WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

พูนพงษ์ นัยนาภากรณ์

พาณิชย์ เผยไอศกรีมไทยฮอต ยืนหนึ่งในเอเชีย ชี้เป้าขายเน้นเพื่อสุขภาพ มุ่งความยั่งยืน

สนค.เผยช่วง 7 ปีที่ผ่านมา ไทยส่งออกไอศกรีมเติบโตเฉลี่ยปีละ 12.43% ขยับเป็นผู้ส่งออกอันดับที่ 11 ของโลก และเป็นเบอร์ 1 ในเอเชีย ระบุไทยมีจุดแข็งของความหลากหลายด้านวัตถุดิบ ทั้งผลไม้ ขนม สมุนไพร แนะการผลิตต้องคำนึงถึงสุขภาพ และมุ่งความยั่งยืน หลังผู้บริโภคให้ความสำคัญ

    นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค. ได้ติดตามข้อมูลการค้าและสถานการณ์การส่งออกสินค้าไอศกรีม พบว่า มูลค่าการส่งออกไอศกรีมของไทยเติบโตต่อเนื่องติดต่อกันตลอดช่วงระยะเวลา 7 ปีที่ผ่านมา

โดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ย 12.43% ต่อปี ตั้งแต่ปี 2560–2566 และปีล่าสุด 2566 มีมูลค่าการส่งออกไอศกรีมรวม 148.21 ล้านเหรียญสหรัฐ (5,099 ล้านบาท) เพิ่มขึ้น 7.3% และเมื่อพิจารณารายประเทศ พบว่า ไทยเป็นผู้ส่งออกไอศกรีม อันดับที่ 11 ของโลก รองจากเยอรมนี ฝรั่งเศส เบลเยียม เนเธอร์แลนด์ อิตาลี โปแลนด์ สหรัฐฯ สเปน สหราชอาณาจักร และฮังการี โดยจะเห็นว่าในบรรดาประเทศผู้ส่งออกไอศกรีม ไทยเป็นผู้ส่งออกอันดับ 1 ของเอเชีย และอันดับ 4 ของโลก รองจากกลุ่มประเทศในสหภาพยุโรป สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร

สำหรับ ตลาดส่งออกไอศกรีมที่สำคัญของไทยปี 2566 ที่มีมูลค่าการส่งออกสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.มาเลเซีย คิดเป็นสัดส่วน 29.5% ของมูลค่าการส่งออกไอศกรีมของไทย 2.เกาหลีใต้ สัดส่วน 11.3% 3.เวียดนาม สัดส่วน 9.5% 4.สิงคโปร์ สัดส่วน 6.5% และ 5.กัมพูชา สัดส่วน 6.3%

ส่วนการพิจารณาส่วนแบ่งมูลค่าการส่งออกไอศกรีมของไทยในตลาดโลก ข้อมูลล่าสุดปี 2565 ไทยมีมูลค่าการส่งออกไอศกรีมคิดเป็นสัดส่วนประมาณ 2.6% ของมูลค่าการส่งออกไอศกรีมทั่วโลก ขณะที่สหภาพยุโรป สหรัฐฯ และสหราชอาณาจักร มีส่วนแบ่งมูลค่าการส่งออกไอศกรีม 68.4% , 5% และ 3% ของมูลค่าการส่งออกไอศกรีมทั่วโลกตามลำดับ

นายพูนพงษ์ กล่าวว่า ไอศกรีมเป็นอีกหนึ่งสินค้าส่งออกศักยภาพของไทย เนื่องจากไทยมีความพร้อมด้านวัตถุดิบที่หลากหลาย และสามารถแปรรูปผลิตภัณฑ์เป็นไอศกรีมได้อย่างสร้างสรรค์และถูกใจผู้บริโภค ผลไม้ไทยเกือบทุกชนิดสามารถนำมาใช้เป็นวัตถุดิบผลิตไอศกรีมรสชาติต่างๆ ได้อย่างลงตัว

