WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

ราคาข้าวไทยพุ่ง 427 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน หลังบาทแข็ง'คสช.'คุมเข้มสต็อก

     แนวหน้า : นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาส่งออก(เอฟโอบี) ข้าว 5% ของไทยปรับตัวอยู่ในระดับ 427 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน สูงกว่าราคาข้าวของเวียดนามที่อยู่ในระดับ 410 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน และข้าวอินเดียที่อยู่ระดับ 425 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน เนื่องจากนโยบายการตรวจสอบสต็อกข้าวในโกดังของโครงการรับจำนำข้าวของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างเข้มงวด จนผู้ส่งออกต้องไปหาซื้อข้าวในตลาดทั่วไปแทน ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนของไทยแข็งค่าขึ้นจากเดือนมิถุนายน 2557 ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 32.5 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ มาอยู่ในระดับ 31.9 บาทต่อเหรียญสหรัฐฯ

    ทั้งนี้ ผลของราคาข้าว 5% ของไทยที่ปรับตัวสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด จากราคาต้นเดือนเฉลี่ยที่ 409-410 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน มาอยู่ระดับ 427 เหรียญสหรัฐฯต่อตัน ส่งผลให้ผู้ซื้อข้าวในหลายๆประเทศที่จะมีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ข้าวใหม่ เริ่มชะลอออเดอร์ชั่วคราว เพื่อรอดูสถานการณ์ราคาข้าวไทยอีกครั้ง ทำให้การขายข้าวในช่วงนี้ซบเซาเล็กน้อย แต่ในส่วนของออเดอร์เก่าที่ลูกค้าต่างชาติเคยสั่งมาก่อนหน้านี้ไม่มีปัญหาอะไร สามารถส่งมอบได้ตามปกติ อย่างไรก็ตามผู้ส่งออกไม่กังวลมากนักที่ราคาข้าวไทยสูงขึ้น เพราะราคาข้าวไทยกับเวียดนามยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน ไม่ห่างกันมากนัก

   “หากราคาข้าวของไทยและเวียดนามไม่ห่างกันมาก ผู้ส่งออกก็ไม่กังวลมากนัก ส่วนการที่ราคาข้าวสูงขึ้นแบบก้าวกระโดด คงเป็นผลมาจากอัตราแลกเปลี่ยนมากว่ามาจากเรื่องของสต็อกข้าว ซึ่งตรงนี้ผู้ส่งออกก็คงต้องดูสถานการณ์สักระยะหนึ่งก่อนเกี่ยวกับสถานการณ์ของราคา”นายชูเกียรติ กล่าว

    อย่างไรก็ตาม ผู้ส่งออกข้าวไทยอยู่ระหว่างการติดตามการประมูลข้าวรอบใหม่ๆ จากหลายประเทศ เพื่อเข้าร่วมแข่งขันกับคู่แข่งไทย เช่น ในส่วนของอิรักมีการเปิดประมูลต่อเนื่องเดือนละ 40,000-50,000 ตัน รวมถึงฟิลิปปินส์ที่กำลังจะมีการเปิดประมูลข้าวรอบใหม่ในระดับหลักแสนตัน หลังจากก่อนหน้านี้เวียดนามชนะการประมูลไป และอินโดนีเซียก็มีแผนที่จะนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้น เป็นต้น นอกจากนี้ผู้ส่งออกมองว่าแนวทางในการระบายข้าว ทาง คสช.ควรอนุญาตให้ระบายข้าวในสต็อกในส่วนที่มีการตรวจสอบแล้ว เพราะหากรอให้ตรวจสอบครบทุกโกดัง แล้วค่อยระบายพร้อมกัน คงใช้เวลานานเป็นปี

    “หากโกดังใดที่ตรวจสอบแล้ว พบว่าไม่มีปัญหา หรือมีปริมาณข้าวอยู่ครบตามบัญชี และข้าวมีคุณภาพดี คสช.ก็ควรอนุญาตให้ทยอยระบายออกไปบ้าง โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ราคาข้าวปรับตัวดีเช่นนี้ เพราะหากจะรอให้ดำเนินการตรวจสอบครบทุกในโกดังก่อน แล้วค่อยระบายข้าวออกมาพร้อมกันคงไม่ได้ เพราะคงจะต้องใช้เวลานานเป็นปี และยังทำให้ข้าวเสื่อมคุณภาพลงเรื่อยๆอีกด้วย ราคาข้าวที่ขายได้ก็จะต่ำลง จนส่งผลให้ภาครัฐเสียโอกาสในการขายข้าว”นายชูเกียรติ กล่าว

บาทแข็ง-เข้มสต็อกดันข้าวไทยราคาพุ่งซวย!ผู้นำเข้าชะลอ

      ไทยโพสต์ * บาทแข็ง-คสช.คุมเข้มสต็อก ดันราคาข้าวไทยพุ่งแตะตันละ 427 ดอลลาร์สหรัฐ แซงอินเดียและเวียดนาม ส่งผล กระทบทำให้ผู้นำเข้ารอดูท่าที ชะลอสั่งออเดอร์ชั่วคราว ผู้ส่งออกแนะรัฐทยอยระบายข้าวที่ผ่านการตรวจคุณภาพแล้ว

     นายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทย เปิดเผยว่า ขณะนี้ราคาส่งออก (เอฟโอบี) ข้าว 5% ของไทย ปรับตัวอยู่ในระดับ 427 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน สูงกว่าราคาข้าวของเวียดนามที่อยู่ระดับ 410 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน และข้าวอินเดียที่อยู่ระดับ 425 ดอลลาร์สหรัฐต่อตัน

     เนื่องจากนโยบายการตรวจสอบสต็อกข้าวในโกดังจากโครงการรับจำนำข้าว ของคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.) อย่างเข้มงวด จนผู้ส่งออกต้องไปหาซื้อข้าวในตลาดทั่วไปแทน ประกอบกับอัตราแลกเปลี่ยนของไทยแข็งค่าขึ้นจากเดือนก่อนที่ค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 32.5 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ มาอยู่ระดับเฉลี่ย 31.9 บาทต่อดอลลาร์สหรัฐ

    "ผลของราคาข้าวไทยที่ปรับตัวแบบก้าวกระโดด ส่งผลให้ผู้ซื้อข้าวในหลายๆ ประเทศที่จะมีคำสั่งซื้อ (ออเดอร์) ข้าวใหม่ เริ่มชะลอออเดอร์ชั่วคราว เพื่อรอดูสถานการณ์ราคาข้าวไทยอีกครั้ง ทำให้การขายข้าวในช่วงนี้ซบเซาเล็กน้อย แต่ในส่วนของออเดอร์เก่าที่ลูกค้าต่างชาติเคยสั่งมาก่อนหน้านี้ สามารถส่งมอบได้ตามปกติ" นายชูเกียรติ กล่าว

    อย่างไรก็ดี ผู้ส่งออกคงต้องดูสถานการณ์ราคาข้าวสักระยะ เพราะแม้ราคาจะสูง แต่ราคาข้าวไทยกับเวียดนามยังคงอยู่ในระดับใกล้เคียงกัน หากราคาข้าวทั้ง 2 ประเทศไม่ห่างกันมาก ผู้ส่งออกไม่กังวลมากนัก เพราะยังแข่งขันได้

    นายชูเกียรติ กล่าวว่า ขณะ นี้ผู้ส่งออกข้าวไทยอยู่ระหว่างการติดตามการประมูลข้าวรอบใหม่ๆ จากหลายประเทศ เพื่อเข้าร่วมแข่งขันกับคู่แข่งของไทย เช่น ในส่วนของอิรัก มีการเปิด ประมูลต่อเนื่อง เดือนละ 40,000- 50,000 ตัน รวมถึงฟิลิปปินส์ที่กำลังจะมีการเปิดประมูลข้าวรอบใหม่ ในระดับหลักแสนตัน หลังจากก่อนหน้านี้เวียดนามชนะการประมูลไป และอินโดนี เซียมีแผนจะนำเข้าข้าวเพิ่มขึ้น เป็นต้น

    ในส่วนแนวทางการระบาย ข้าวนั้น ผู้ส่งออกอยากให้ทาง คสช. อนุญาตให้ระบายข้าวในสต็อกในส่วนที่มีการตรวจสอบแล้ว โดยโกดังใดที่ตรวจสอบแล้วไม่มีปัญหา หรือมีปริมาณข้าวอยู่ครบตามบัญชี และมีคุณภาพดี ควรจะทยอยระบายออกไปบ้าง ไม่ควรรอประมูลในคราวเดียว.

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!