WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

OSS

นภินทร เปิดมหกรรมการค้าชายแดน จ.มุกดาหาร หนุนค้าขายไทย-ลาว-เวียดนาม-จีน

นภินทร เป็นประธานเปิด 'มหกรรมการค้าชายแดน' ครั้งที่ 1 ที่จังหวัดมุกดาหาร เพื่อขับเคลื่อนการค้าชายแดน และผ่านแดน ไปยังสปป.ลาว เวียดนาม และจีน เผยมีกิจกรรมไฮไลต์ ทั้งจัดแสดงและจำหน่ายสินค้าไทยและเพื่อนบ้าน การเจรจาจับคู่ธุรกิจ การจัดสัมมนา และประชุมติดตามสถานการณ์การค้าและศูนย์บริหาร OSS มุกดาหาร-นครพนม ที่พร้อมเปิดรองรับการส่งออกฤดูผลไม้ปีนี้

         นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังเป็นประธานเปิด 'มหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดมุกดาหาร' ระหว่างวันที่ 29 ก.พ.-3 มี.ค.2567 ณ ลานหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร ว่า รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจบริเวณจังหวัดชายแดน โดยจังหวัดมุกดาหารเป็นหนึ่งในจังหวัดชายแดนที่เป็นหัวเมืองสำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากมีเส้นทางคมนาคมและโลจิสติกส์ที่สามารถเชื่อมโยงไปยัง สปป.ลาว เวียดนาม และจีน

OSS

โดยมีเส้นทางขนส่งทางถนนที่สำคัญ คือ เส้นทาง R9 และยังเป็นจังหวัดที่มีจุดผ่านแดนซึ่งเป็นช่องทางการค้าสำคัญที่เป็นประตูการค้าไปสู่ สปป.ลาว และประเทศที่สาม คือ จุดผ่านแดนสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 2 เป็นช่องทางสำคัญในการขนส่งสินค้าชายแดนและผ่านแดน

กระทรวงพาณิชย์ จึงมีนโยบายในการเร่งรัดผลักดันและส่งเสริมการค้าชายแดนและผ่านแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการค้าและการลงทุนบริเวณชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจ ผ่านการจัดมหกรรมการค้าชายแดน

       สำหรับ การจัดงานครั้งนี้ เป็นการจัดมหกรรมการค้าชายแดน ครั้งแรกของปี 2567 ซึ่งได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร 7 หน่วยงาน คือ กรมการค้าต่างประเทศ จังหวัดมุกดาหาร กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

โดยกิจกรรมหลักภายในงานจะประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลัก คือ 1.การแสดงและจำหน่ายสินค้าของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน 120 คูหา อาทิ อาหารและเครื่องดื่มแปรรูป ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เครื่องนุ่งห่ม อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องจักสาน และผลิตภัณฑ์จากวิสาหกิจชุมชน และยังมีคูหาให้คำปรึกษาด้านการเงินระหว่างประเทศจาก 3 ธนาคารชั้นนำของไทย คือ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SMEs Bank) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร 2.การเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการการค้าชายแดนกับผู้นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน 3.การสัมมนา ‘ใช้ AI ช่วยค้า กำไรมาทันใจ’

โดยวิทยากรผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการทำตลาดออนไลน์จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย และ 4.การประชุมติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนจังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดนครพนม การติดตามการปฏิบัติงานของศูนย์ OSS มุกดาหาร พร้อมทั้ง การติดตามสถานการณ์การนำเข้าสินค้าจากจีนผ่านด่านมุกดาหาร ณ คลังสินค้าเร่งด่วน เพื่อติดตามกระบวนการนำเข้า และตรวจสอบมาตรฐานสินค้าเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่บริโภค

