Details

Category: ขายตรง

Published: Thursday, 21 August 2014 21:58

Hits: 3673

'ทรูไลฟ์โกลด์' ผนึกขายตรงลาว เปิด 2 เดือนยอดสมาชิกทะลุ 2 พันราย

                        บ้านเมือง : สุภพงษ์ เทียนสี/รายงาน

     'ทรูไลฟ์โกลด์'ขานรับ AEC ซุ่มเงียบร่วมทุนนักธุรกิจท้องถิ่น เปิด 'ลานช้างโกลด์' ดำเนินธุรกิจขายตรงในเวียงจันทน์ ผู้บริหารชี้ขายตรงลาวอนาคตสดใส เปิดเพียง 2 เดือนยอดสมาชิกทะลุพันคน ขณะที่เทรนด์สินค้าสุขภาพความงามยังมาแรง เร่งปูพรมทั่วภูมิภาคอินโดจีน เตรียมรุกคืบเข้ากัมพูชา พม่า ส่วนตลาดประเทศไทยครึ่งปีหลังยังเงียบเหงาไม่มีความหวือหวา ปั้น 8 อรหันต์ขับเคลื่อนเครือข่ายทั่วประเทศ สานพันธมิตรทีวีดาวเทียมสร้างการรับรู้สินค้าและแบรนด์ ลงทุนด้านระบบออนไลน์ ออฟไลน์ ปีหน้าสปีดเต็มที่ เชื่อมั่นยอดพุ่งกระฉูด

     นายเกียรติคณัตฐ์ ภคพลธนกุล ประธานที่ปรึกษา บริษัท ทรูไลฟ์โกลด์ จำกัด เปิดเผยว่า บริษัทได้มีการขยายธุรกิจไปต่างประเทศ โดยได้ร่วมทุนกับนักธุรกิจท้องถิ่นชาวลาว เปิดสาขาของบริษัทที่เวียงจันทน์ ประเทศลาว ภายใต้ชื่อ ลานช้างโกลด์ เป็นเวลากว่า 2 เดือนที่ผ่านมา โดยเปิดโอกาสให้นักธุรกิจลาวมีอำนาจการบริหารอย่างเต็มที่ ส่วนบริษัททำหน้าที่สนับสนุนด้านระบบและสินค้ากว่า 80 เปอร์เซ็นต์

     "เรามีการพูดคุยด้านแนวคิดมาตั้งแต่ปีที่แล้ว แต่มาเริ่มจริงจัง 2 เดือนที่ผ่านมา จริงๆ มีนักธุรกิจชาวลาว ชาวจีนหลายๆ กลุ่มเข้ามาเป็นตัวเลือกแต่เราได้เลือกคนที่ตั้งใจทำธุรกิจจริงๆ นักธุรกิจเครือข่ายชาวลาวในปัจจุบันมีจำนวนมากขึ้น เราให้ทางนั้นเป็นคนจัดการเองโดยเราซัพพอร์ตเรื่องการอบรมสัมมนา ตลอดจนระบบไอทีต่างๆ ปัจจุบันมีสมาชิกกว่า 1,000 รหัส แอกทีฟ 100-200 รหัส"

      นายเกียรติคณัตฐ์ กล่าวว่า สินค้าขายตรงซึ่งเป็นที่นิยมของตลาดลาวคือกกลุ่มสุขภาพและความงาม สินค้าที่ประเทศไทยหมดความนิยมไปช่วงที่ผ่านมา แต่ประเทศลาวยังขายได้อยู่ ปัจจุบันมีสินค้าที่เข้าไปตอบสนองความต้องการกว่า 7-8 รายการ ซึ่งบริษัทมียอดขายต่อวันโดยเฉลี่ยอยู่ที่ 100,000 บาท และมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอย่างก้าวกระโดด

       "ขายตรงประเทศลาว กฎหมายยังไม่เข้มงวดมากนัก ทำให้การทำงานรวมเร็วขึ้น แต่อย่างไรก็ตามก็เป็นโอกาสให้แชร์ลูกโซ่ หรือคนบางกลุ่มเข้าไปแสวงหาผลประโยชน์ มีผลต่อความเชื่อมั่นต่อธุรกิจขายตรงของคนลาว โดยเฉพาะขายตรงที่มาจากประเทศไทยเพราะเคยมีบางคนเข้าไปทำตลาด เก็บยอดไปแต่นำเงินส่งบริษัท สมาชิกที่นั่นก็ไม่ได้เงิน ได้แต่สินค้า เกิดความเสียหายคนละหลายแสนบาท"

     สำหรับ ก้าวต่อไปของทรูไลฟ์โกลด์ นายเกียรติคณัตฐ์ กล่าวต่อไปว่า หลังจากบริษัทประสบความสำเร็จจากการขยายสาขาที่ประเทศลาวแล้ว ต่อไปจะมีการขยายสาขาต่อไปยังประเทศกัมพูชา หรือพม่า ทั้งนี้ เพราะกลุ่มผู้นำมีกาขยายตลาดกันต่อไปเอง ทั้งนี้บริษัทะพิจารณาว่าจะเข้าไปขยายธุรกิจโดยใช้โมเดลที่ประเทศลาวเป็นต้นแบบ คือเป็นการร่วมทุนระหว่างบริษัทกับนักลงทุนท้องถิ่นนั้นๆ

      "ผมเห็นหลายๆ บริษัทเข้าไปเปิดสาขาที่ลาวแต่ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ไม่มีสมาชิกเพิ่ม ยอดไม่ขึ้น นั่นเพราะคนที่นั่นไม่มีความรู้สึกเป็นเจ้าของ พอบริษัทไปเปิดสาขา แม่ทีมที่เมืองไทยไปสปอนเซอร์แล้ว กลับ จะคึกคักทีก็ตอนที่มีผู้บริหารลงไป แต่สำหรับเราถือว่าเป็นขายตรงรายแรกๆ ที่เข้าไปในลักษณะการร่วมทุนอย่างแท้จริง เราให้โอกาสเขาบริหารอย่างเต็มที่ บริษัทมีหน้าที่แค่สนับสนุนด้านความพร้อมต่างๆ จึงทำให้ยอดขายเติบโตและมีสมาชิกเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ตลาดลาวเป็นตลาดที่ใหญ่ มีความได้เปรียบด้านภาษาที่คล้ายคลึงกัน ทำให้เราเริ่มต้นที่นั่นได้เร็ว ส่วนอนาคตอันใกล้จะรุกไปเปิดสาขาในลักษณะเดียวกันที่กัมพูชา หรือพม่า ขึ้นอยู่กับว่าเราจะเจอคนที่ตั้งใจทำธุรกิจจริงจังและมีความพร้อมด้านเงินทุนที่จะขับเคลื่อนธุรกิจได้"

    สำหรับ ตลาดขายตรงไทยในช่วงครึ่งปีหลัง ประธานที่ปรึกษาฯ กล่าวว่า ขายตรงครึ่งปีหลังนี้บรรยากาศค่อนข้างเงียบเหงา ไม่ค่อยมีโต้โผใหญ่ที่ทำให้เป็นสีสันเท่าใดนัก แต่หลังจากนี้เหลือเวลาอีก 4 เดือนก็จะสิ้นปีเชื่อว่าจะมีความตื่นตัวมากขึ้น สำหรับทรูไลฟ์โกลด์ปัจจุบันมีการรุกตลาดมากขึ้น โดยใช้สื่อทีวีดาวเทียมซึ่งเป็นพันธมิตรอยู่ 2 ช่องมาเป็นช่องทางในการสื่อสารกับผู้บริโภค นอกจากนี้ยังมีสื่อที่เป็นนิยสารเกี่ยวกับอาชีพซึ่งเป็นพันธมิตร ใช้เป็นสื่อกลางหมุนเวียนภาพความเคลื่อนไหวของบริษัท

    "เราค่อยไปรับตัวตามสถารการณ์ เน้นจัดเฮาส์มีทติ้ง เน้นขายปลีก ออนไลน์ ออฟไลน์ เราลงทุนกับระบบ ส่วนสินค้าเรามีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง มีจุดขาย มีคู่ค้าที่ดี เรามีการผลิตสินค้าเองด้วยจึงสามารถควบคุมคุณภาพและราคาได้ หลังจากปีนี้ยอดจะพุ่งขึ้น ฝั่งลาวก็จะทำแบบนี้แต่ต้องอาศัยเวลา"

     ประธานที่ปรึกษา กล่าวต่อไปว่า กลยุทธ์ในครึ่งหลังนี้ บริษัทเน้นสร้างบุคลากรเพื่อเข้าไปดูแลตามภูมิภาคต่างๆ โดยจัดตั้งเป็นผู้จัดการภาคแบ่งออกเป็น 8 ภาค ทั้งหมดจะมีหน้าที่ดูแลรับผิดชอบพื้นที่นั้นๆ โดยทั้ง 8 คนจะถูกเทรนความเป็นมืออาชีพในทุกด้าน เมื่อบริษัทมีสมาชิกใหม่เข้ามา จะถูกส่งต่อให้คนเหล่านี้เข้าไปดูแล

    "เราเรียกผู้จัดการภาคทั้งหมดว่า 8 อรหันต์ แต่ละภาคจะมีผู้ช่วยภาคละ 4 คน ซึ่งจะถูกเทรนความเป็นมืออาชีพ แต่ละคนจะมีผู้ช่วยอีก 6 คน ทั้ง 6 คนนี้ ทีมผู้นำอีก 10 คน อย่างนี้เป็นต้น เราจะต้องพัฒนากลุ่มผู้นำให้แข็งแรง บริษัทก็จะมีการเดินสายไปพบผู้นำของทั้ง 8 ภาค เน้นให้ความช่วยเหลือ สนองตอบความต้องการด้านต่างๆ ก่อนที่จะเปิดตัวอย่างเป็นทางการ" ประธานที่ปรึกษา กล่าว