WORLD7

BANPU2024

smed PIONEER 720x100

1การค้าผ่านแดนไปจีน

การค้าผ่านแดนไปจีน ปี 2566 ขยายตัว 44.1% ส่งออกทุเรียนสดไปจีนครองแชมป์ มูลค่ากว่า 9 หมื่นล้านบาท ขยายตัว 81.7%

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยตัวเลขการค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือนธันวาคม 2566 มีมูลค่าการค้ารวม 142,567 ล้านบาท เป็นการส่งออก 80,929 ล้านบาท และการนำเข้า 61,638 ล้านบาท โดยไทยได้ดุลการค้าในเดือนธันวาคม 2566 ทั้งสิ้น 19,292 ล้านบาท และเมื่อรวมทั้งปี 2566 การค้าชายแดนและผ่านแดนของไทยมีมูลค่าการค้ารวม 1,742,808 ล้านบาท ลดลง -2.6% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นการส่งออก 980,729 ล้านบาท (-4.6%) และการนำเข้า 762,079 ล้านบาท (+0.2%) โดยไทยได้ดุลการค้าทั้งปี 2566 รวม 218,650 ล้านบาท

การค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน 4 ประเทศ ทั้งปี 2566 มีมูลค่าการค้ารวม 929,730 ล้านบาท แบ่งเป็นการส่งออก 580,100 ล้านบาท การนำเข้า 349,630 ล้านบาท และไทยได้ดุลการค้ารวมทั้งสิ้น 230,471 ล้านบาท โดยมาเลเซียเป็นประเทศคู่ค้าชายแดนอันดับ 1 ของไทย โดยในปี 2566 มีมูลค่าการค้ารวม 287,155 ล้านบาท รองลงมา ได้แก่

สปป.ลาว 260,512 ล้านบาท เมียนมา 220,327 ล้านบาท และกัมพูชา 161,736 ล้านบาท สินค้าส่งออกชายแดนสำคัญในปี 2566 ได้แก่ น้ำมันดีเซล 40,143 ล้านบาท น้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ 19,672 ล้านบาท และเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ อื่นๆ 15,120 ล้านบาท โดยด่านศุลกากรที่มีมูลค่าการค้าชายแดนสูงสุด ได้แก่ ด่านศุลกากรสะเดา 226,254 ล้านบาท รองลงมาได้แก่ ด่านศุลกากรแม่สอด และด่านศุลกากรอรัญประเทศ มีมูลค่าการค้า 106,835 ล้านบาท และ 97,185 ล้านบาท ตามลำดับ

ด้านการค้าผ่านแดนไปประเทศที่สาม ทั้งปี 2566 มีมูลค่าการค้ารวม 813,078 ล้านบาท ขยายตัว 11.2% เมื่อเทียบกับปีก่อน เป็นการส่งออก 400,629 ล้านบาท (+5.3%) และการนำเข้า 412,449 ล้านบาท (+17.7%) โดยจีนเป็นคู่ค้าผ่านแดนอันดับ 1 ในปี 2566 มีมูลค่าการค้ารวม 423,116 ล้านบาท รองลงมาได้แก่ สิงคโปร์ 106,676 ล้านบาท และเวียดนาม 70,138 ล้านบาท

สินค้าส่งออกผ่านแดนสำคัญในปี 2566 ได้แก่ ทุเรียนสด 93,692 ล้านบาท ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ 77,685 ล้านบาท และยางแท่ง TSNR 28,280 ล้านบาท โดยด่านศุลกากรที่มีมูลค่าการค้าผ่านแดนสูงสุด ได้แก่ ด่านศุลกากรมุกดาหาร 286,425 ล้านบาท ด่านศุลกากรสะเดา 207,944 ล้านบาท และด่านศุลกากรนครพนม 95,392 ล้านบาท

อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ กล่าวว่า ในปี 2566 แม้ว่าการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านของไทยจะชะลอตัวจากสถานการณ์ภายในประเทศที่เปราะบางของประเทศเพื่อนบ้าน อาทิ สปป.ลาว ที่อัตราเงินเฟ้อสูงและค่าเงินกีบยังคงอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์การสู้รบในเมียนมา ความต้องการบริโภคในประเทศของกัมพูชาที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ อย่างไรก็ตาม การค้าผ่านแดนของไทยกลับมาขยายตัวอีกครั้งทั้งการมูลค่าการค้ารวมและการส่งออก

โดยเฉพาะการค้าผ่านแดนไปจีน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 52% ของการค้าผ่านแดนของไทย มีมูลค่าการค้ารวม 423,116 ล้านบาท ขยายตัว 44.1% และมูลค่าการส่งออก 213,815 ล้านบาท ขยายตัว 35.4% ซึ่งสินค้าส่งออกผ่านแดนไปจีนที่ขยายตัวสูงในปี 2566 ได้แก่ ทุเรียนสด 93,664 ล้านบาท (+81.7%) ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ 26,975 ล้านบาท (+41.8%) และไม้แปรรูป 19,187 ล้านบาท (+49.9%)

โดยด่านศุลกากรสำคัญในการส่งออกทุเรียนสดไปจีน ได้แก่ ด่านศุลกากรมุกดาหาร นครพนม และเชียงของ ในขณะที่ ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ ส่งออกผ่านด่านศุลกากรมุกดาหาร และไม้แปรรูป ส่งออกผ่านด่านศุลกากรสะเดา และปาดังเบซาร์

“ในปี 2567 กระทรวงพาณิชย์จะยังคงเร่งรัดการค้าชายแดนและผ่านแดนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ ‘ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการค้าและการลงทุนชายแดนและผ่านแดน ปี 2567 – 2570’ โดยบูรณาการกับหน่วยงานรัฐที่เกี่ยวข้องในการผลักดันการค้าชายแดนและผ่านแดนตามนโยบายของรัฐบาล อาทิ การจัดตั้งศูนย์บริการค้าชายแดนแบบเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One Stop Service: OSS) และการเชื่อมโยงเอกสารส่งออก – นำเข้าผ่านระบบ National Single Window (NSW) เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าชายแดน/ผ่านแดนแบบครบวงจร

ซึ่งในปี 2566 ที่ผ่านมาสามารถเปิดให้บริการศูนย์ OSS ได้แล้วใน 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ตาก ตราด สงขลา หนองคาย นครพนม มุกดาหาร และอุดรธานี นอกจากนี้ รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ (นายภูมิธรรม เวชยชัย) ได้มอบนโยบายให้กับกระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ให้เร่งรัดดำเนินการในทุกมิติเพื่อให้การค้าและการลงทุนขยายตัว

โดยตนเองก็มีกำหนดเดินทางไปพบผู้บริหารระดับสูงของ สปป.ลาว เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาอุปสรรคการค้าชายแดนระหว่างไทยและ สปป.ลาว ตลอดจนส่งเสริมการค้าชายแดนและผ่านแดนให้ขยายตัวมากยิ่งขึ้น”นายรณรงค์ กล่าว

รณรงค์ พูลพิพัฒน์

ปิดยอดค้าชายแดน-ผ่านแดน ปี 66 ทำได้ 1.74 ล้านล้าน ส่งไปจีนพุ่งกระฉูด 44%

กรมการค้าต่างประเทศสรุปยอดการค้าชายแดนและผ่านแดนปี 66 ทำได้มูลค่า 1,742,808 ล้านบาท ลดลง 2.6% เป็นไปทิศทางเดียวกันกับการส่งออกภาพรวมที่ลดลง และมีสาเหตุจากเศรษฐกิจ สปป.ลาว ชะลอตัว เมียนมาสู้รบ และกัมพูชา กำลังบริโภคยังไม่ฟื้นตัวดี แต่ยอดการค้าผ่านแดนไปจีนพุ่งกระฉูดถึง 44.09% ส่งออกทุเรียนสด นำโด่ง มูลค่ากว่า 9 หมื่นล้านบาท เพิ่ม 81.7%

