WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ภูมิธรรม

ภูมิธรรม โชว์ผลงาน 6 เดือนรัฐบาลเศรษฐา 5 พืชเกษตรสำคัญ ราคาขึ้นยกแผง

    ภูมิธรรม ส่องราคาสินค้าเกษตรสำคัญ 5 ชนิด ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และยางพาราย้อนหลัง 6 เดือน ตั้งแต่รัฐบาลเศรษฐา เข้ามาบริหารประเทศ พบราคาขยับขึ้นและทรงตัวอยู่ในระดับสูงได้ต่อเนื่อง เผยเพิ่มขึ้นเฉลี่ยตั้งแต่ 8-45% ผ่านผลงานการผนึกเอกชนทำตลาดส่งออก วางแผนบริหารจัดการเชิงรุก ช่วยลดต้นทุน และการบริหารจัดการน้ำ  

      นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กระทรวงพาณิชย์ได้ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าเกษตรสำคัญ 5 ชนิด ได้แก่ ข้าว มันสำปะหลัง ปาล์มน้ำมัน ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และยางพารา ที่มีมูลค่าตลาดรวมต่อปีไม่น้อยกว่า 8-9 แสนล้านบาท พบว่า ตั้งแต่รัฐบาลนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เข้ามาบริหารราชการ ในเดือน ก.ย.2566 จนถึงปัจจุบัน รวมระยะเวลาประมาณ 6 เดือน ทุกรายการมีราคาขยับขึ้น และยังทรงตัวอยู่ในระดับสูงได้ต่อเนื่อง

     ทั้งนี้ เมื่อเทียบกับระหว่างปี 2558 ถึงปี 2566 หรือช่วง 9 ปี ในรัฐบาลประยุทธ์ พบว่า ณ เดือน ก.พ.2567 ข้าวเปลือกหอมมะลิ ราคา 14,995 บาทต่อตัน จากราคา 13,315 บาทต่อตัน ส่วนต่างราคาสูงขึ้น 1,680 บาทต่อตัน หรือเพิ่มขึ้น 13% ข้าวเปลือกเจ้า 12,181 บาทต่อตัน จากราคา 8,443 บาทต่อตัน ส่วนต่าง 3,738 บาทต่อตัน หรือเพิ่มขึ้น 44% ข้าวเปลือกเหนียว 13,640 บาทต่อตัน จากราคา 11,847 บาทต่อตัน ส่วนต่าง 1,793 บาทต่อตัน หรือเพิ่มขึ้น 15% มันสำปะหลัง 3.56 บาทต่อกิโลกรัม (กก.) จากราคา 2.45 บาทต่อกก. ส่วนต่าง 1.20 บาทต่อกก. หรือเพิ่มขึ้น 45% ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ 9.84  บาทต่อกก. จากราคา 9.10 บาทต่อกก. ส่วนต่าง 0.33 บาทต่อกก. หรือเพิ่มขึ้น 8% ปาล์มน้ำมัน 5.83 บาทต่อกก. จากราคา 5.23 บาทต่อกก. ส่วนต่าง 1.22 บาทต่อกก. หรือเพิ่มขึ้น 12% และยางแผ่นดิบชั้น 3 ราคา 54.51 บาทต่อกก. จากราคา 47.17 บาทต่อกก. ส่วนต่าง 7.34 บาทต่อกก. หรือเพิ่มขึ้น 16%

   สำหรับ ปัจจัยหลักที่มีผลต่อราคาสินค้าเกษตรมีแนวโน้มที่สูงขึ้น คือ การผลักดันส่งออก ที่รัฐบาลได้เน้นการจับมือภาคเอกชนในการทำตลาด ทั้งเร่งเจรจาซื้อขายข้าวสารให้กับประเทศคู่ค้า ที่มีการประกาศไว้อย่างญี่ปุ่น จีน ฟิลิปปินส์ อินโดนีเซีย มาเลเซีย ส่งผลต่อปริมาณเกินกว่าเป้าหมายที่ 8 ล้านตันต่อปี และผลักดันการส่งออกมันสำปะหลัง โดยราคาส่งออกแป้งมันปัจจุบันสูงกว่าราคาเฉลี่ยปี 2566 แล้ว 4.6% หรือจากราคา 19.15 บาทต่อกก. วันนี้เฉลี่ย 20.03 บาทต่อกก.

