Details

Category: พลังงาน

Published: Wednesday, 17 September 2014 00:48

Hits: 3210

สถานการณ์ราคาน้ำมันดิบและน้ำมันสำเร็จรูปประจำสัปดาห์ที่ 8-12 ก.ย. 2557 และแนวโน้มในสัปดาห์ที่ 15-19 ก.ย. 2557

       ฝ่ายกลยุทธ์ และแผนธุรกิจหน่วยธุรกิจการค้าระหว่างประเทศ บริษัท ปตท. จำกัด (มหาชน) รายงานสรุปสถานการณ์น้ำมัน ราคาเฉลี่ยในสัปดาห์ล่าสุดที่ผ่านมา เมื่อเทียบกับสัปดาห์ก่อนหน้า ปรับลดลงทุกชนิด โดยราคาน้ำมันดิบเบรนท์ (Brent) ลดลง 3.19 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 98.52 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล, น้ำมันดิบดูไบ (Dubai) ลดลง 2.84 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 97.04 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และราคาน้ำมันดิบเวสท์เท็กซัสฯ (WTI) ลดลง 1.60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 92.44 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วนราคาเฉลี่ยน้ำมันสำเร็จรูป น้ำมันเบนซินออกเทน 95 ลดลง 1.41 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 110.85  เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และน้ำมันดีเซลลดลง 2.97 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล อยู่ที่ 112.79  เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ปัจจัยที่ส่งผลกระทบได้แก่ :

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงลบ

·       รายงานประจำเดือน ก.ย. 57 ขององค์กรประเทศผู้ส่งออกน้ำมัน (Organization of the Petroleum Exporting Countries) หรือ OPEC ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันดิบโลกในปี 57 ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 โดยลดจากที่คาดการณ์ไว้ในเดือนก่อนลง 50,000 บาร์เรลต่อวัน มาอยู่ที่ 1.05 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อนหน้า

·       รายงานประจำเดือน ก.ย. 57 ของสำนักตัวแทนพลังงานระหว่างประเทศ (International Energy Agency) หรือ IEA ปรับลดคาดการณ์อัตราการเติบโตของอุปสงค์น้ำมันดิบโลกในปี 57 จากการคาดการณ์ครั้งก่อนหน้า 70,000 บาร์เรลต่อวัน ลงมาอยู่ที่ 0.9 ล้านบาร์เรลต่อวัน จากปีก่อนหน้า ทั้งนี้อุปสงค์น้ำมันโลกโดยรวมอยู่ที่ 92.6 ล้านบาร์เรลต่อวัน

·       บริษัทน้ำมันแห่งชาติของลิเบีย National Oil Corp. (NOC) เผยยอดผลิตน้ำมันดิบในช่วงต้นเดือน ก.ย. 57 เพิ่มขึ้นตามลำดับ อยู่ที่ 810,000 บาร์เรลต่อวัน เทียบกับยอดเดือน ส.ค. 57 ที่ 530,000 บาร์เรลต่อวัน แม้สถานการณ์ความขัดแย้งในประเทศยังคงรุนแรง

·       อุปสงค์น้ำมันดิบลดลง เนื่องจากเงินสกุลดอลลาร์สหรัฐฯ แข็งค่าขึ้น เทียบกับเงินสกุลอื่นในตะกร้าหลักของโลก ทั้งนี้ เงินดอลลาร์ฯ แข็งค่าติดต่อกันเป็นสัปดาห์ที่ 9 ซึ่งยาวนานที่สุดในรอบ 17 ปี ทำให้ราคาสินค้าโภคภัณฑ์ รวมถึงน้ำมัน ที่ซื้อขายเป็นดอลลาร์ฯ แพงขึ้น นักลงทุนจึงชะลอการซื้อและเทขายทำกำไร

ปัจจัยที่กระทบต่อราคาน้ำมันดิบในเชิงบวก

·       แหล่ง Buzzard (200 KBD) ของอังกฤษในทะเลเหนือเกิดปัญหาขัดข้องทางเทคนิคในช่วงต้นสัปดาห์ หลังกลับมาดำเนินการเมื่อเสร็จสิ้นการซ่อมบำรุงประจำปี ทำให้การส่งมอบน้ำมันดิบ Forties ในเดือน ก.ย. 57 จำนวน 6 เที่ยวเรือ ต้องเลื่อนออกไป

·       การเมืองโลกตึงเครียด โดยสหภาพยุโรปตกลงดำเนินการยกระดับมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซีย และสหรัฐฯ ประกาศมาตรการคว่ำบาตรต่อรัสเซียเพิ่มเติมเช่นกัน ขณะที่รัสเซีย “ส่งสัญญาณ” บ่งชี้แนวทางตอบโต้ อาทิ บริษัท Gazprom ของรัสเซียลดปริมาณการส่งมอบก๊าซธรรมชาติทางท่อให้ประเทศยุโรปตะวันออก อาทิ โปแลนด์ และสโลวัค

