Details

Category: พาณิชย์

Published: Friday, 16 October 2015 23:36

Hits: 3609

23 ผู้ผลิตลดราคา 244 สินค้าบิ๊กซีนำ 5,000 รายการลุยจัดแคมเปญเด็ด'ถูกกว่าปีก่อน'

   ไทยโพสต์ * พาณิชย์แจ้งผู้ผลิต 23 ราย ลดราคาสินค้า 244 รายการ ตามต้นทุนน้ำมันลง ทั้งหมวดอาหาร-เครื่องดื่ม วัสดุก่อสร้าง และปิโตรเลียม ‘อภิรดี’เล็งจัดเซลส์ทั้งประเทศ 7 วัน ช่วงเดือน ธ.ค.นี้ ตั้งแต่ 15-70% ด้าน ‘บิ๊กซี’นำ 5,000 สินค้า โหมแคมเปญ’ราคาถูกลงมากกว่าปีที่แล้ว’กระตุ้นกำลังซื้อไตรมาสสุดท้าย

    นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์ เปิดเผยว่า ขณะนี้มีผู้ผลิตจำนวน 23 ราย ได้ยื่นรายการสินค้าที่จะปรับลดราคาลงตามต้นทุนน้ำมันที่ลดลงมายังกระทรวงพาณิชย์แล้ว โดยมีสินค้าที่จะลดราคาจากราคาจำหน่ายเดิมรวม 244 รายการ แบ่งเป็นหมวดอาหารและเครื่องดื่ม 108 รายการ วัสดุก่อ สร้าง 35 รายการ และหมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม 101 รายการ

     "กระทรวงพาณิชย์ขอขอบคุณผู้ผลิตที่ให้ความร่วมมือเข้าใจ และปฏิบัติตามนโยบายของกระทรวงในการสร้างความเป็นธรรมทางการค้า และลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชน โดยการแจ้งลดราคาสินค้าอย่างสมเหตุผลและเป็นไปตามกลไกตลาด" รมว.พาณิชย์ระบุ ผู้ผลิตที่แจ้งปรับลดราคาสินค้ากลุ่มอาหารและเครื่องดื่ม เช่น ซี.พี.ฟู้ดสโตร์ (ข้าวตราฉัตร) ข้าวแสนดี (ตราข้าวแสนดี) เจียเม้ง มาร์เก็ตติ้ง (ข้าวตราหงษ์ทอง) ปทุม ไรซ์ มิลล์ (ข้าวตรามาบุญครอง) ธนากรผลิตภัณฑ์น้ำมันพืช (ตรากุ๊ก) น้ำมันพืชไทย (ตราองุ่น) รอแยลฟู้ดส์ (ตราสามแม่ครัว) ทรอปิคอล แคนนิ่ง (ปลากระป๋องตราทีซีบี) โรงงานผลิตภัณฑ์อาหารไทย (ตราไวไว) ราชาชูรส (ตราช้อน)  กลุ่มบริษัทก่อสร้าง เช่น โนวา สตีล, แปซิฟิก ไพพ์, สหวิริยา สตีล, โพสโค-ไทยน๊อคซ์, มหพันธ์ไฟเบอร์ ซีเมนต์ (ตราห้าห่วง), ไทยเฉินไวร์ แอนด์ เคเบิ้ล (ตรา ANT), อุตสาหกรรมท่อน้ำไทย, สมาคมอุตสาหกรรมปูนซีเมนต์ไทย (7 บริษัท ตราเสือ/ T PI/อินทรี/งูเห่า/ดอกบัว/ราชสีห์/ลูกโลก)

  กลุ่มผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ได้แก่ ปตท., บางจาก, เชลล์, เชฟรอน, บีพี-คาสตรอล

      นางอภิรดี กล่าวว่า กระทรวงอยู่ระหว่างหารือกับผู้ ผลิตและห้างสรรพสินค้า ในการจัดกิจกรรมลดราคาสินค้า พร้อมกันทั้งประเทศในโครงการ "เทใจ คืนสุข" ซึ่งจะมีการลดราคาสินค้าลงตั้งแต่ 15-70% คาดว่าจะจัดได้ในช่วงต้นเดือน ธ.ค.2558 ระยะเวลา 7 วัน เพื่อช่วยลดภาระค่าครองชีพให้กับประชาชนได้อย่างต่อเนื่อง และยังเป็นการช่วยผู้ผลิตในการระบายสินค้า และช่วยกระตุ้นกำลังซื้อในช่วงปลายปี

