WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

MOCอภรด ตนตราภรณครม.สั่งพาณิชย์ ศึกษากรอบข้อตกลง RCEP ควบคู่ TPP หวังสร้างประโยชน์การส่งออกไทยสูงสุด ยันยังมีเวลาไม่ต้องรีบ

   ครม.สั่งให้กระทรวงพาณิชย์ และหน่วยงานเกี่ยวข้อง เร่งศึกษารอบคอบเกี่ยวกับ RCEP ควบคู่ TPP หวังสร้างประโยชน์การส่งออกไทยสูงสุด

   นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยภายหลังการประชุมครม.ว่า ได้รายงานให้ที่ประชุมครม.รับทราบถึงความคืบหน้าในการศึกษาผลดี-ผลเสียของการจะเข้าเป็นส่วนหนึ่งของสมาชิกความตกลงหุ้นส่วนยุทธศาสตร์เศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก หรือ TPP ว่า จากการศึกษาสิทธิประโยชน์หากไทยเข้าเป็นสมาชิกของ TPP นั้น พบว่ามีทั้งข้อดีและข้อเสีย ซึ่งต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ โดยในเบื้องต้นพบว่าจะมีผลกระทบต่อการส่งออกสินค้าของไทยในบางส่วนที่มีการแข่งขันสูง แต่ไม่มาก เนื่องจากไทยมีปริมาณการค้ากับอาเซียนเพิ่มสูงขึ้น ขณะเดียวกัน ไทยยังได้เปิดเสรีการค้าในหลายประเทศ ที่ได้ลดและยกเว้นภาษีนำเข้าหลายรายการ

    ดังนั้น เพื่อให้เกิดความชัดเจนและรอบคอบมากขึ้น ที่ประชุมครม.จึงได้สั่งการให้กระทรวงพาณิชย์และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ทั้งกระทรวงสาธารณสุข และกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ กลับไปเร่งศึกษาเกี่ยวกับสิทธิประโยชน์ของความตกลงพันธมิตรทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค(Regional Comprehensive Economic Partnership)หรือ RCEP(อาเซป) ที่เคยศึกษาไว้นานแล้ว เพื่อนำสิทธิประโยชน์ของทั้ง 2 แห่งมาพิจารณาก่อนเข้าเป็นสมาชิกใด ซึ่งในส่วนของ RECP นั้น ประเทศในอาเซียนจะหารือกันในหัวข้อดังกล่าว ถึงแนวทางการลดภาษีระหว่างกันในการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนที่ประเทศมาเลเซียในเดือนพฤศจิกายนนี้ เพื่อให้ได้กรอบที่ชัดเจนในเดือนมกราคมปีหน้า 

    ทั้งนี้ ยืนยันว่า ไทยไม่จำเป็นต้องเร่งพิจารณาการเข้าเป็นสมาชิกของทั้ง TPP และ RCEP เพราะปัจจุบันไทยทำการค้าแบบเสรีกับหลายประเทศ และไม่ยังไม่ได้พิจารณาในเรื่องนี้อย่างเร่งด่วน ทั้งนี้ TPP มีสมาชิก 11 ประเทศ ประกอบด้วย สหรัฐ ชิลี เปรู ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ สิงคโปร์ บรูไน มาเลเซีย เวียดนาม แคนาดา และเม็กซิโก ขณะที่ RCEP มีสมาชิก 16 ประเทศ ประกอบด้วย ประเทศอาเซียน 10 ประเทศและจีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอินเดีย

สำนักข่าวอีไฟแนนซ์ไทย

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!