- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Sunday, 20 October 2024 19:14
- Hits: 1411
พาณิชย์ ประกาศขึ้นทะเบียน GI ใหม่ 2 รายการ 'กาแฟระนอง-กาแฟดอยมูเซอตาก'
พาณิชย์ ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สินค้ากาแฟใหม่เพิ่มอีก 2 รายการ ‘กาแฟระนอง-กาแฟดอยมูเซอตาก’ ทำให้มีกาแฟไทยที่ได้ขึ้นทะเบียนรวม 10 รายการ พร้อมชวนผู้บริโภคลิ้มลองกาแฟ GI ไทยในงาน Thailand Coffee Fest ‘Year End’ 2024 ช่วงเดือน ธ.ค.นี้
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า กรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) สินค้ากาแฟรายการใหม่ เพิ่มอีก 2 รายการ คือ กาแฟระนอง และกาแฟดอยมูเซอตาก ทำให้มีกาแฟไทยที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI รวมทั้งสิ้น 10 รายการ
ได้แก่ กาแฟดอยตุง กาแฟดอยช้าง กาแฟเขาทะลุ กาแฟดงมะไฟ กาแฟเทพเสด็จ กาแฟวังน้ำเขียว กาแฟเมืองกระบี่ กาแฟถ้ำสิงห์ชุมพร กาแฟระนอง และกาแฟดอยมูเซอตาก ซึ่งปัจจุบันสามารถสร้างมูลค่าทางการตลาดได้กว่าปีละ 1,300 ล้านบาท
สำหรับ กาแฟระนอง เป็นกาแฟโรบัสต้าที่ปลูกมายาวนานกว่า 100 ปี เป็นกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า ที่ปลูกและแปรรูปในเขตพื้นที่จังหวัดระนอง ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเล 200-800 เมตร ซึ่งเป็นระดับที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกาแฟโรบัสต้า แร่ธาตุในดินของพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำได้ดี ทำให้ต้นกาแฟได้รับธาตุอาหารจากดินได้อย่างเต็มที่
ประกอบกับภูมิอากาศของพื้นที่ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมทั้งจากฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน ทำให้ปริมาณน้ำฝนสูงและพื้นที่มีความชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้กาแฟระนองมีรสชาติเข้มข้น กลมกล่อม เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งจังหวัดระนองยังเป็นแหล่งผลิตกาแฟพันธุ์โรบัสต้าแหล่งใหญ่เป็นอันดับ 1 ของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน และเป็นอันดับ 2 ของประเทศ นับเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดระนองที่สร้างรายได้ให้ชุมชนกว่า 375 ล้านบาท
ส่วนกาแฟดอยมูเซอตาก คือ กาแฟพันธุ์อาราบิกาและกาแฟโรบัสต้า มีรสชาติกาแฟที่มีกลิ่นหอมผลไม้และถั่ว รสสัมผัสแบบเบาบาง มีแหล่งเพาะปลูกและแปรรูปในอำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก ด้วยสภาพภูมิศาสตร์ของดอยมูเซอซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ระดับ 800 เมตรขึ้นไป
และมีความสมบูรณ์ทางระบบนิเวศ ส่งผลให้กาแฟดอยมูเซอตากมีรสชาติกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกว่าพื้นที่อื่น ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบกาแฟ และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนกว่า 257 ล้านบาท
ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้ร่วมมือกับสมาคมกาแฟพิเศษไทย และ The Cloud ส่งเสริมและขยายช่องทางการตลาดให้กับกาแฟไทย โดยได้ร่วมออกบูทในงาน Thailand Coffee Fest ‘Year End’ 2024 ที่กำหนดจัดขึ้นวันที่ 12-15 ธ.ค.2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นกำลังใจและสัมผัสรสชาติกาแฟ GI ไทยในงานดังกล่าว
ที่ผ่านมา กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ได้เดินหน้าประกาศขึ้นทะเบียน GI อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชมท้องถิ่น สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและชุมชมด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เกิดจากภูมิศาสตร์ ภูมิปัญญาในแต่ละพื้นที่ ทำให้ปัจจุบันมีสินค้าที่ได้รับการขึ้นทะเบียน GI แล้ว รวม 211 รายการ สร้างมูลค่าเพิ่มทางการตลาดกว่า 73,000 ล้านบาทต่อปี