     นายโรเบิร์ต ก็อดวิน รองประธานฝ่ายการตลาดและการสื่อสาร บมจ.บิ๊กซี ซูเปอร์เซ็นเตอร์ กล่าวว่า การดำเนินธุรกิจของบริษัท ยังคงเดินหน้าทำราคาสินค้าให้ถูกที่สุด ในการช่วยเหลือผู้บริโภคท่ามกลางสถานการณ์เศรษฐกิจเช่นนี้ โดยในช่วงไตรมาสสุด ท้ายของปีนี้ ได้เปิดตัวแคมเปญ "ราคาถูกลงมากกว่าปีที่แล้ว" หรือ "Cheaper Than Last Year" นำสินค้าทุกหมวดมาก กว่า 5,000 รายการ มาลดราคาขายให้ถูกลงกว่าเมื่อปี 2557 โดยสินค้าจะมีการปรับเปลี่ยนเป็นประจำทุกสัปดาห์ ซึ่งจะทำให้ผู้บริโภคสามารถซื้อของได้ในราคาถูกได้ทุกวัน ไม่ต้องรอการจัดโปรโมชั่น คาดว่าแคมเปญดังกล่าวจะลากยาวต่อเนื่องไปจนถึงปี 2559

     สำหรับงบประมาณการ ตลาดตลอดปี 2558 อยู่ที่ 9,000 ล้านบาท เพื่อทำการลดราคาสินค้าและกิจกรรมโปรโมชั่นตลอดทั้งปี

สหพัฒน์ ชี้กำลังซื้อฟื้นปี’59 ผู้ผลิตสินค้าหั่นแหลกราคา 244 รายการ

    แนวหน้า : รมว.พาณิชย์ บีบผู้ค้าลดราคาตามต้นทุนสำเร็จ ล่าสุดแจ้งลดราคาแล้ว 244 รายการ ด้าน’เจ้าสัวบุณยสิทธิ์’ ชี้มาตรการเศรษฐกิจไทยเดินมาถูกทางแล้ว เชื่อปีหน้าเศรษฐกิจดีขึ้น

     นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รมว.พาณิชย์เปิดเผยเมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2558 ว่า ตามที่ กระทรวงพาณิชย์ ได้ขอให้ผู้ผลิตสินค้าไปคำนวณต้นทุนในการผลิตสินค้าใหม่ อันเนื่องมาจากราคาน้ำมันที่ปรับลดราคา มาอย่างต่อเนื่อง ขณะนี้มีผู้ผลิต 23 ราย ได้แจ้งมายัง กระทรวงพาณิชย์ ขอลดราคาสินค้าใหม่จากราคาจำหน่ายเดิมแล้ว รวม 244 รายการ โดยแบ่งเป็นหมวดอาหารและเครื่องดื่ม 108 รายการ หมวดวัสดุก่อสร้าง  35 รายการ หมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม(น้ำมันหล่อลื่น)101 รายการ

                สำหรับ ตัวอย่างสินค้าที่ลดราคา หมวดอาหารและเครื่องดื่ม ลดตั้งแต่ 1-56 บาท(หรือ 3.13-33%) เช่น ข้าวสารถุง 5 กก.หอมมะลิ 100% ตราฉัตรทอง ปกติ 260 บาท ลดเหลือ 219-239 บาท หอมปทุม ตราฉัตรปกติ  155 บาท ลดเหลือ 129-149 บาท หอมมะลิใหม่ต้นฤดู ตรามาบุญครอง ปกติ 242 บาท ลดเหลือ 227-229 บาท น้ำมันถั่วเหลืองตรากุ๊ก 1 ขวดลิตร ปกติ 48 บาท ลดเหลือ 39.17 บาท ตราองุ่น 1 ขวดลิตร ปกติ 54.43 บาทลดเหลือ 41.25-43.60 บาท น้ำปลาแท้ ตราสามแม่ครัว ขวด 700 ซีซี ปกติ 20 บาท ลดเหลือ 19 บาท ปลากระป๋องแมกคอเรลในซอสมะเขือเทศเข้มข้น ตราสามแม่ครัว กระป๋อง 155 กรัม ปกติ 22 บาท ลดเหลือ 19 บาท  บะหมี่กึ่งสำเร็จรูปรสต้มยำกุ้ง, หมูสับ ตราไวไว ขนาดถ้วยแพ็ก 6 ปกติ 78 บาท ลดเหลือ 60 บาท  ผงชูรส ตราช้อนขนาด 2 กก./ซอง  ปกติ 174 บาท ลดเหลือ 151 บาท

