟเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตและมีหนังสือรับรองในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. 2566 ผ่านการอนุมัติในหลักการจากคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2566 และผ่านการพิจารณาตรวจร่างจากคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีคณะที่ 4 (คกอ.4) เมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม 2566
เพื่อเป็นการทบทวนกฎระเบียบสำหรับการส่งออกเมล็ดกาแฟคั่วที่ผลิตจากเมล็ดกาแฟดิบนำเข้าจากต่างประเทศ หรือที่ผสมกับเมล็ดกาแฟดิบในประเทศได้ จากเดิมสามารถส่งออกได้เฉพาะกาแฟที่ผลิตในประเทศ (เมล็ดกาแฟดิบ เมล็ดกาแฟคั่ว และผลิตภัณฑ์กาแฟ) และผลิตภัณฑ์กาแฟที่ผลิตจากเมล็ดกาแฟดิบนำเข้าจากต่างประเทศเท่านั้น โดยกรมการค้าต่างประเทศได้จัดทำ (ร่าง) กฎระเบียบสำหรับ
การกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการอนุญาตและการขอหนังสือรับรองการส่งออกกาแฟ รวม 3 ฉบับ ประกอบด้วย (ร่าง) ระเบียบกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการอนุญาตให้ส่งกาแฟออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. …. เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการขออนุญาต (ร่าง) ประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ส่งออกกาแฟ พ.ศ. …. เพื่อกำหนดวิธีการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ส่งออกกาแฟ และ (ร่าง) ประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง การออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าตามข้อบังคับขององค์การกาแฟระหว่างประเทศ พ.ศ. …. เพื่อกำหนดวิธีการออกหนังสือรับรองฯ ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ และมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการพืชสวน
ทั้งนี้ กรมฯ จะดำเนินการจัดทำประชาพิจารณ์ (ร่าง) กฎที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกกาแฟทั้ง 3 ฉบับ ระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม-11 กันยายน 2566 ก่อนเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พิจารณาลงนามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้กาแฟเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตและมีหนังสือรับรองในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. 2566 พร้อมกับระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการอนุญาตให้ส่งกาแฟออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. 2566
นอกจากนี้ ภายหลังจากประกาศและระเบียบกระทรวงพาณิชย์ฯ มีผลบังคับใช้นับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไปแล้ว กรมฯ จะสามารถออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีก 2 ฉบับ ประกอบด้วย (1) ประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ส่งออกกาแฟ พ.ศ. 2566 และ (2) ประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง การออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าตามข้อบังคับขององค์การกาแฟระหว่างประเทศ พ.ศ. 2566 เพื่อให้การขึ้นทะเบียนก่อนการขออนุญาตและขอหนังสือรับรองในการส่งออกกาแฟเป็นไปด้วยความเรียบร้อยต่อไป
อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวเพิ่มเติมว่า เพื่อให้การจัดทำ (ร่าง) กฎที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกกาแฟทั้ง 3 ฉบับ เป็นไปด้วยความรอบคอบและเหมาะสม จึงขอเชิญหน่วยงานภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร รวมทั้งผู้สนใจร่วมแสดงความคิดเห็นต่อ (ร่าง) กฎดังกล่าวผ่านระบบกลางของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (www.law.go.th) และเว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ (www.dft.go.th.) ได้ตั้งแต่วันที่ 28 สิงหาคม – 11 กันยายน 2566 โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ DFT Call Center โทร 1385 หรือกองบริหารสินค้าข้อตกลงและมาตรการการค้า กรมการค้าต่างประเทศ โทร 0 2547 4734
