WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

ค้าสิงคโปร์

นภินทร ถกรัฐมนตรีการค้าสิงคโปร์ เร่งขึ้นทะเบียนฟาร์มไข่ เปิดตลาดสุกร ร่วมมือท่องเที่ยว

นภินทร ใช้จังหวะช่วงเข้าร่วมประชุมรัฐมนตรีเอเปก ที่สหรัฐฯ นัดหารือทวิภาคีกับรัฐมนตรีการค้าและอุตสาหกรรม สิงคโปร์ ผลักดันให้เร่งขึ้นทะเบียนฟาร์มไข่ไก่ออร์แกนิก และเปิดตลาดเนื้อสุกรให้ไทย พร้อมหาทางร่วมมือเศรษฐกิจดิจิทัล เชื่อมระบบการชำระเงิน PromptPay กับ PayNow ร่วมมือด้านการท่องเที่ยวเรือสำราญและเรือยอร์ช และร่วมส่งเสริม SMEs

         นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในระหว่างการเข้าร่วมการประชุมรัฐมนตรีเอเปก ครั้งที่ 34 เมื่อวันที่ 13 พ.ย.2566 ณ นครซานฟรานซิสโก รัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐฯ ได้พบหารือทวิภาคีกับนายกาน คิม ยอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมของสิงคโปร์ โดยทั้งสองฝ่าย ได้หารือแนวทางส่งเสริมความสัมพันธ์การค้าการลงทุนระหว่างกันในทุกมิติ ครอบคลุมถึงการท่องเที่ยว และติดตามความคืบหน้าการดำเนินงานภายใต้กรอบความร่วมมือเพื่อเสริมสร้างความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจระหว่างไทยและสิงคโปร์ (Singapore-Thailand Enhanced Economic Relationship : STEER)

        ทั้งนี้ ไทยได้แสดงความพร้อมในการเป็นแหล่งวัตถุดิบด้านเกษตรและอาหารที่มีคุณภาพ ทั้งผัก ผลไม้ และเนื้อสัตว์ เพื่อสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารให้กับสิงคโปร์ และได้ผลักดันให้สิงคโปร์เร่งขึ้นทะเบียนฟาร์มไข่ไก่ออร์แกนิก และเร่งเปิดตลาดให้กับเนื้อสุกรของไทย เพื่อให้ไทยสามารถส่งออกสินค้าดังกล่าวไปยังสิงคโปร์ได้เพิ่มเติมจากที่ได้อนุมัติการขึ้นทะเบียนฟาร์มไข่นกกะทาของไทย

และทำให้ไทยสามารถส่งออกไข่นกกะทาไปสิงคโปร์ได้แล้ว ตั้งแต่เดือน มี.ค.2566 ที่ผ่านมา โดยสิงคโปร์ยังได้แจ้งว่า ยินดีนำเข้าสินค้าเกษตรจากไทย โดยเฉพาะทุเรียนที่เป็นที่นิยมของผู้บริโภคในสิงคโปร์เป็นอย่างมาก

         ขณะเดียวกัน ได้หารือเรื่องความร่วมมือเศรษฐกิจดิจิทัล ซึ่งไทยและสิงคโปร์ต่างมีศักยภาพที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันได้อีกมาก เพื่อต่อยอดจากความสำเร็จของการเชื่อมโยงระบบการชำระเงินระหว่าง PromptPay ของไทย และ PayNow ของสิงคโปร์ ซึ่งจะช่วยสนับสนุนการขยายตัวของการค้าการลงทุน อีกทั้งสิงคโปร์ยังเชิญชวนให้ไทยเข้าร่วมความตกลงหุ้นส่วนด้านเศรษฐกิจดิจิทัล (DEPA) ซึ่งสิงคโปร์เป็นผู้ริเริ่ม

            นอกจากนี้ ทั้งสองฝ่ายยังได้หารือถึงประเด็นการส่งเสริมความร่วมมือด้านการท่องเที่ยวที่เห็นพ้องจะร่วมกันผลักดันให้ทั้งสองประเทศเป็นจุดหมายปลายทางของเรือสำราญและเรือยอร์ช ที่จะช่วยสร้างรายได้ให้กับประเทศ รวมถึงดึงดูดให้นักท่องเที่ยวรายได้สูงเดินทางเข้ามาจำนวนมาก

         “สิงคโปร์ถือเป็นพันธมิตรทางเศรษฐกิจที่สำคัญของไทยมาโดยตลอด และเป็นผู้นำในการส่งเสริมธุรกิจขนาดกลางและรายย่อย (SMEs) โดยระหว่างการหารือได้แลกเปลี่ยนความเห็นเกี่ยวกับแนวทางการส่งเสริมขีดความสามารถทางการแข่งขันให้กับ SMEs ซึ่งสิงคโปร์เห็นว่า การให้ SMEs สามารถเข้าถึงเทคโนโลยีดิจิทัลและได้ใช้ประโยชน์จากการค้าอิเล็กทรอนิกส์เป็นสิ่งสำคัญมาก และยินดีร่วมมือกับไทยในการส่งเสริมให้ SMEs ของทั้งสองฝ่ายมีความร่วมมือในการต่อยอดธุรกิจให้สามารถส่งออกสินค้าไปยังตลาดโลกได้”นายนภินทรกล่าว

         สิงคโปร์เป็นคู่ค้าอันดับที่ 4 ของไทยในอาเซียน และเป็นคู่ค้าอันดับที่ 8 ของไทยในโลก โดยในปี 2565 การค้าระหว่างไทยกับสิงคโปร์ มีมูลค่า 18,477.09 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่มขึ้น 12.67% โดยไทยส่งออกไปสิงค์โปร์ มูลค่า 10,279.79 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 13.48% และไทยนำเข้าจากสิงคโปร์ มูลค่า 8,197.29 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพิ่ม 11.68% สินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป อัญมณีและเครื่องประดับ แผงวงจรไฟฟ้า เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ และสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ เครื่องคอมพิวเตอร์และส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ น้ำมันสำเร็จรูป เครื่องเพชรพลอย อัญมณี และเงินแท่งและทองคำ

 

Click Donate Support Web 

 

 Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

MTL 720x100

SME 720x100 66

kasat 720x100TOA 720x100

วิริยะ 720x100

AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100ais 720x100

TU 720x100 66

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!