     หมวดวัสดุก่อสร้าง ลดตั้งแต่ 0.50-14,000 บาท หรือ 2.08-18% เช่น เหล็กเส้นกลม 9 มม. 2,770.80 บาท/ตัน เหล็กโครงสร้างรูปพรรณตัว C 4,500 บาท/ตัน เหล็กแผ่นรีดร้อนชนิดม้วน 3,000 บาท/ตัน เหล็กกล้าไร้สนิมรีดเย็น (สเตนเลส) 14,000 บาท/ตัน กระเบื้องมุงหลังคา สีซีเมนต์ 0.50 บาท/แผ่น สายไฟฟ้า 67.40-950 บาท ท่อพีวีซี1.17-17.95 บาท ปูนซีเมนต์ผสม/ปอร์ตแลนด์5 บาท/ถุง 50 กก. และหมวดผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียม ลดตั้งแต่ 3-1,595 บาท หรือ 3-22.50% เช่น ตรา PTT 3-40 บาท ตราบางจาก 5-15 บาท ตรา Shell 3-131 บาท ตรา Delo และ Havoline 4-113 บาท Castrol 3-1,595 บาท

      ในวันเดียวกันนี้ นางอภิรดี ยังลงพื้นที่สำรวจ ติดตามสถานการณ์ราคาสินค้าอุปโภคและอาหารเจปรุงสำเร็จ ณ บริเวณศาลเจ้าบ้วนชุนตั๊ว และตลาดดาวคะนอง กรุงเทพฯด้วย พร้อมให้สัมภาษณ์ว่า จากการลงพื้นที่ตรวจสอบราคาสินค้า และสอบถามประชาชนที่มาจับจ่ายซื้อของในช่วงเทศกาล พบว่าราคาอาหารเจปรุงสำเร็จในปีนี้มีราคาอยู่ที่ประมาณ 25-40 บาท ซึ่งถือว่าเป็นราคาที่อยู่ในระดับราคาปกติ ไม่ได้มีการปรับขึ้นจากปีก่อน แต่ในส่วนของผักสด อาจมีราคาที่สูงขึ้นบ้างบางชนิด ซึ่งเป็นไปตามฤดูกาล และตรงกับช่วงเทศกาลกินเจ ที่ประชาชนมีความต้องการบริโภคผักมาก แต่ทั้งนี้ก็เชื่อว่าราคาจะสูงในช่วงต้นเทศกาลกินเจ แต่เมื่อถึงช่วงปลายเทศกาลราคาผักจะเริ่มลดระดับราคาลงมาแน่นอน

    นอกจากนี้ เมื่อวันที่ 15 ต.ค. 2558 นางอภิรดีได้ร่วมโครงการ Thailand BEST เป็นการร่วมมือของ กระทรวงพาณิชย์ และเครือสหพัฒน์ ในการช่วยเหลือพัฒนาธุรกิจขนาดกลาง และขนาดย่อม(SMEs) เพื่อพัฒนาธุรกิจให้เข้มแข็ง สามารถขายได้ทั้งในและต่างประเทศ และการันตีว่าเป็นสินค้าที่ดีที่สุดของไทย วางจำหน่ายในเว็บไซต์ Thailandbest.go.th

     นายบุณยสิทธิ์ โชควัฒนา ประธานเครือสหพัฒน์ กล่าวว่า รัฐบาลเดินมาถูกทางแล้วในการแก้ไขปัญหาเศรษฐกิจ โดยเชื่อว่าปีหน้ากำลังซื้อฟื้นตัวดีขึ้นได้ ส่วนมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์มองว่าจะช่วยกระตุ้นกำลังซื้อของผู้บริโภคได้มากขึ้น เนื่องจากมีแนวทางการสนับสนุน โดยเฉพาะการลดค่าธรรมเนียมการโอนสำหรับผู้ซื้อบ้านในกลุ่มผู้มีรายได้น้อยถึงปานกลาง ซึ่งจะช่วยเร่งให้เกิดการโอนที่อยู่อาศัยเร็วขึ้น และโดยส่วนตัวเห็นว่านโยบายกระตุ้นภาคอสังหาริมทรัพย์แตกต่างจากนโยบายรถคันแรกที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก

  อย่างไรก็ตาม แม้เศรษฐกิจไทยจะมีโรดแมปที่ดี แต่เศรษฐกิจในปีนี้ก็ยังไม่น่าจะขยายตัวได้ อาจต้องรอระยะเวลาให้การดำเนินการของแผนรัฐบาลแสดงผล ซึ่งอาจต้องรอประเมินเศรษฐกิจในอีก 2-3 เดือนจากนี้ สำหรับในไตรมาสที่ 4 เศรษฐกิจไทยยังทรงตัว แต่ในปี 2558 น่าจะปรับตัวดีขึ้นได้