นายรณรงค์ พูลพิพัฒน์ อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การค้าชายแดนและการค้าผ่านแดน เดือน ธ.ค.2566 มีมูลค่า 142,567 ล้านบาท ลดลง 1.77% แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 80,929 ล้านบาท ลดลง 5.37% และการนำเข้ามูลค่า 61,638 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 3.39% โดยไทยได้ดุลการค้า มูลค่า 19,292 ล้านบาท และหากแยกเป็นการค้าชายแดนกับ 4 ประเทศ มาเลเซีย สปป.ลาว กัมพูชา และเมียนมา มีมูลค่า 74,573 ล้านบาท ลดลง 7.83%

แยกเป็นการส่งออกมูลค่า 45,603 ล้านบาท ลดลง 7.88% และนำเข้า มูลค่า 28,970 ล้านบาท ลดลง 7.74% ได้ดุลการค้า 16,634 ล้านบาท ส่วนการค้าผ่านแดนไปประเทศที่ 3 จีน สิงคโปร์ เวียดนาม และประเทศอื่น ๆ มีมูลค่า 67,994 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.86% แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 35,326 ล้านบาท ลดลง 1.92% และนำเข้ามูลค่า 32,668 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.79% ได้ดุลการค้า 2,658 ล้านบาท

ส่วนยอดรวมการค้าชายแดนและผ่านแดนทั้งปี 2566 (ม.ค.-ธ.ค.) มีมูลค่า 1,742,808 ล้านบาท ลดลง 2.6% แบ่งเป็นการส่งออกมูลค่า 980,729 ล้านบาท ลดลง 4.6% ซึ่งเป็นไปทิศทางเดียวกันกับการส่งออกภาพรวม ที่ขยายตัวลดลง และการนำเข้ามูลค่า 762,079 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.2% โดยไทยได้ดุลการค้า 218,650 ล้านบาท

ทั้งนี้ เมื่อแยกเป็นการค้าชายแดนกับ 4 ประเทศ ทั้งปี พบว่า มีมูลค่าการค้ารวม 929,730 ล้านบาท ลดลง 12.06% แบ่งเป็นการส่งออก 580,100 ล้านบาท ลดลง 10.38% การนำเข้า 349,630 ล้านบาท ลดลง 14.72% ได้ดุลการค้า 230,471 ล้านบาท โดยมาเลเซียเป็นประเทศคู่ค้าชายแดนอันดับ 1 ของไทย มีมูลค่าการค้ารวม 287,155 ล้านบาท ลด 14.57% รองลงมา ได้แก่ สปป.ลาว 260,512 ล้านบาท เพิ่ม 0.18% เมียนมา 220,327 ล้านบาท ลด 16.46% และกัมพูชา 161,736 ล้านบาท ลด 18.05%

โดยสินค้าส่งออกชายแดนสำคัญในปี 2566 ได้แก่ น้ำมันดีเซล 40,143 ล้านบาท น้ำมันสำเร็จรูปอื่นๆ 19,672 ล้านบาท และเครื่องคอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ อื่นๆ 15,120 ล้านบาท และด่านศุลกากรที่มีมูลค่าการค้าชายแดนสูงสุด ได้แก่ ด่านศุลกากรสะเดา 226,254 ล้านบาท รองลงมาด่านศุลกากรแม่สอด และด่านศุลกากรอรัญประเทศ มีมูลค่าการค้า 106,835 ล้านบาท และ 97,185 ล้านบาท ตามลำดับ

ด้านการค้าผ่านแดนไปประเทศที่ 3 ทั้งปี 2566 มีมูลค่า 813,078 ล้านบาท เพิ่ม 11.22% แยกเป็นการส่งออก 400,629 ล้านบาท เพิ่ม 5.3% และการนำเข้า 412,449 ล้านบาท เพิ่ม 17.7% โดยจีนเป็นคู่ค้าผ่านแดนอันดับ 1 ในปี 2566 มีมูลค่าการค้า 423,116 ล้านบาท เพิ่ม 44.09% รองลงมาสิงคโปร์ 106,676 ล้านบาท ลด 11.85% เวียดนาม 70,138 ล้านบาท ลด 13.15% และประเทศอื่นๆ 213,147 ล้านบาท ลด 9.55%

โดยสินค้าส่งออกผ่านแดนสำคัญในปี 2566 ได้แก่ ทุเรียนสด 93,692 ล้านบาท ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ 77,685 ล้านบาท และยางแท่ง TSNR 28,280 ล้านบาท และด่านศุลกากรที่มีมูลค่าการค้าผ่านแดนสูงสุด ได้แก่ ด่านศุลกากรมุกดาหาร 286,425 ล้านบาท ด่านศุลกากรสะเดา 207,944 ล้านบาท และด่านศุลกากรนครพนม 95,392 ล้านบาท

นายรณรงค์ กล่าวว่า ภาพรวมการค้าชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้านในปี 2566 ที่ชะลอตัว มาจากสถานการณ์ภายในประเทศที่เปราะบางของประเทศเพื่อนบ้าน โดย สปป.ลาว อัตราเงินเฟ้อสูงและค่าเงินกีบยังคงอ่อนค่าอย่างต่อเนื่อง สถานการณ์การสู้รบในเมียนมา ความต้องการบริโภคในประเทศของกัมพูชาที่ยังไม่ฟื้นตัวอย่างเต็มที่ แต่ด้านการค้าผ่านแดนของไทยกลับมาขยายตัวอีกครั้ง ทั้งมูลค่าการค้ารวมและการส่งออก

โดยเฉพาะการค้าผ่านแดนไปจีน ซึ่งคิดเป็นสัดส่วน 52% ของการค้าผ่านแดนของไทย โดยสินค้าส่งออกสำคัญที่ขยายตัวสูง เช่น ทุเรียนสด 93,664 ล้านบาท เพิ่ม 81.7% ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ 26,975 ล้านบาท เพิ่ม 41.8% และไม้แปรรูป 19,187 ล้านบาท เพิ่ม 49.9% โดยด่านศุลกากรสำคัญในการส่งออกทุเรียนสดไปจีน ได้แก่ ด่านศุลกากรมุกดาหาร นครพนม และเชียงของ ในขณะที่ ฮาร์ด ดิสก์ ไดรฟ์ ส่งออกผ่านด่านศุลกากรมุกดาหาร และไม้แปรรูป ส่งออกผ่านด่านศุลกากรสะเดา และปาดังเบซาร์

ส่วนปี 2567 กรมจะเดินหน้าเร่งรัดการค้าชายแดนและผ่านแดนอย่างต่อเนื่อง ภายใต้ ‘ยุทธศาสตร์การส่งเสริมการค้าและการลงทุนชายแดนและผ่านแดน ปี 2567–2570’ โดยจะเดินหน้าจัดตั้งศูนย์บริการค้าชายแดนแบบเบ็ดเสร็จจุดเดียว (One Stop Service : OSS) และการเชื่อมโยงเอกสารส่งออก–นำเข้าผ่านระบบ National Single Window (NSW) อย่างต่อเนื่อง เพื่ออำนวยความสะดวกด้านการค้าชายแดน ผ่านแดนแบบครบวงจร

ซึ่งในปี 2566 สามารถเปิดให้บริการศูนย์ OSS ได้แล้วใน 8 จังหวัด ได้แก่ เชียงราย ตาก ตราด สงขลา หนองคาย นครพนม มุกดาหาร และอุดรธานี และยังมีแผนที่จะเดินทางไปพบผู้บริหารระดับสูงของ สปป.ลาว เพื่อหารือแนวทางการแก้ไขปัญหาอุปสรรคการค้าชายแดนระหว่างไทยและ สปป.ลาว และประเทศอื่น ๆ รวมทั้งจัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าชายแดนในรูปแบบต่างๆ

 

Click Donate Support Web 

AXA 720 x100 

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

MTL 720x100

kasat 720x100

วิริยะ 720x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100ais 720x100

TU 720x100 66

gen 720x100

CKPower 720x100

TOA 720x100

SME 720x100 66

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!