WORLD7

smed PIONEER 720x100ใจฟู720x100pxgpf 720x100 66

01 CFABaNGOs

'สนธิรัตน์'เปิดรับฟังความเห็นต่างด้านพลังงานจาก NGOs แกนนำคปพ.ยื่นข้อเรียกร้องเร่งปรับโครงสร้างด้านพลังงาน

       รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน'สนธิรัตน์'นำกระทรวงพลังงานสู่ยุคเปิดกว้างรับฟังความคิดเห็นจากทุกกลุ่มผู้มีส่วนได้ส่วนเสียด้านพลังงาน ล่าสุดเปิดเวทีหารือแกนนำเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงาน (คปพ.)เพื่อนำข้อคิดเห็นมาประกอบการพิจารณาปรับใช้ให้เหมาะสมกับการวางนโยบายด้านพลังงานต่อไป พร้อมเปิดกว้างให้กลุ่มเห็นต่างได้ร่วมเป็นที่ปรึกษาให้กับกระทรวงพลังงาน โดยบรรยากาศการหารือเป็นไปด้วยดีกลุ่มคปพ.เห็นดีด้วยกับนโยบายพลังงานเพื่อทุกคนเพื่อชุมชน

      นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดโอกาสให้แกนนำเครือข่ายประชาชนปฏิรูปพลังงาน (คปพ.) นำโดย นางสาวรสนา โตสิตระกูล อดีต สว. นายธีระชัย ภูวนาถนรานุบาล อดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง ม.ล.กรกสิวัฒน์ เกษมศรี นักวิชาการด้านพลังงาน และนายปานเทพ พัวพงษ์พันธ์ อดีตแกนนำพันธมิตรประชาชนเพื่อประชาธิปไตยเข้าพบ เพื่อแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายด้านพลังงานของประเทศ

     นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยว่า ในฐานะผู้กำหนดนโยบายพลังงาน ยินดีและพร้อมเปิดรับฟังทุกความคิดเห็นเกี่ยวกับนโยบายพลังงานจากทุกๆ ฝ่ายอยู่แล้ว เพราะความเห็นต่างไม่จำเป็นต้องเป็นความขัดแย้งเสมอไป ซึ่งหากเป็นข้อคิดเห็นที่จะช่วยขับเคลื่อนให้เกิดความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ เป็นประโยชน์ต่อประชาชนคนไทยทุกคน และสอดรับกับนโยบายของรัฐบาล ก็พร้อมที่จะนำทุกข้อคิดเห็นมาประกอบการพิจารณาปรับใช้ให้เหมาะสม และเปิดกว้างให้กลุ่มได้มาร่วมเป็นที่ปรึกษาให้กับกระทรวงพลังงานด้วย

      สำหรับ การรับฟังความคิดเห็นจากกลุ่ม คปพ.ในวันนี้ มีข้อเสนอแนะ 5 ประเด็น คือ 1. การจัดการผลประโยชน์ปลายน้ำ ราคาน้ำมัน ราคาก๊าซในประเทศ และผลกระทบต่อประชาชน 2. การจัดการผลประโยชน์ต้นน้ำระหว่างประเทศ กรณีพื้นที่ทับซ้อนไทย-กัมพูชา 3. การจัดการผลประโยชน์ต้นน้ำในประเทศ Production Sharing Contact 4. การแยกเป็น PTTOR แบ่งผลประโยชน์กระทรวงการคลังกับผู้ถือหุ้น และเลี่ยงกฎหมายรัฐวิสาหกิจ 5. การผลิตไฟฟ้าของ กฟผ. 51% ไม่เป็นธรรม

       -ประเด็นราคาขายปลีกพลังงาน คปพ.นำเสนอให้แก้ปัญหาที่โครงสร้างราคาแทนการใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิงอุดหนุน เพราะกองทุนน้ำมันฯก็นำเงินมาจากประชาชน สุดท้ายประชาชนเป็นผู้จ่ายแพงอยู่ดี โดยเสนอให้ลดต้นทุนที่เป็นค่าขนส่งเทียม โดยยกเลิกการกำหนดราคา ณ โรงกลั่น ซึ่งปัจจุบันอิงราคาสิงคโปร์บวกค่าขนส่งในการนำเข้า ซึ่งจะลดต้นทุนขนส่งได้ 50-60 สตางค์/ลิตร และปัจจุบันการกลั่นน้ำมันในไทยเกินความต้องการจนต้องส่งออกไป ควรลดกำลังการกลั่น ทบทวนบริหารผลประโยชน์ระหว่างโรงกลั่นกับประชาชน โรงกลั่นไม่ควรได้สิทธิประโยชน์มากเกินไป

Click Donate Support Web

ais 790x90

GC 950x120

sme 720x90

banpu 720x90 new1 1

apm

 

 

Facebook

5 ข่าวฮอตนิวส์!