         “การจัดมหกรรมการค้าชายแดนในครั้งนี้ และการเปิดบริการของศูนย์ OSS ทั้งสองแห่ง ทั้งที่จังหวัดนครพนมและมุกดาหาร เพื่อรองรับการส่งออกผลไม้ในฤดูกาลอันใกล้นี้ จะเป็นส่วนขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในจังหวัดมุกดาหารและจังหวัดใกล้เคียง อันจะนำไปสู่การสร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ตลอดจนเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนไทยกับ สปป.ลาวให้เพิ่มมากขึ้น”นายนภินทรกล่าว

         ทั้งนี้ การจัดมหกรรมการค้าชายแดน ครั้งที่ 1 ที่จังหวัดมุกดาหาร เพราะเป็นจังหวัดชายแดนสอดคล้องนโยบายรัฐบาลในการเปิดประตูการค้าชายแดน 4 ด้าน 4 ประเทศ โดยในปี 2566 ที่ผ่านมา  การค้าชายแดนและผ่านแดนจังหวัดมุกดาหารมีมูลค่ารวมประมาณ 340,000 ล้านบาท และคาดว่าในปี 2567 จะมีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนด้านจังหวัดมุกดาหารเพิ่มมากขึ้น จากความพร้อมของศูนย์บริการ OSS ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ

 

นภินทร ลงพื้นที่มุกดาหาร ประชุมสถานการณ์การค้า พร้อมทั้งติดตามการดำเนินงานศูนย์ OSS เตรียมรับฤดูกาลส่งออกผลไม้

นภินทร ลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร หารือสถานการณ์การค้าชายแดนและผ่านแดน เร่งอำนวยความสะดวกทางการค้า พร้อมทั้งเยี่ยมชมศูนย์บริการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จจุดเดียวจังหวัดมุกดาหาร (Mukdahan Border Trade One Stop Service) เตรียมรับฤดูกาลส่งออกผลไม้ไทยในเดือนหน้า

เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2567 เวลา 14.00 น. นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ ลงพื้นที่จังหวัดมุกดาหาร พร้อมทั้งเป็นประธานการประชุมติดตามสถานการณ์การค้าชายแดน จังหวัดมุกดาหารและนครพนม โดยได้รับฟังสถานการณ์การค้าชายแดนและผ่านแดนจาก 2 ด่าน คือ ด่านมุกดาหารที่มีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนในปี 2566 มากกว่า 340,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 37

ในขณะที่ด่านนครพนม มีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดน มากกว่า 100,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นร้อยละ 27.5 นอกจากนี้ ในที่ประชุม นายนภินทรฯ ยังได้เร่งผลักดันการอำนวยความสะดวกทางการค้า ได้แก่ การเร่งจัดทำ E-Wallet ชำระเงินด้วย QR Code ร่วมกันของธนาคารไทยและธนาคารของ สปป.ลาว ที่คาดว่าจะเริ่มใช้ได้ช่วงไตรมาส 2 ของปี 2567 ซึ่งจะช่วยให้คนลาวเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในประเทศไทยมากขึ้น กระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาคไปสู่ระดับ SME

และการเร่งเจรจาให้จีนขยายเวลาเปิดทำการด่านตงซิง เขตปกครองตนเองกว่างสีจ้วงของจีน ในวันเสาร์อาทิตย์ เพื่อรองรับฤดูกาลผลไม้ไทย พร้อมทั้ง เร่งกำชับการเพิ่มเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานเพิ่มเติมนอกเวลาทำการที่ศูนย์ OSS นครพนม ในช่วงฤดูกาลส่งออกผลไม้ ที่มีรถส่งออกผลไม้เฉลี่ยวันละ 200 คัน

พร้อมกันนี้ นายนภินทรฯ ยังได้ติดตามการปฏิบัติงานของศูนย์บริการค้าชายแดนเบ็ดเสร็จจุดเดียวจังหวัดมุกดาหาร (Mukdahan Border Trade One Stop Service) ที่เริ่มเปิดบริการตั้งแต่วันที่ 2 มกราคม 2567 เป็นต้นมา ซึ่งช่วยลดระยะเวลาการติดต่อขอเอกสารต่างๆ จาก 3-4 ชั่วโมง เหลือเพียง 1 ชั่วโมงเท่านั้น ทำให้กระบวนการส่งออกสินค้าชายแดนและผ่านแดนมีความสะดวกรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

