WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

พิมพ์ชนก พิตต์ฟีลด์

WTO เปิด'อาบูดาบีแพกเกจ' ประชุมรัฐมนตรีครั้งที่ 13 สมาชิกชงประเด็นการค้าใหม่เพียบ

WTO เผยแพร่'อาบูดาบีแพกเกจ' การประชุมรัฐมนตรี WTO ครั้งที่ 13 ให้ความสำคัญกับการค้าและสิ่งแวดล้อม โลกร้อน แต่มีเรื่องใหม่เพียบ ทั้งการค้าและนโยบายอุตสาหกรรม การค้าและการมีส่วนร่วม ที่เสนอโดยประเทศพัฒนาแล้ว ส่วนประเทศกำลังพัฒนา เสนอการพัฒนาอุตสาหกรรม การค้าบริการระบบการแพทย์ทางไกล ต้นทุนการโอนเงิน ความหลากหลายทางชีวภาพ โกลบอลซัปพลายเชน ระบุยังต้องรอลุ้นว่าจะมีเรื่องใดได้รับฉันทามติให้ไปเจรจากันต่อ

     นางพิมพ์ชนก พิตต์ฟีลด์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การการค้าโลกและองค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก ณ นครเจนีวา เปิดเผยว่า เมื่อวันศุกร์ที่ 16 ก.พ.2567 ที่ผ่านมา องค์การการค้าโลก (WTO) ได้เผยแพร่ อาบูดาบีแพกเกจ (Draft Abu Dhabi Package for the Thirteenth WTO Ministerial Conference) เพื่อนำเสนอในการประชุมรัฐมนตรีการค้าของ WTO ครั้งที่ 13 ที่กรุงอาบูดาบี ระหว่างวันที่ 26-29 ก.พ.2567 โดยหนึ่งในเอกสารสำคัญของ Abu Dhabi package คือ ร่างปฏิญญารัฐมนตรีอาบูดาบี ซึ่งเป็นเอกสารสรุปท่าทีร่วมกันของสมาชิก WTO ทั้งหมด 164 ประเทศต่อการดำเนินงานที่ผ่านมาหลังจากการประชุมระดับรัฐมนตรี ครั้งที่ 12 และแนวทางต่อการดำเนินงานของ WTO ในอนาคต

         ทั้งนี้ ร่างปฏิญญาอาบูดาบีดังกล่าว ได้รวมข้อเสนอสำคัญที่ประเทศสมาชิกบางประเทศต้องการผลักดัน เพื่อให้ WTO ดำเนินการในช่วงต่อไป เพื่อตอบสนองต่อความท้าทายต่างๆ ในโลกการค้าปัจจุบัน ซึ่งเรื่องสำคัญที่ทุกประเทศสนใจจะเป็นเรื่องการค้าและสิ่งแวดล้อม โลกร้อน แต่ก็มีเรื่องใหม่ๆ ที่มีประเทศเสนอเข้ามา

         นางพิมพ์ชนก กล่าวว่า ในส่วนของประเทศพัฒนาแล้ว ได้พยายามผลักดันให้ WTO เริ่มหารือเกี่ยวกับการค้าและนโยบายอุตสาหกรรม (Trade and industrial policy) และการค้าและการมีส่วนร่วม (trade and inclusion) ที่เสนอโดยแคนาดาและออสเตรเลียตามลำดับ ซึ่งทั้งสองข้อเสนอนี้ มีพื้นฐานมาจากข้อเสนอของสหภาพยุโรปที่ถูกเผยแพร่ออกมาเมื่อปี 2566 โดยเรื่องการค้าและนโยบายอุตสาหกรรมมีวัตถุประสงค์เพื่อให้สมาชิก WTO หารือกันถึงความท้าทายและเครื่องมือทางนโยบายที่ประเทศสมาชิกใช้ในการพัฒนาอุตสาหกรรมของตน

รวมทั้งแนวทางในการยกระดับความโปร่งใสในการแจ้งข้อมูลมาตรการอุดหนุนภาคอุตสาหกรรมและแนวทางในการปรับปรุงกฎระเบียบที่เกี่ยวข้องของ WTO ที่สหภาพยุโรปอ้างว่าจำเป็นต้องมีความเข้มงวดมากขึ้น เพื่อแก้ไขปัญหาการอุดหนุนภาคอุตสาหกรรม ที่ประเทศสมาชิกหลายรายนำมาใช้กันอย่างกว้างขวาง ก่อให้เกิดการผลิตล้นเกินและการบิดเบือนทางการค้าไปยังประเทศสมาชิกอื่น

         สำหรับ ข้อเสนอของออสเตรเลีย เสนอให้ WTO หารือในประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการค้าและการมีส่วนร่วม ซึ่งยังไม่ได้ระบุหัวข้อรายละเอียดที่ชัดเจน แต่คาดว่าน่าจะเป็นเรื่องของการยกระดับบทบาทของสตรีในการพัฒนาทางเศรษฐกิจ การสนับสนุน MSMEs และอาจรวมการส่งเสริมการกระจายผลประโยชน์จากการค้าระหว่างประเทศไปยังทุกภาคส่วนของประเทศสมาชิกต่าง ๆ ที่สหภาพยุโรปเคยเสนอเมื่อปี 2566

