WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

กรมพัฒนาธุรกิจการค้า เผย 5 เดือนแรกปีนี้ นิติบุคคลนำส่งงบการเงินปี56 แล้ว 4.11 แสนราย เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน

   กรมพัฒนาธุรกิจการค้า มีภารกิจหลักในการบริการจดทะเบียนและข้อมูลธุรกิจให้มีความถูกต้อง รวดเร็ว โปร่งใส  สร้างธรรมาภิบาลธุรกิจ และส่งเสริมการประกอบธุรกิจของไทยให้มีความเข้มแข็ง รวมทั้งให้บริการรับงบการเงินของนิติบุคคลทั่วประเทศซึ่งตามพระราชบัญญัติการบัญชี พ.ศ.2543 กำหนดให้ห้างหุ้นส่วนจดทะเบียน นิติบุคคลที่ตั้งขึ้นตามกฎหมายต่างประเทศที่ประกอบธุรกิจในประเทศไทย และกิจการร่วมค้าตามประมวลรัษฎากร นำส่งงบการเงินภายใน 5 เดือนนับแต่วันปิดบัญชี และบริษัทจำกัด หรือบริษัทมหาชนจำกัด นำส่งงบการเงินภายใน 1 เดือนนับแต่วันที่งบการเงินนั้นได้รับอนุมัติจากที่ประชุมใหญ่สามัญผู้ถือหุ้น

  นางสาวผ่องพรรณ เจียรวิริยะพันธ์ อธิบดีกรมพัฒนาธุรกิจการค้าให้สัมภาษณ์ว่า  ในปี 2557  มีนิติบุคคลที่ต้องนำส่งงบการเงินรอบปีบัญชี 2556 จำนวน 508,992 รายเมื่อเปรียบเทียบกับปีที่ผ่านมา (ปี 2556) เพิ่มขึ้น จำนวน 34,417 ราย คิดเป็นร้อยละ 7 ซึ่งมีนิติบุคคลที่ต้องนำส่งงบการเงินรอบปีบัญชี 2555 จำนวน 474,575ราย

     โดยนิติบุคคลที่ปิดรอบปีบัญชี 31 ธันวาคม 2556จะต้องนำส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าภายในวันที่  2 มิถุนายน 2557 และมีนิติบุคคลที่นำส่งงบการเงินแล้วร้อยละ 81 ของนิติบุคคลที่ต้องนำส่งงบการเงิน หรือคิดเป็นจำนวน  411,261ราย  เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา (1 ม.ค.-31 พ.ค. 56)เพิ่มขึ้นจำนวน  24,587  ราย คิดเป็นร้อยละ 6ซึ่งนิติบุคคลนำส่งงบการเงินรอบปีบัญชี 2555 มีจำนวน 386,674 ราย 

     กรมพัฒนาธุรกิจการค้าขอเชิญชวนให้นิติบุคคลที่ยังไม่ได้นำส่งงบการเงินให้รีบนำส่งงบการเงินโดยเร็ว  เนื่องจากกรมได้กำหนดอัตราค่าปรับตามระยะเวลาที่นำส่งงบการเงินล่าช้า โดยมีรายละเอียดดังนี้

     ภายหลังจากที่นิติบุคคลได้นำส่งงบการเงินต่อกรมพัฒนาธุรกิจการค้าแล้ว กรมฯจะนำงบการเงินดังกล่าวในรูปแบบของเอกสาร (Hard Copy) แปลงให้เป็นเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ และจัดเก็บข้อมูลในรูปเอกสารภาพ (IMAGE) และป้อนข้อมูล (Re-key) เพื่อเก็บข้อมูลที่ต้องการก่อนนำไปประมวลผลต่อในฐานข้อมูลอย่างเป็นระบบ เพื่อนำไปเผยแพร่ บริการข้อมูลงบการเงินให้แก่ประชาชนผู้สนใจโดยกระบวนการเหล่านี้ใช้ระยะเวลาในการดำเนินการไม่ต่ำกว่า 5-6 เดือน ส่งผลให้ผู้ใช้งบการเงินภาครัฐ ภาคเอกชน และธุรกิจไม่สามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ วางแผนตัดสินใจทางธุรกิจได้ทันต่อเหตุการณ์

     กรมพัฒนาธุรกิจการค้า จึงได้จัดทำโครงการให้บริการนำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ e-Filing เพื่อเป็นการเพิ่มช่องทางในการนำส่งงบการเงิน ซึ่งในปี 2558 จะดำเนินการให้บริการนำส่งงบการเงินผ่านทางอิเล็กทรอนิกส์ควบคู่ไปกับการนำส่งงบการเงินในรูปแบบเอกสารอย่างไรก็ตามกรมฯมีเป้าหมายในการให้บริการนำส่งงบการเงินผ่านช่องทาง (e-Filing) เพียง 1 ช่องทางเท่านั้น ภายในระยะเวลา 3 ปี (ปี 2560 ) เพื่อให้งบการเงินของไทยเป็นมาตรฐานเดียวกันและสร้างโอกาสในการเติบโตให้กับภาคเอกชนในการแข่งขันระดับสากล

    จากโครงการดังกล่าวจะทำให้กรมฯ สามารถนำข้อมูลงบการเงินมาประมวลผล วิเคราะห์และเผยแพร่ให้แก่หน่วยงานทั้งภาครัฐและภาคเอกชนทั้งในรูปแบบของเอกสารภาพและข้อมูลสถิติได้รวดเร็วขึ้นเพื่อให้ผู้ประกอบการ นักลงทุน สถาบันการเงิน หน่วยงานภาครัฐและเอกชนผู้สนใจสามารถนำข้อมูลไปวิเคราะห์ฐานะทางการเงินและผลการดำเนินงานในรอบปีที่ผ่านมาของนิติบุคคล อันจะก่อให้เกิดประโยชน์ในด้านต่างๆ ได้แก่

   - การตรวจสอบความถูกต้องและความมีอยู่จริงของธุรกิจเพื่อให้เกิดความเชื่อมั่นในการดำเนินธุรกิจ

   - การวิเคราะห์เพื่อวางแผนและตัดสินใจทางธุรกิจ รวมทั้งแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ ประเภทธุรกิจที่มีการขยายตัว ฐานะการเงิน ตลอดจนการประเมินสภาพธุรกิจ เพื่อสร้างศักยภาพการแข่งขัน สร้างโอกาสความร่วมมือทางธุรกิจ และการต่อยอดทางธุรกิจ

   - การสร้างโอกาสและลดต้นทุนในการเข้าถึงข้อมูล ทำให้ธุรกิจได้รับความสะดวก รวดเร็ว ซึ่งจะช่วยลดต้นทุนในการประกอบธุรกิจ

   - การสนับสนุนข้อมูลแก่หน่วยงานภาครัฐเพื่อใช้ในการตรวจสอบและกำกับดูแลธุรกิจ รวมถึงการนำข้อมูลไปใช้ในวางแผนและกำหนดนโยบายในการส่งเสริมและพัฒนาธุรกิจที่ส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจระดับประเทศ

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย 

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!