WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

 

โฟกัส' ขายตรง: กองทุนขายตรงเพื่อผู้บริโภค

                บ้านเมือง : หนุ่มเซลส์แมน

   ไม่ทราบว่า ข่าวนี้ออกมาจากไหน มีคนมาบอกผู้เขียนว่า ใครก็ตามที่จะจดทะเบียนขายตรงต้องมีเงินแบงก์การันตีก่อน 1 ล้านบาท

     ฟังแล้วก็ยังงงๆ ข่าวนี้ทำไมไม่เคยรับทราบมาก่อน ทั้งๆ ที่ตามข่าว สคบ. มาตลอด

      ลือกัน เป็นมั่น เป็นเหมาะ ว่า ประกาศออกมาเป็นข้อบังคับ ตั้งแต่ 2 ตุลาคม 2557 คิดโดยท่านเลขา สคบ.

     สืบมาแล้ว เป็นเรื่องเท็จ ไม่ทราบต้นตอเรื่องเท็จนี้มาจากไหน ลือต่อกันเป็นลูกโซ่

    ท้ายที่สุดก็เป็นเรื่อง "เขาลือ เขาเล่าว่า" มาเป็นทอดๆ ที่ผ่านมา เงินแบงก์การันตี เคยถูกหยิบยกขึ้นสู่วงสัมมนาธุรกิจขายตรงมาเป็นประเด็นพิจารณาหลายปีแล้ว

    เป็นเหตุและผล ที่บางฝ่ายอยากให้คนที่จดทะเบียนขายตรง ต้องมีแบงก์การันตี อันเนื่องมาจาก บำบัด บรรเทา ขั้นพื้นฐาน ในยามที่ธุรกิจขายตรงนั้นๆ ประสบปัญหา แล้วสร้างความเดือดร้อนให้กับสมาชิกขายตรง และผู้บริโภค

    เป็นประเด็นที่ผู้เขียนค่อนข้างไม่เห็นด้วย เพราะเห็นว่า สร้างและบังคับแค่บริษัทเปิดใหม่เท่านั้น

    ส่วนบริษัทเก่าๆ ก่อนหน้า ไม่มีใครกล่าวถึงว่า จะให้ความร่วมมืออย่างไร เพราะบริษัทเก่าๆ เหล่านั้นทุกบริษัทก็มีสิทธิ์ล้มได้เช่นเดียวกัน

    ผู้เขียนกลับสนับสนุนแนวคิดตัวเอง คือการจัดตั้ง "กองทุนขายตรงเพื่อผู้บริโภค" เป็นกองทุนกลางที่ไม่ขึ้นตรงกับสมาคมใดสมาคมหนึ่ง แล้วตั้งคณะกรรมการร่วมขึ้นมาดูแล ซึ่งแนวคิดนี้เป็นแนวคิดที่ผู้ใหญ่ใน สคบ. บางคนก็กำลังคิด

     กองทุนนี้เอาเงินมาจากไหน คำตอบคือ จากบริษัทขายตรงต่างๆ ที่มีอยู่ทั้งหมด จะเก็บปีละเท่าไหร่ อย่างไรก็มาว่ากันในรายละเอียด ซึ่งเงินก้อนนี้นอกจากจะช่วยเยียวยาผู้ไม่ได้รับความเป็นธรรมจากธุรกิจนี้แล้ว ยังเป็นเงินก้อนสำคัญในการนำมาประชาสัมพันธ์ภาพลักษณ์ที่ดีต่อธุรกิจนี้ไปสู่สาธารณชนได้ในหลากหลายรูปแบบ

     ธุรกิจนี้มีการเปิดดำเนินกิจการเกิน 500 บริษัท ลงขันตามเปอร์เซ็นต์ผลประกอบการ หรือแบบก้อนเดียวจบต่อปี ผู้เขียนมองว่า

     แค่เอา 50000x500 ก็เป็นเงินมากถึง 25 ล้านบาท ดูไม่มาก แต่หากเฉลี่ยแล้วตกบริษัทละ 100,000 บาทต่อปี ก็เป็นเงินราวๆ 50 ล้านบาทถ้า 1000 บริษัท ก็หมายความว่า เงินกองกลางปีหนึ่งๆ ไม่ต่ำกว่า 100 ล้าน ให้เอามาบำรุง และประชาสัมพันธ์ธุรกิจ

   นี่ยังไม่รวมเงินที่เรี่ยไรมากจากนักขายอีกนะพี่น้อง ขอเขาแค่ร้อยละ 3 ร้อยละ 5 จากรายได้ เงินก็มากกองวางปีหนึ่งๆ เกิน 200 ล้านแล้วทำอะไรได้ตั้งเยอะ

   ปัดโถ่!! ทำไมเงินแค่นี้จะระดมกันไม่ได้ รอแค่ท่านเลขา สคบ.ออกกฎมาก็แค่นั้น...

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!