- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 01 September 2024 14:42
- Hits: 8534
พาณิชย์ ระดมสมองรัฐ-เอกชนกว่า 40 หน่วยงาน ทำแผนขับเคลื่อนธุรกิจบริการไทย
สนค.จัดประชุมรับฟังความเห็นจัดทำแผนปฏิบัติการ เรื่อง การค้าธุรกิจบริการ ร่วมกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนกว่า 40 หน่วยงาน เคาะ 4 ประเด็นที่จะใช้ในการขับเคลื่อน การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน การพัฒนาปัจจัยสนับสนุน การพัฒนาคน การส่งออกและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน เตรียมรวบรวมข้อคิดเห็นเพื่อจัดทำแผนเสนอต่อสาธารณชน กลาง ก.ย.นี้ จากนั้นเสนอสภาพัฒน์ และ ครม. พิจารณา ก่อนใช้เป็นแผนขับเคลื่อนต่อไป
นายพูนพงษ์ นัยนาภากรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและยุทธศาสตร์การค้า (สนค.) กระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า สนค. ได้จัดประชุมรับฟังความคิดเห็นแผนปฏิบัติการเรื่องการค้าธุรกิจบริการ ซึ่งเป็น 1 ใน 5 ประเด็น ภายใต้แผนปฏิบัติการด้านการค้าแห่งชาติ พ.ศ.2568–2570 โดยการประชุมในครั้งนี้ เป็นการประชุมรับฟังความเห็นและข้อเสนอแนะจากภาครัฐและภาคเอกชน ที่เกี่ยวข้องกว่า 40 หน่วยงาน และได้มีมติเห็นชอบ 4 ประเด็นการพัฒนาสำคัญในการขับเคลื่อนภาคบริการของไทย
โดย 4 ประเด็น ได้แก่ 1.การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนธุรกิจบริการ โดยการพัฒนาและส่งเสริมโครงสร้างพื้นฐานทางคมนาคมและดิจิทัลที่มีคุณภาพสูง และการพัฒนาต่อยอดเทคโนโลยี วิจัย และนวัตกรรมและการเข้าถึงแหล่งทุนที่เพียงพอ เพื่อการวิจัยพัฒนานวัตกรรมและดำเนินธุรกิจบริการ 2.การพัฒนาการพัฒนาปัจจัยสนับสนุนเพื่อส่งเสริมและเพิ่มขีดความสามารถของธุรกิจบริการ อาทิ การทบทวนกฎระเบียบเพื่อเพิ่มความสามารถในการแข่งขันของภาคบริการ
การจัดทำระบบข้อมูลสารสนเทศที่ช่วยในการพัฒนาและดำเนินธุรกิจบริการ 3.การพัฒนาคนในการขับเคลื่อนภาคบริการแห่งอนาคต ทั้งการพัฒนาทักษะของผู้ประกอบการและแรงงานในภาคบริการให้มีสมรรถนะสูงและเพียงพอต่อความต้องการของการดำเนินธุรกิจ และ 4.การส่งออกและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของธุรกิจบริการ โดยการส่งเสริมการส่งออกบริการให้มากขึ้นผ่านกลไกต่าง ๆ และเพิ่มศักยภาพและผลิตภาพภาคบริการของไทยให้สูงขึ้น รวมทั้งบูรณาการความร่วมมือภายในประเทศ ระหว่างสาขา และระหว่างประเทศให้เป็นไปในทิศทางเดียวกันอย่างเป็นเอกภาพในการพัฒนาและส่งเสริมภาคบริการไทย
“การประชุมรับฟังความคิดเห็นร่างแผนปฏิบัติการเรื่องการค้าธุรกิจบริการในครั้งนี้ โดย สนค. จะนำข้อมูล ความเห็น ประเด็น และแนวทางการพัฒนาที่ได้รับจากผู้เข้าร่วมการประชุม ไปใช้ประโยชน์ในการทบทวนและปรับปรุงแผนปฏิบัติการให้มีความสมบูรณ์ ครอบคลุม มีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด และเมื่อได้แผนแล้ว จะนำเสนอแผนต่อสาธารณชน ในช่วงกลางเดือน ก.ย.2567
และมีกำหนดที่จะนำแผนดังกล่าวเข้าสู่การพิจารณาของสำนักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สภาพัฒน์) และคณะรัฐมนตรี ตามขั้นตอนต่อไป เพื่อให้ไทยมีแผนที่กำหนดทิศทางการดำเนินนโยบายและยุทธศาสตร์การค้าของประเทศ และสามารถบูรณาการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้าของประเทศอย่างมีเป้าหมายเดียวกัน"นายพูนพงษ์กล่าว
ทั้งนี้ ภาคบริการ เป็นภาคส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจของไทย โดยภาคบริการมีสัดส่วนสูงที่สุดใน GDP และมีสัดส่วนสูงกว่าร้อยละ 50 ของ GDP มาตลอด 20 ปีที่ผ่านมา โดยในปี 2566 ภาคบริการมีมูลค่า 10.9 ล้านล้านบาท คิดเป็นสัดส่วนร้อยละ 61 ของ GDP ของไทย และมีอัตราการขยายตัวเพิ่มขึ้นร้อยละ 7.26 เมื่อเทียบกับปี 2565
สำหรับ เป้าหมายของการจัดทำแผนปฏิบัติการเรื่อง การค้าธุรกิจบริการ ต้องการช่วยเพิ่มขีดความสามารถทางการแข่งขันของภาคบริการไทยที่จะต้องเผชิญกับสถานการณ์การเปลี่ยนแปลงและแนวโน้มใหม่ๆ ที่จะส่งผลต่อศักยภาพของภาคบริการไทยในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้เกิดการขับเคลื่อนภาคบริการของไทยอย่างเป็นระบบ และใช้เป็นแนวทางให้ภาคส่วนต่างๆ ทั้งภาครัฐและเอกชน ในการดำเนินงานร่วมกันและเพิ่มประสิทธิภาพสร้างความเข้มแข็งของภาคบริการไทย
แผนการค้าธุรกิจบริการ มีวัตถุประสงค์สำคัญที่จะช่วยถ่ายทอดเป้าหมายของแผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี และแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 13 ที่เกี่ยวข้องกับภาคบริการให้สัมฤทธิ์ผลอย่างเป็นรูปธรรม โดยมีเป้าหมายพัฒนาภาคบริการของไทยให้เกิดอัตราการขยายตัวของมูลค่าธุรกิจบริการเพิ่มขึ้น เฉลี่ยร้อยละ 5 ต่อปี ดัชนีข้อจำกัดทางการค้าบริการ (Services Trade Restrictiveness Index: STRI) ของภาคบริการ มีคะแนนลดลงไม่น้อยกว่า 0.03 ภายในปี 2570 และมีอัตราการขยายตัวของมูลค่าการส่งออกธุรกิจบริการไปยังต่างประเทศเพิ่มขึ้น เฉลี่ยร้อยละ 5 ต่อปี