พาณิชย์ ยกร่างระเบียบ 3 ฉบับ ขออนุญาตส่งออกกาแฟ การขึ้นทะเบียน กฎถิ่นกำเนิด
กรมการค้าต่างประเทศยกร่างระเบียบกระทรวงพาณิชย์ 3 ฉบับ กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข การอนุญาตและขอหนังสือรับรองส่งออกกาแฟ การขึ้นทะเบียนผู้ส่งออกกาแฟ และการออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้ากาแฟ เสร็จแล้ว เปิดให้ภาครัฐ เอกชน และผู้สนใจร่วมแสดงความคิดเห็น ตั้งแต่ 28 ส.ค.-11 ก.ย.นี้ ก่อนนำเสนอรัฐมนตรีพาณิชย์ลงนามบังคับใช้
นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า กรมได้จัดทำ (ร่าง) กฎระเบียบสำหรับการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ในการอนุญาตและการขอหนังสือรับรองการส่งออกกาแฟ รวม 3 ฉบับ ประกอบด้วย (ร่าง) ระเบียบกระทรวงพาณิชย์ ว่าด้วยการอนุญาตให้ส่งกาแฟออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ. ... เพื่อกำหนดหลักเกณฑ์และเงื่อนไขในการขออนุญาต (ร่าง) ประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ส่งออกกาแฟ พ.ศ. ... เพื่อกำหนดวิธีการขึ้นทะเบียนเป็นผู้ส่งออกกาแฟ และ (ร่าง) ประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง การออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าตามข้อบังคับขององค์การกาแฟระหว่างประเทศ พ.ศ. ... เพื่อกำหนดวิธีการออกหนังสือรับรอง ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายและแผนพัฒนาการเกษตรและสหกรณ์ และมติที่ประชุมคณะอนุกรรมการพืชสวน
ทั้งนี้ กรมจะดำเนินการจัดทำประชาพิจารณ์ (ร่าง) กฎที่เกี่ยวข้องกับการส่งออกกาแฟทั้ง 3 ฉบับ ระหว่างวันที่ 28 ส.ค.-11 ก.ย.2566 ก่อนเสนอรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์พิจารณาลงนามประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้กาแฟเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตและมีหนังสือรับรองในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2566 พร้อมกับระเบียบกระทรวงพาณิชย์ว่าด้วยการอนุญาตให้ส่งกาแฟออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2566
จากนั้น เมื่อประกาศและระเบียบกระทรวงพาณิชย์ มีผลบังคับใช้ นับแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไปแล้ว กรมจะสามารถออกกฎหมายที่เกี่ยวข้องอีก 2 ฉบับ ประกอบด้วย 1.ประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง การขึ้นทะเบียนเป็นผู้ส่งออกกาแฟ พ.ศ.2566 และ 2.ประกาศกรมการค้าต่างประเทศ เรื่อง การออกหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าตามข้อบังคับขององค์การกาแฟระหว่างประเทศ พ.ศ.2566 เพื่อให้การขึ้นทะเบียนก่อนการขออนุญาตและขอหนังสือรับรองในการส่งออกกาแฟเป็นไปด้วยความเรียบร้อยต่อไป
ก่อนหน้านี้ (ร่าง) ประกาศกระทรวงพาณิชย์ เรื่อง กำหนดให้กาแฟเป็นสินค้าที่ต้องขออนุญาตและมีหนังสือรับรองในการส่งออกไปนอกราชอาณาจักร พ.ศ.2566 ได้ผ่านการอนุมัติในหลักการจากคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 2 พ.ค.2566 และผ่านการพิจารณาตรวจร่างจากคณะกรรมการตรวจสอบร่างกฎหมายและร่างอนุบัญญัติที่เสนอคณะรัฐมนตรีคณะที่ 4 (คกอ.4) เมื่อวันที่ 11 ก.ค.2566 เพื่อเป็นการทบทวนกฎระเบียบสำหรับการส่งออกเมล็ดกาแฟคั่วที่ผลิตจากเมล็ดกาแฟดิบนำเข้าจากต่างประเทศ หรือที่ผสมกับเมล็ดกาแฟดิบในประเทศได้ จากเดิมสามารถส่งออกได้เฉพาะกาแฟที่ผลิตในประเทศ (เมล็ดกาแฟดิบ เมล็ดกาแฟคั่ว และผลิตภัณฑ์กาแฟ) และผลิตภัณฑ์กาแฟที่ผลิตจากเมล็ดกาแฟดิบนำเข้าจากต่างประเทศเท่านั้น
สำหรับ หน่วยงานภาครัฐ เอกชน และเกษตรกร รวมทั้งผู้สนใจ สามารถร่วมแสดงความคิดเห็นต่อ (ร่าง) ประกาศดังกล่าวผ่านระบบกลางของสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา (www.law.go.th) และเว็บไซต์กรมการค้าต่างประเทศ (www.dft.go.th) หรือสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ DFT Call Center โทร 1385 หรือกองบริหารสินค้าข้อตกลงและมาตรการการค้า กรมการค้าต่างประเทศ โทร 0 2547 4734
