Details

Category: พลังงาน

Published: Tuesday, 18 November 2014 23:19

Hits: 3108

ราคาน้ำมันปรับลด จากตัวเลข GDP ของญี่ปุ่นร่วง ส่อเค้าภาวะเศรษฐกิจถดถอย

  - ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสปรับลดลงหลังจากการประกาศตัวเลข GDP ของประเทศญี่ปุ่นติดลบมากถึง 1.6% ในไตรมาส 3 เทียบกับไตรสาม 3 ของปีก่อนหน้า ซึ่งเป็นการลดลงมากกว่าที่คาดการณ์ไว้เนื่องจากมีกำลังการบริโภคและการส่งออกที่ลดลง ส่งผลให้ญี่ปุ่นกำลังเผชิญกับภาวะตกต่ำทางเศรษฐกิจ จากการปรับลดลงของ GDP ของญี่ปุ่นนั้นส่งผลให้ตลาดมีความกังวลว่าจะมีอุปสงค์น้ำมันดิบลดลง โดยญี่ปุ่นเป็นผู้นำเข้าน้ำมันดิบเป็นอันดับ 4 ของโลก

  - ขณะที่ราคาน้ำมันดิบเบรนท์ปรับลดลงเช่นเดียวกัน สาเหตุจากความกังวลของตลาดว่าจะมีปริมาณน้ำมันดิบมากกว่าความต้องการใช้ โดยนักลงทุนยังคงจับตามองการประชุม OPEC ในวันที่ 27 พ.ย. นี้ว่าจะมีการปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบที่มีมากเกินกว่าความต้องการลงหรือไม่ ประกอบกับเวเนซูเอลาและรัสเซียได้มีการประชุมที่กรุงมอสโควถึงการร่วมมือกันที่จะป้องกันไม่ให้ราคาน้ำมันดิบลดลงไปมากกว่านี้

  - ซาอุดิอาระเบียซึ่งเป็นประเทศที่ส่งออกน้ำมันดิบรายใหญ่ที่สุดในโลกออกมาประกาศว่าการลดลงของราคาน้ำมันดิบนั้น ไม่ส่งผลกระทบโดยตรงต่องบประมาณของประเทศและงบประมาณค่าใช้จ่ายของรัฐบาลในปีหน้า ซึ่งทางซาอุดิอาระเบียเห็นว่าราคาน้ำมันดิบควรจะให้เป็นไปตามกลไลของตลาดเท่านั้น

  - ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมของสหรัฐฯ เดือน ต.ค. ปรับลดลงจากเดือน ก.ย. 0.1% ซึ่งสวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับเพิ่มขึ้น 0.2%  โดยการปรับลดลงนี้ได้รับแรงกดดันจากการปรับลดลงของภาคเหมืองแร่และภาคสาธารณูปโภค

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากความต้องการน้ำมันเบนซินยังคงซบเซา โดยเฉพาะจากประเทศที่มีกำลังการนำเข้าสูง เช่น อินโดนีเซีย และเวียดนาม โดยความต้องการน้ำมันเบนซินของอินโดนีเซียปรับลดลงหลังจากการกลับมาดำเนินการอีกครั้งจากการปิดซ่อมบำรุงของโรงกลั่นทั้ง 2 แห่งในประเทศ

  ราคาน้ำมันดีเซล ปรับเพิ่มขึ้นน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ อย่างไรก็ตาม ยังคงมีความต้องการน้ำมันดีเซลในภูมิภาคและประเทศจีนเพิ่มมากขึ้น ประกอบกับสามารถส่งออกน้ำมันดีเซลจากเอเซียและตะวันออกกลางไปยังยุโรปได้

ทิศทางราคาน้ำมันดิบ

  ไทยออยล์คาดราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสในสัปดาห์นี้จะเคลื่อนไหวที่กรอบ 73-78 เหรียญฯ ต่อบาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 77-83 เหรียญฯ

ปัจจัยที่น่าจับตามอง

  โรงกลั่นน้ำมันในสหรัฐฯ เริ่มทยอยกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุง รวมถึงอุณหภูมิของสหรัฐฯ ที่มีแนวโน้มปรับลดลงมากกว่าคาด ส่งผลให้อุปสงค์น้ำมันดิบปรับเพิ่มขึ้น อาจหนุนให้ราคาน้ำมันดิบสูงขึ้นตาม

  ติดตามแหล่งผลิตน้ำมันหลัก El Sharara ของลิเบีย ว่าจะสามารถกลับมาผลิตน้ำมันดิบได้ตามปกติหรือไม่ ซึ่งล่าสุดการผลิตน้ำมันดิบของลิเบียปรับลดต่ำลงแตะระดับ 500,000 ล้านบาร์เรลต่อวัน

  จับตาท่าทีของสมาชิกกลุ่มโอเปกว่าจะมีมติปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง ในการประชุมกลุ่ม วันที่ 27 พ.ย. นี้หรือไม่ โดยล่าสุดรัฐมนตรีกระทรวงน้ำมันของทางซาอุดิอาระเบียและคูเวต เปิดเผยว่า ไม่ควรตื่นตระหนกกับราคาน้ำมันที่อยู่ในระดับต่ำ และยังคงไม่ปรับลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบลง