Details

Category: พาณิชย์

Published: Tuesday, 13 May 2014 20:27

Hits: 3654

72 ปีกรมการค้าต่างประเทศ พลังขับเคลื่อนการค้าไทย ไปไกลทั่วโลก

     ไทยโพสต์ : กว่า 7 ทศวรรษที่กรมการค้าต่างประเทศ ได้ดำเนินบทบาทในฐานะกลไกสำคัญขับเคลื่อนด้านการค้าระหว่างประเทศในหลายมิติ จากยุคก่อตั้งในปี พ.ศ.2485 ที่มีการแบ่งส่วนราชการเพียง 4 กอง จนถึงปัจจุบัน ภารกิจของกรมการค้าต่างประเทศได้พัฒนาให้หลากหลายและครอบคลุมเพิ่มขึ้นตามการขยายตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลก มีการกำหนดส่วนราชการภายในออกเป็น 13 หน่วยงาน พร้อมด้วยสำนักงานการค้าต่างประเทศในส่วนภูมิภาค 10 แห่งทั่วประเทศ

     การดำเนินงานที่ผ่านมา ได้มุ่งเน้นการปรับภารกิจงานทุกๆ ด้านให้เป็นเชิงรุกมากขึ้น มุ่งเน้นการป้องกันและเฝ้าระวัง ภายใต้พันธกิจที่สำคัญ ได้แก่ การป้องกันและรักษาผลประโยชน์ทางการค้า การสร้างโอกาสและการอำนวยความสะดวกทางการค้า และการบริหารจัดการสินค้าเกษตรสำคัญ เพื่อกำหนดแนวทางการดำเนินงานหรือมาตรการรองรับ เพื่อให้ผู้ประกอบการสามารถปรับตัวและพร้อมต่อการแข่งขันที่เพิ่มสูงขึ้น

     ในด้านการปกป้องและรักษาผลประโยชน์ทางการค้า กรมการค้าต่างประเทศได้ส่งเสริมและผลักดันให้ผู้ประกอบการใช้ประโยชน์จากสิทธิพิเศษทางการค้าระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาค เช่น ความตกลงการค้าเสรี (AFTA/FTA) ระบบ GSP การดำเนินงานตามกรอบความร่วมมือทางการค้า เช่นGMS , IMT-GT และ ACMECS ตลอดจนการดำเนินมาตรการตอบโต้การทุ่มตลาด และการดำเนินมาตรการปกป้องจากการนำเข้าสินค้าที่เพิ่มขึ้น รวม 16 สินค้า โดยเฉพาะสินค้าเหล็ก รวมทั้งการดำเนินการแก้ต่างกรณีสินค้าไทยถูกฟ้องรวม 42 กรณี

      ในด้านการให้บริการและการอำนวยความสะดวกทางการค้า ได้ดำเนินการส่งเสริมการค้าเพื่อใช้ประโยชน์จากการเข้าสู่ประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน (AEC) ในปี 2558 เพราะ AEC จะทำให้อาเซียนกลายเป็นตลาดใหม่ที่มีความสำคัญ โดยปัจจุบันมีมูลค่าการค้ารวมกันกว่า 1.25 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือ 7% ของมูลค่าการค้าโลก โดยได้เตรียมความพร้อมรอบรับในส่วนของผู้ประกอบการ นักลงทุน ประชาชนทั่วไป ทั้งการจัดเวทีการค้า นำพาผู้ประกอบการพบปะกับคู่ค้าในประเทศเพื่อนบ้าน และการจัดสัมมนาให้ความรู้เกี่ยวกับการใช้สิทธิประโยชน์ทางการค้า เพื่อเพิ่มความสามารถทางการแข่งขันให้แก่ผู้ประกอบการอย่างต่อเนื่อง ส่งผลให้สถิติการค้าชายแดนของไทยในปี 2556 มีมูลค่าถึง 924,242 ล้านบาท ซึ่งไทยได้เปรียบดุลการค้าคิดเป็นมูลค่ากว่า 196,151 ล้านบาท

     นอกจากนี้ ยังได้ปรับปรุงพัฒนาเทคโนโลยีสารสนเทศ เพื่อนำมาใช้ในการให้บริการและการเชื่อมโยงข้อมูลกับหน่วยงานอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องให้มีความทันสมัยและเป็นไปอย่างต่อเนื่อง โดยการให้บริการออกใบอนุญาตนำเข้า-ส่งออก และหนังสือรับรองถิ่นกำเนิดสินค้าจากระบบ EDI ไปสู่ระบบNational Single Window และ Digital Signature ซึ่งผู้ประกอบการจะได้รับประโยชน์จากการลดระยะเวลา ลดขั้นตอน และประหยัดค่าใช้จ่าย

    ในด้านการบริหารจัดการสินค้าเกษตร ได้ดำเนินการจับตา เฝ้าระวัง รวมถึงการกำหนดมาตรการต่างๆ พร้อมทั้งการดำเนินการแก้ไขปัญหาการส่งออกสินค้า การกำกับดูแลการนำเข้าสินค้า การกำกับดูแลคุณภาพมาตรฐานสินค้าเกษตรส่งออกของไทย โดยการจัดงานประชุมนานาชาติ ได้แก่Thailand Rice Convention และ World Tapioca เป็นประจำอย่างต่อเนื่อง ซึ่งเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการนำเข้า-ส่งออก จากทั้งในและต่างประเทศได้พบปะ ทำให้เกิดการเจรจาทางธุรกิจ มีการแลกเปลี่ยนเชิงวิชาการ สร้างความเชื่อมั่นแก่ประเทศคู่ค้า ที่สำคัญยังเป็นการสร้างมูลค่าเพิ่มในตัวสินค้า เพื่อนำไปสู่การสร้างภาพลักษณ์การเป็นผู้นำสินค้าเกษตรของโลก

     ในด้านการแก้ไขปัญหาและอุปสรรคทางการค้าเชิงรุก ได้ติดตามและเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับมาตรการทางการค้าในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง รวมถึงการแก้ไขปัญหาทางการค้าต่างๆ เช่น ปัญหาแรงงานในกระบวนการผลิตสินค้าเพื่อการส่งออก สินค้ากุ้ง ปลา และเครื่องนุ่งห่ม นอกจากนี้ ยังมีกองทุน FTA ซึ่งเริ่มดำเนินการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2550 เพื่อช่วยเหลือการปรับตัวของภาคการผลิตและภาคบริการที่ได้รับผลกระทบจากการเปิดเสรีทางการค้า โดยได้ดำเนินการให้ความช่วยเหลือแล้ว 40 โครงการ ครอบคลุมทั้งในสินค้าเกษตร สินค้าอุตสาหกรรม และภาคบริการ

     ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2557 ที่ผ่านมา กรมการค้าต่างประเทศ ได้จัดงาน  72 ปี กรมการค้าต่างประเทศ "พลังขับเคลื่อนการค้าไทย ไปไกลทั่วโลก" โดยได้แสดงความพร้อมที่จะก้าวย่างเข้าสู่ปีที่ 73 ด้วยการยกระดับจาก "ผู้อำนวยความสะดวก" เพื่อก้าวสู่การเป็น "ที่ปรึกษาด้านการอำนวยความสะดวกทางการค้าอย่างมืออาชีพ" โดยมุ่งมั่นพัฒนาบุคลากรให้มีความสามารถในการเป็นที่ปรึกษาด้านกฎระเบียบและมาตรการทางการค้า พัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการไทย ให้สอดคล้องกับสถานการณ์โลกที่เปลี่ยนแปลงไป ตลอดจนแก้ไขปัญหาอุปสรรคทางการค้า เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของไทยในเวทีเศรษฐกิจโลก