แนวโน้มราคาน้ำมันดิบ

       หลังจากราคาสัญญาน้ำมันดิบ Brent ในตลาดซื้อขายล่วงหน้า อยู่ต่ำกว่าระดับ 100 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ตั้งแต่วันที่ 9 ก.ย. 57 ปรากฏว่ายังมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยล่าสุดเมื่อวันที่ 12 ก.ย. 57 ปิดตลาดอยู่ที่ 97.11 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ส่วน WTI ปิดตลาดที่ 92.27 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล เนื่องจากนักลงทุนวิตกต่อภาวะอุปทานล้นตลาด และกลุ่ม OPEC ยังไม่มีท่าทีจะจัดการกู้ราคาน้ำมันดิบกลับคืน อาทิ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงน้ำมันของซาอุดีอาระเบีย นาย Ali al-Naimi ไม่แสดงความกังวล ซ้ำชี้ว่าราคาปรับเปลี่ยนขึ้นลงตามปกติ ทั้งนี้นักวิเคราะห์มองว่าซาอุดีอาระเบียอาจรอจนราคาลดต่ำกว่าระดับ 85 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล ที่ถือเป็นจุดสมดุลต่อรายได้สำหรับงบประมาณของประเทศ เช่นเดียวกับประเทศสมาชิก OPEC รายอื่นซึ่งยังไม่เห็นความจำเป็นที่จะกำหนดมาตรการแทรกแซง โดยยังไม่มีการเรียกประชุมวิสามัญ ก่อนการประชุมสามัญของ OPEC ในวันที่ 27 พ.ย. 57 ที่กรุงเวียนนา ออสเตรีย อย่างไรก็ตามนักวิเคราะห์จาก Bank of America-Merrill Lynch ชี้ว่าราคาที่ตกต่ำในขณะนี้ กระเทือนต่อรัสเซียอย่างหนัก เนื่องจากจุดสมดุลต่องบประมาณของรัสเซียอยู่ที่ 105 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล จากการวิเคราะห์ทางเทคนิค ในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาเฉลี่ยน้ำมันดิบ Brent จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 95.4-98.3 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล WTI อยู่ในกรอบ 90.0-94.5 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล และ Dubai อยู่ในกรอบ 93.9-97.8 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

สถานการณ์น้ำมันเบนซิน

       สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาเฉลี่ยน้ำมันเบนซินปรับตัวลดลง โดย International Enterprise Singapore (IES) รายงานปริมาณสำรอง Light Distillates เชิงพาณิชย์ของสิงคโปร์ ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ก.ย. 57 เพิ่มขึ้น 0.7 ล้านบาร์เรล จากสัปดาห์ก่อนหน้า มาอยู่ที่ 11.7 ล้านบาร์เรล สูงสุดในรอบ 3 เดือน อย่างไรก็ตามโรงกลั่นน้ำมัน Mailiao ในไต้หวัน หยุดดำเนินการหน่วย Residue Fluid Catalytic Cracker (RFCC) ที่มีกำลังการผลิต 84 ,000 บาร์เรลต่อวัน เพื่อซ่อมแซม ตั้งแต่กลางสัปดาห์ก่อน ใช้เวลาประมาณ 15 วัน ในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาเฉลี่ยน้ำมันเบนซินออกเทน 95 จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 107.9-111.8 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล

สถานการณ์น้ำมันดีเซล

       สัปดาห์ที่ผ่านมาราคาเฉลี่ยน้ำมันดีเซลปรับลดลง เนื่องจากแรงขายในตลาดจรจากอินเดีย ซึ่งปริมาณสำรองน้ำมันดีเซลในประเทศอยู่ในระดับสูง และอุปสงค์อ่อนแอหลังฝนตกหนักในช่วงฤดูมรสม ทั้งนี้ปริมาณฝนของอินเดีย ในสัปดาห์สิ้นสุดวันที่ 10 ก.ย. 57 สูงกว่าระดับเฉลี่ยถึง 64 % สูงสุดในปีนี้ ทำให้อุปสงค์น้ำมันดีเซลทางการเกษตร เพื่อใช้เติมเครื่องสูบน้ำสำหรับการชลประทาน ลดลงมากในช่วงน้ำหลาก ในสัปดาห์นี้คาดว่าราคาเฉลี่ยน้ำมันดีเซล ชนิดปริมาณกำมะถัน 0.05 % จะเคลื่อนไหวอยู่ในกรอบ 109. 7-116.6 เหรียญสหรัฐฯ ต่อบาร์เรล