      นอกจากนี้ รัฐบาลยังได้มุ่งการยกระดับเพิ่มผลิตผลสินค้าเกษตร ภายใต้นโยบาย “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” โดยได้เร่งรัดผลักดันพันธุ์ข้าวชนิดใหม่ตอบโจทย์ตลาดโลก ภายใต้หลักการผลผลิตสูง ทนทานโรค ต้นทุนต่ำ เพื่อให้แข่งขันได้ในตลาดโลก โดยผลิตเมล็ดพันธุ์ข้าวให้ได้ 535,000 ตัน ภายในปี 2570 และยังสนับสนุนการบริหารจัดการสินค้าเกษตรให้สอดคล้องกับระเบียบการค้า มาตรการด้านสิ่งแวดล้อมสากล เช่น ข้าว ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ อ้อย รวมถึงผลไม้ ที่ได้ส่งเสริมการแปรรูปผลไม้ด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่เพื่อยืดอายุและคงคุณภาพ ในการเพิ่มขีดความสามารถในการส่งออกของผลไม้ไทย

    ขณะเดียวกัน เมื่อรัฐบาลเศรษฐาเข้าบริหารประเทศ ได้ให้ความสำคัญต่อการบริหารจัดการกลไกตลาด วางแผนบริหารจัดการเชิงรุกในทุกสินค้า ตั้งแต่จัดการก่อนเกิดปัญหา อย่างข้าว ช่วยชาวนา โรงสีเก็บสต็อกในช่วงผลผลิตออกสู่ตลาดมาก ช่วยลดต้นทุนชาวนา ไร่ละ 1,000 บาท ไม่เกิน 10 ไร่ มันสำปะหลัง ได้ส่งเสริมการแปรรูปหัวมันสดเป็นมันสับ เพื่อเพิ่มโอกาสและมูลค่าการจำหน่ายผลผลิตของชาวไร่มัน เร่งเพิ่มสภาพคล่องให้ลานมัน โรงแป้ง ในการรวบรวมหัวมันสด ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เพิ่มสภาพคล่องให้ผู้รวบรวมในการรวบรวมข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และปาล์มน้ำมัน เข้าบริหารจัดการสมดุลสต็อกน้ำมันปาล์ม ให้มีน้ำมันปาล์มเพียงพอต่อการบริโภคในประเทศ การส่งเสริมเป็นพลังงานทางเลือก และผลักดันส่งออกเพื่อบริหารจัดการผลผลิตส่วนเกิน

     ส่วนในระยะกลางถึงยาว ช่วยลดต้นทุนชาวไร่ชาวนาอย่างยั่งยืน ตั้งแต่ช่วยลดต้นทุนปุ๋ย เชื่อมโยงปุ๋ยราคาถูกให้แก่เกษตรกรผ่านสถาบันเกษตรกร สนับสนุนเกษตรกรรุ่นใหม่ เพื่อให้สามารถเข้าถึงการใช้เทคโนโลยีและการตลาดสมัยใหม่ในยุคดิจิตอล สนับสนุนการรวมกลุ่มและการใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยบริหารจัดการ ตั้งแต่กระบวนการ เพาะปลูก เก็บเกี่ยว และจำหน่าย เพื่อลดความสูญเสียและเสียหายของผลผลิต ลดภาระด้านการเงิน ด้วยมาตรการพักชำระหนี้ให้กับเกษตรกรที่ลูกหนี้รายย่อย ธ.ก.ส. ไม่เกิน รายละ 300,000 บาท เป็นเวลา 1 ปี และพัฒนาศักยภาพเพื่อฟื้นฟูลูกหนี้ ด้วยการจัดอบรม เกษตรกร คู่ขนานกับมาตรการพักชำระหนี้ เพิ่มโอกาสให้เกษตรกรนำเงินไปลงทุนปรับเปลี่ยนหรือขยายการประกอบอาชีพมีความสามารถในการแข่งขันและเพิ่มความสามารถในการชำระหนี้

   “รัฐบาลนี้ ยังได้เร่งพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน บริหารจัดการน้ำให้มีประสิทธิภาพตอบสนองความต้องการในแต่ละพื้นที่ เช่น พัฒนาแหล่งน้ำต้นทุนในพื้นที่ทุ่งกุลาร้องไห้พื้นที่ จ.กาญจนบุรี การบริหารจัดการน้ำท่วม-น้ำแล้ง รวมถึงการบริหารจัดการพื้นที่เกษตรด้วยนวัตกรรมเกษตรแม่นยำข้างต้น สะท้อนถึงแนวทางและเป้าหมายของรัฐบาลเศรษฐา ภายใต้นโยบายลดรายจ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส” นายภูมิธรรมกล่าว

 

Click Donate Support Web 

SME 720x100 66

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

MTL 720x100

kbank 720x100 66

QIC 720x100

วิริยะ 720x100AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

ais 720x100

iconmotor

gen 720x100

TOA 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!