ขนมไทยก็ถูกนำมาประยุกต์เป็นไอศกรีมได้อย่างน่าสนใจ ขณะที่สมุนไพรไทยก็สามารถเป็นส่วนผสมในไอศกรีมเพื่อชูอัตลักษณ์ความเป็นไทย ตลอดจนการรังสรรค์รูปแบบและรูปทรงของไอศกรีม ซึ่งเป็นจุดเด่นที่ดึงดูดผู้บริโภคโดยเฉพาะชาวต่างชาติได้เป็นอย่างดี

อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันผู้บริโภคให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสุขภาพและความยั่งยืนมากขึ้น เช่น ตู้แช่ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม การใช้บรรจุภัณฑ์กระดาษ ซึ่งผู้ผลิตและผู้ประกอบการไทยต้องให้ความสำคัญกับเรื่องดังกล่าวและปรับตัวให้เท่าทันการเปลี่ยนแปลง เพื่อสามารถพัฒนาไอศกรีมที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภค และแสวงหาโอกาสในการส่งออกไปยังตลาดคู่ค้าใหม่ๆ มากขึ้น เนื่องจากไอศกรีมไทยยังมีช่องว่างในการเติบโตได้อีกมากทั้งตลาดภายในประเทศและตลาดโลก

โดยไอศกรีมที่มีโอกาส เช่น ไอศกรีมที่ผลิตจากนมวัว ไอศกรีมแพลนต์เบส ใช้นมจากพืช เช่น อัลมอนด์ พิสตาชิโอ ข้าวโพดหวาน ไอศกรีมที่มีส่วนผสมจากผลไม้ รวมถึงไอศกรีมที่มีการพัฒนาผลิตภัณฑ์ให้ตอบสนองต่อความต้องการของผู้บริโภคที่หลากหลายขึ้น เช่น ไอศกรีมที่ไม่มีแลคโตส ไอศกรีมที่มีปริมาณน้ำตาลน้อยลง

ซึ่งนอกจากจะตอบโจทย์ด้านสุขภาพแล้ว ยังตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคในกลุ่มที่แพ้นมวัว และสำหรับไอศกรีมแพลนต์เบส และไอศกรีมจากผลไม้ ก็ตอบโจทย์ความต้องการของผู้บริโภคชาววีแกนหรือรับประทานอาหารเจได้เป็นอย่างดี

ทั้งนี้ ไอศกรีมเป็นสินค้าที่มีแนวโน้มความต้องการเพิ่มขึ้น โดยจากรายงานมูลค่าตลาดไอศกรีมของ Euromonitor International บริษัทสำรวจข้อมูลทางการตลาดระดับโลก พบว่า ปี 2566 ตลาดไอศกรีมโลกมูลค่าค้าปลีกอยู่ที่ 86,719.4 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 8.8%

ประเทศที่มีตลาดไอศกรีมขนาดใหญ่ที่สุด 5 อันดับแรก ได้แก่ 1.สหรัฐฯ มีมูลค่าค้าปลีก 19,994.5 ล้านเหรียญสหรัฐ 2.จีน 8,247.1 ล้านเหรียญสหรัฐ 3.ญี่ปุ่น 5,581.2 ล้านเหรียญสหรัฐ 4.รัสเซีย 3,576.0 ล้านเหรียญสหรัฐ และ 5.บราซิล 3,232.7 ล้านเหรียญสหรัฐ ขณะที่ตลาดไอศกรีมของไทยมีมูลค่าค้าปลีก 396.0 ล้านเหรียญสหรัฐ เพิ่มขึ้น 11% โดยมีปัจจัยสนับสนุนจากสภาพอากาศที่ร้อน ความนิยมของนักท่องเที่ยวต่างชาติ และไลฟ์สไตล์ที่ต้องเดินทางเพิ่มขึ้นของคนไทย

 

Click Donate Support Web  

Banner GPF720x100 PX

CKPower 720x100

EXIM One 720x90 C JMTL 720x100

aia 720 x100

BKI 720 x 100sme 720x100AXA 720 x100ธกส 720x100

gen 720x100

AXA 720 x100

TOA 720x100

SME 720x100 66

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!