นายนภินทรฯ กล่าวเพิ่มเติมว่า “ด่านมุกดาหาร และด่านนครพนม เป็นอีกเส้นทางสำคัญส่งออกผลไม้ไทยไปจีน ซึ่งฤดูกาลผลไม้ไทยจะเริ่มตั้งแต่เดือนมีนาคมเป็นต้นไป ตนจึงได้รีบเร่งรัดและกำชับขอให้ทุกหน่วยงานช่วยกันอำนวยความสะดวก

พร้อมทั้ง มอบหมายหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปเร่งการเจรจาการขยายเวลาเปิดด่านตงซิง ซึ่งเป็นอีกด่านที่มีความพร้อมสำหรับนำเข้าผลไม้ไทยที่ส่งออกจากนครพนมรองจากด่านโหย่วอิ๊กวาน ตนมั่นใจว่า ทั้งการเพิ่มอัตรากำลังเจ้าหน้าที่และความพร้อมของศูนย์ OSS ที่นครพนม และมุกดาหาร จะทำให้การส่งออกผลไม้ไทยในปีนี้มีแนวโน้มเติบโตขึ้น”

‘นภินทร’ เบิกฤกษ์ มหกรรมค้าชายแดน ครั้งที่ 1 หวังกระตุ้นเศรษฐกิจชายแดน-ผ่านแดนมุกดาหาร ตรวจเยี่ยมศูนย์บริการ OSS มุกดาหาร – นครพนม รองรับส่งออกฤดูกาลผลไม้

29 กุมภาพันธ์ 2024Thailandplusเศรษฐกิจ

นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เป็นประธานเปิด “มหกรรมการค้าชายแดน ณ จังหวัดมุกดาหาร” ระหว่างวันที่ 29 กุมภาพันธ์ – 3 มีนาคม 2567 ณ ลานหน้าศาลากลางจังหวัดมุกดาหาร หวังกระตุ้นการค้าชายแดน ขยายมูลค่า ยกระดับศักยภาพและการอำนวยความสะดวกของด่านชายแดน โดยการจัดงานครั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ได้เลือกจังหวัดมุกดาหารเป็นหนึ่งในจังหวัดที่จัดกิจกรรมส่งเสริมการค้าชายแดนในปี 2567

ซึ่งเป็นจังหวัดชายแดนสอดคล้องนโยบายรัฐบาลในการเปิดประตูการค้าชายแดน 4 ด้าน 4 ประเทศ ทั้งนี้ ในปี 2566 การค้าชายแดนและผ่านแดนจังหวัดมุกดาหารมีมูลค่ารวมประมาณ 340,000 ล้านบาท และคาดการณ์ว่าภายในปี 2567 จะมีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนด้านจังหวัดมุกดาหารเพิ่มมากขึ้น จากความพร้อมของศูนย์บริการ OSS ที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้แก่ผู้ประกอบการ

นายนภินทรฯ เปิดเผยว่า “รัฐบาลได้ให้ความสำคัญกับการพัฒนาเศรษฐกิจบริเวณจังหวัดชายแดน โดยจังหวัดมุกดาหารเป็นหนี่งในจังหวัดชายแดนที่เป็นหัวเมืองสำคัญในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เนื่องจากมีเส้นทางคมนาคมและโลจิสติกส์ที่สามารถเชื่อมโยงไปยัง สปป.ลาว เวียดนาม และจีน โดยมีเส้นทางขนส่งทางถนนที่สำคัญ คือ เส้นทาง R9 และยังเป็นจังหวัดที่มีจุดผ่านแดนซึ่งเป็นช่องทางการค้าสำคัญที่เป็นประตูการค้าไปสู่ สปป.ลาว และประเทศที่สาม คือ จุดผ่านแดนสะพานมิตรภาพ แห่งที่ 2 เป็นช่องทางสำคัญในการขนส่งสินค้าชายแดนและผ่านแดน