'นภินทร' เพิ่มศักยภาพกาแฟไทย ขึ้นทะเบียน 'กาแฟระนอง-กาแฟดอยมูเซอตาก'GI น้องใหม่ มีเอกลักษณ์เฉพาะตัว พร้อมยกระดับกาแฟไทยสู่ตลาดสากล
พาณิชย์ ขึ้นทะเบียน GI 'กาแฟระนอง-กาแฟดอยมูเซอตาก'กาแฟอัตลักษณ์ท้องถิ่น คุณภาพดี มีรสชาติและกลิ่นเฉพาะตัว เป็นที่นิยมของผู้บริโภค พร้อมชวนคอกาแฟลิ้มลอง กาแฟ GI ไทย ในงาน Thailand Coffee Fest ‘Year End’ 2024 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 12-15 ธันวาคม 2567
นายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า “กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญา ยังคงเดินหน้าประกาศขึ้นทะเบียนสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ (GI) อย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นเครื่องมือสำคัญในการช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับสินค้าชุมชมท้องถิ่น สร้างงาน สร้างรายได้ให้แก่เกษตรกรและชุมชมด้วยเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่เกิดจากภูมิศาสตร์ ภูมิปัญญาในแต่ละพื้นที่
ล่าสุด กรมทรัพย์สินทางปัญญาประกาศขึ้นทะเบียน GI 'กาแฟระนอง' และ 'กาแฟดอยมูเซอตาก' จึงทำให้ปัจจุบันมีกาแฟไทย ที่ขึ้นทะเบียน GI แล้ว 10 รายการ ได้แก่ (1) กาแฟดอยตุง (2) กาแฟดอยช้าง (3) กาแฟเขาทะลุ (4) กาแฟดงมะไฟ (5) กาแฟเทพเสด็จ (6) กาแฟวังน้ำเขียว (7) กาแฟเมืองกระบี่ (8) กาแฟถ้ำสิงห์ชุมพร (9) กาแฟระนอง และ (10) กาแฟดอยมูเซอตาก สร้างมูลค่าทางการตลาดกว่า 1,300 ล้านบาท”
'กาแฟระนอง' เป็นกาแฟโรบัสต้าที่ปลูกมายาวนานกว่า 100 ปี เป็นกาแฟสายพันธุ์โรบัสต้า ที่ปลูกและแปรรูปในเขตพื้นที่จังหวัดระนอง ด้วยความสูงจากระดับน้ำทะเล 200-800 เมตร ซึ่งเป็นระดับ ที่เหมาะสมสำหรับการปลูกกาแฟโรบัสต้า แร่ธาตุในดินของพื้นที่มีความอุดมสมบูรณ์ ระบายน้ำได้ดี ทำให้ต้นกาแฟได้รับธาตุอาหารจากดินได้อย่างเต็มที่ ประกอบกับภูมิอากาศของพื้นที่ได้รับอิทธิพลจากลมมรสุมทั้งจากฝั่งทะเลอ่าวไทยและอันดามัน
ทำให้ปริมาณน้ำฝนสูงและพื้นที่มีความชุ่มชื้นอย่างต่อเนื่อง จึงส่งผลให้กาแฟระนองมีรสชาติเข้มข้น กลมกล่อม เป็นเอกลักษณ์ อีกทั้งจังหวัดระนองยังเป็นแหล่งผลิตกาแฟ พันธุ์โรบัสต้าแหล่งใหญ่เป็นอันดับ 1 ของกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน และเป็นอันดับ 2 ของประเทศ นับเป็นพืชเศรษฐกิจของจังหวัดระนองที่สร้างรายได้ให้ชุมชนกว่า 375 ล้านบาท
ส่วน'กาแฟดอยมูเซอตาก' คือ กาแฟพันธุ์อาราบิกาและกาแฟโรบัสต้า มีรสชาติกาแฟ ที่มีกลิ่นหอมผลไม้และถั่ว รสสัมผัสแบบเบาบาง มีแหล่งเพาะปลูกและแปรรูปในอำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก ด้วยสภาพภูมิศาสตร์ของดอยมูเซอซึ่งมีความสูงจากระดับน้ำทะเลตั้งแต่ระดับ 800 เมตรขึ้นไป
และมีความสมบูรณ์ ทางระบบนิเวศ ส่งผลให้กาแฟดอยมูเซอตากมีรสชาติกลมกล่อมเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวแตกต่างกว่าพื้นที่อื่น ซึ่งเป็นที่นิยมในหมู่ผู้ที่ชื่นชอบกาแฟ และได้รับการยอมรับจากผู้บริโภค สามารถสร้างรายได้ให้ชุมชนกว่า 257 ล้านบาท
นายนภินทร กล่าวทิ้งท้ายว่า “ในปีนี้ กระทรวงพาณิชย์ โดยกรมทรัพย์สินทางปัญญาได้ร่วมมือ กับสมาคมกาแฟพิเศษไทย และ The Cloud ส่งเสริมและขยายช่องทางการตลาดให้กับกาแฟไทย จึงได้ร่วมออกบูทในงาน Thailand Coffee Fest ‘Year End’ 2024 จัดขึ้นตั้งแต่วันที่ 12 – 15 ธันวาคม 2567 ณ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ ชั้น LG จึงขอเชิญชวนทุกท่านร่วมเป็นกำลังใจและสัมผัสรสชาติกาแฟ GI ไทย ในงานดังกล่าว”
10510