         ส่วนประเทศกำลังพัฒนา มีข้อเสนออยู่หลายข้อด้วยกัน ที่สำคัญ คือ ข้อเสนอของกลุ่มแอฟริกา 3 ข้อ หนึ่งในนั้นคือความพยายามผลักดันให้สมาชิกหารือถึงพื้นที่เชิงนโยบายสำหรับการพัฒนาอุตสาหกรรมและการสร้างความหลากหลายทางเศรษฐกิจ (Policy space for industrial development) ที่กลุ่มแอฟริกาอ้างว่ากฎระเบียบของ WTO ห้ามหรือไม่ให้ความยืดหยุ่นต่อประเทศกำลังพัฒนาในการใช้มาตรการทางการค้าเพื่อพัฒนาอุตสาหกรรม อาทิ การห้ามใช้มาตรการอุดหนุนการส่งออก

และมาตรการข้อบังคับใช้วัตถุดิบที่ผลิตในประเทศ (Local content requirement) สำหรับนักลงทุนจากต่างประเทศ ที่ประเทศพัฒนาแล้วเคยใช้จนประสบความสำเร็จในการพัฒนาอุตสาหกรรมของตนในอดีต โดยกลุ่มแอฟริกายังพยายามผลักดันให้มีการหารือเกี่ยวกับการค้าและการถ่ายทอดเทคโนโลยี (Trade and transfer of technology) เพื่อหาทางส่งเสริมการถ่ายทอดเทคโนโลยีให้มากขึ้น และการหารือการค้าและหนี้ (Trade and debt) เพื่อหาทางออกให้กับประเทศกำลังพัฒนาที่เป็นหนี้ ทำให้ไม่มีทรัพยากรเพียงพอในการลงทุนในอุตสาหกรรม หรือจัดซื้อสินค้าและบริการที่จำเป็น

      นอกจากนี้ ประเทศกำลังพัฒนาขนาดใหญ่อย่างอินเดียยังพยายามผลักดันให้ WTO หารือใน 3 หัวข้อ ได้แก่ 1.การค้าบริการระบบการแพทย์ทางไกล (Telemedicine) และการจัดทำรายชื่อผู้ประกอบวิชาชีพทางสุขภาพ (Health professionals) 2.ต้นทุนการโอนเงินระหว่างประเทศ (Cost of remittances) และ 3.ความตกลง TRIPS และอนุสัญญาว่าด้วยความหลากหลายทางชีวภาพ (Convention on Biological Diversity: CBD) โดยมีประเทศกำลังพัฒนามากมาย

โดยเฉพาะในกลุ่มลาตินอเมริกาให้การสนับสนุน เนื่องจากประเทศกำลังพัฒนามีกำลังแรงงานภาคบริการจำนวนมาก รวมทั้งมีการส่งเงินจำนวนมากกลับประเทศมาตุภูมิ และยังมีความหลากหลายทางชีวภาพและภูมิปัญญาท้องถิ่นที่สามารถถูกนำมาต่อยอดได้มากมาย ซึ่งไม่ควรจะถูกนำไปหาประโยชน์โดยนักลงทุนต่างชาติ และยังมีข้อเสนอการเกษตรยั่งยืนของบราซิลที่ให้ประเทศสมาชิกหารือแนวทางการยกระดับการผลิต ผลิตภาพ และการค้าสินค้าเกษตร และอาหารที่ยั่งยืนและยืดหยุ่น

      “ทั้งหมดนี้ เป็นความพยายามของประเทศสมาชิก WTO ในการผลักดันให้ WTO เริ่มหารือเรื่องใหม่ๆ เพื่อไม่ให้ตกขบวนความเปลี่ยนแปลงทางเศรษฐกิจการค้าที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งนอกจากประเด็นข้างต้นนี้แล้ว ยังมีเรื่องอื่นๆ ด้วย เช่น ความมั่นคงเรื่อง global supply chain เป็นต้น

แต่ ณ ขณะนี้ ยังไม่ทราบว่า จะมีเรื่องใดที่ได้รับฉันทามติเห็นชอบให้อยู่ในผลลัพธ์การประชุม MC13 ที่อาบูดาบี ให้เป็นแนวทางให้ WTO หารือหรือเจรจาต่อไปบ้าง ซึ่งคำถามนี้เป็นคำถามสำคัญที่กำหนดอนาคตของการค้าโลก ซึ่งจะได้รับคำตอบจากการประชุม MC13 ภายในสิ้นเดือนก.พ.นี้”นางพิมพ์ชนกกล่าว

 

Click Donate Support Web  

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

EXIM One 720x90 C JMTL 720x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100sme 720x100AXA 720 x100ธกส 720x100

gen 720x100

AXA 720 x100

TOA 720x100

SME 720x100 66

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!