ดังนั้น กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมการค้าต่างประเทศที่มีนโยบายในการเร่งรัดผลักดันและส่งเสริมการค้าชายแดนและผ่านแดนระหว่างไทยกับประเทศเพื่อนบ้าน เพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจและส่งเสริมการค้าและการลงทุนบริเวณชายแดน โดยเฉพาะพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจ ผ่านการจัด ‘มหกรรมการค้าชายแดน’

ในปี 2567 การจัดงานครั้งนี้ เป็นการจัดมหกรรมการค้าชายแดน ครั้งแรกของปี 2567 ซึ่งได้บูรณาการความร่วมมือกับหน่วยงานพันธมิตร 7 หน่วยงาน คือ กรมการค้าต่างประเทศ จังหวัดมุกดาหาร กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ สำนักงานพาณิชย์จังหวัดมุกดาหาร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย ธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

 

สำหรับ กิจกรรมหลักภายในงานจะประกอบด้วย 4 กิจกรรมหลัก คือ

การแสดงและจำหน่ายสินค้าของไทยและประเทศเพื่อนบ้าน 120 คูหา อาทิ อาหารและเครื่องดื่มแปรรูป ผลิตภัณฑ์สมุนไพร เครื่องนุ่งห่ม อัญมณีและเครื่องประดับ เครื่องจักสาน และผลิตภัณฑ์จากวิสาหกิจชุมชน และยังมีคูหาให้คำปรึกษาด้านการเงินระหว่างประเทศจาก 3 ธนาคารชั้นนำของไทย คือ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM Bank) และธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (SMEs Bank) และธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร

การเจรจาจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการการค้าชายแดนกับผู้นำเข้าจากประเทศเพื่อนบ้าน

การสัมมนา 'ใช้ AI ช่วยค้า กำไรมาทันใจ'โดยวิทยากรผู้มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการทำตลาดออนไลน์จากธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย

การประชุมติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนจังหวัดมุกดาหาร และจังหวัดนครพนม การติดตามการปฏิบัติงานของศูนย์ OSS มุกดาหาร พร้อมทั้ง การติดตามสถานการณ์การนำเข้าสินค้าจากจีนผ่านด่านมุกดาหาร ณ คลังสินค้าเร่งด่วน เพื่อติดตามกระบวนการนำเข้า และตรวจสอบมาตรฐานสินค้าเพื่อสร้างความมั่นใจให้แก่บริโภค

“การจัดมหกรรมการค้าชายแดนในครั้งนี้ รวมทั้ง ความพร้อมการเปิดบริการของศูนย์ OSS ทั้งสองแห่ง ทั้งที่จังหวัดนครพนมและมุกดาหาร เพื่อรองรับการส่งออกผลไม้ในฤดูกาลอันใกล้นี้ จะเป็นส่วนขับเคลื่อนทางเศรษฐกิจและสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการไทยในการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้าน กระตุ้นการจับจ่ายใช้สอยของประชาชนในจังหวัดมุกดาหารและจังหวัดใกล้เคียง อันจะนำไปสู่การสร้างเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง ตลอดจนเพิ่มมูลค่าการค้าชายแดนไทยกับ สปป.ลาวให้เพิ่มมากขึ้น” นายนภินทรฯ กล่าวทิ้งท้าย

 

Click Donate Support Web 

SME 720x100 66

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

MTL 720x100

kbank 720x100 66

QIC 720x100

วิริยะ 720x100AXA 720 x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100

PTG 720x100

ais 720x100

iconmotor

gen 720x100

TOA 720x100

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!