- Details
- Category: พาณิชย์
- Published: Saturday, 08 February 2025 14:07
- Hits: 3042

พิชัย ถกรัฐมนตรีการค้าบาห์เรน ชูไทยแหล่งความมั่นคงอาหาร ดันทำ FTA หนุนการค้า ลงทุน
พิชัย ถกรัฐมนตรีการค้าบาห์เรน ชูไทยเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารแก่ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง พร้อมผลักดันทำ FTA ไทย-บาห์เรน สร้างแต้มต่อการค้า การลงทุนระหว่างกัน
นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ในช่วงการประชุมสภาเศรษฐกิจโลก (World Economic Forum : WEF) ระหว่างวันที่ 21–24 มกราคม 2568 ที่ผ่านมา ณ เมืองดาวอส สมาพันธรัฐสวิส ตนได้พบหารือกับนายอับดุลลา อาเดล ฟาครอ รัฐมนตรีกระทรวงอุตสาหกรรมและพาณิชย์บาห์เรน เพื่อกระชับความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ เร่งเจรจาการค้าเชิงรุกให้ไทยเป็นแหล่งความมั่นคงทางอาหารแก่ประเทศในภูมิภาคตะวันออกกลาง รวมทั้งผลักดันการจัดทำ FTA ระหว่างไทยและบาห์เรน
สำหรับ บาห์เรน เป็นประเทศที่มีความสัมพันธ์ที่ดีมากกับไทย และมีส่วนช่วยในการพัฒนาความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับประเทศต่างๆ ในตะวันออกกลาง โดยเฉพาะกับกลุ่มคณะมนตรีความร่วมมือรัฐอ่าวอาหรับ (GCC) และเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจหลากหลายที่สุดแห่งหนึ่งในอ่าวอาหรับ
โดยฝ่ายบาห์เรนพร้อมเป็นเจ้าภาพการประชุม Joint Steering Committee ด้านความมั่นคงทางอาหาร การค้า และการลงทุนในสินค้าเกษตร และอาหารฮาลาลกับไทย ซึ่งไทยยินดีที่จะสนับสนุนด้านสินค้าเกษตรและอาหารฮาลาลให้กับบาห์เรน โดยการสนับสนุนความมั่นคงทางอาหารให้แก่บาห์เรน และพร้อมเป็นแหล่งผลิตอาหารเพื่อจำหน่ายและเก็บรักษาพร้อมส่งมอบให้กับบาห์เรน
นอกจากนี้ ทั้งสองประเทศได้หารือเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการจัดทำความตกลงการค้าเสรี (FTA) ระหว่างไทย-บาห์เรน เพื่อเพิ่มมูลค่าการค้าและการลงทุนระหว่างทั้งสองประเทศ และเปิดโอกาสให้สินค้าและบริการไทยสามารถเข้าสู่ตลาดตะวันออกกลางได้มากยิ่งขึ้น
ซึ่งตนได้มอบหมายให้กรมเจรจาการค้าระหว่างประเทศหารือกับเจ้าหน้าที่ของบาห์เรน เพื่อจัดทำแผนการทำงานร่วมกันต่อไป โดยการจัดทำ FTA ให้สำเร็จ จะเป็นแต้มต่อการค้าการลงทุนในอนาคตของทั้งสองประเทศต่อไป
นายพิชัย กล่าวว่า ในช่วงการประชุมที่ดาวอส ตนได้มีโอกาสพบปะหารือกับรัฐมนตรีการค้าและนักธุรกิจจากหลายประเทศ รวมทั้งได้กล่าวแสดงวิสัยทัศน์ในวงต่างๆ โดยตนได้เน้นย้ำว่าเศรษฐกิจไทยภายใต้การนำของรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กำลังเข้าสู่ยุคทอง นโยบายต่างๆ กำลังดำเนินไปอย่างถูกทิศทาง เศรษฐกิจไทยของเรากำลังไปได้ดี ดูได้จากตัวเลขขอรับการส่งเสริมการลงทุนปี 2567 มีมูลค่ากว่า 1.13 ล้านล้านบาท สูงสุดในรอบ 10 ปี
และการส่งออกปี 2567 ขยายตัวถึง 5.4% มูลค่ากว่า 10.5 ล้านล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ และกระทรวงพาณิชย์ยังคาดแนวโน้มส่งออกปี 2568 จะขยายตัวได้ที่ 2-3% และพร้อมจะเป็นหน่วยที่สนับสนุนและอำนวยความสะดวกให้เกิดโอกาสทางการค้า การลงทุน ขณะเดียวกัน จะใช้โอกาสนี้ ส่งเสริมผู้ประกอบการรายย่อยของไทยให้สามารถขายสินค้าในต่างประเทศได้มากขึ้นเรื่อยๆ
ข้อมูลจากกระทรวงพาณิช์ ระบุว่า บาห์เรนเป็นคู่ค้าอันดับที่ 59 ของไทยในตลาดโลก และอันดับที่ 9 ในตะวันออกกลาง การค้าสองฝ่ายมีมูลค่า 542.60 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แบ่งเป็นการส่งออกของไทย 179.28 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และการนำเข้าของไทย 363.32 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
โดยสินค้าส่งออกสำคัญ ได้แก่ ยานยนต์และชิ้นส่วน อัญมณีและเครื่องประดับ ไม้และผลิตภัณฑ์ไม้ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ และผลิตภัณฑ์ยาง และสินค้านำเข้าสำคัญ ได้แก่ น้ำมันสำเร็จรูป สินแร่โลหะ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ ปุ๋ยและยากำจัดศัตรูพืช เคมีภัณฑ์ และสัตว์น้ำสดแช่เย็น แช่แข็ง แปรรูป และกึ่งสำเร็จรูป



































































